ประเพณีรับขวัญแม่โพสพ ของบ้านไผ่ขอน้ำ ต. มะตูม อ. พรหมพิราม พิษณุโลก มีคู่กับหมู่บ้านมาช้านาน คุณพ่อของผู้ใหญ่ชวนอายุ 107 ปี เล่าว่า มีมาตั้งแต่เกิด เป็นประเพณีที่คู่กับชาวนาไทยเรามานานกว่าชั่วอายุคนแล้ว โดยกำหนดให้จัดงานตามประเพณีนี้ขึ้นในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปีไม่เคยเว้น ในขณะที่หมู่บ้านอื่นๆ รอบบ้านไผ่ขอน้ำทำเพียงการทำบุญลานง่ายๆ ด้วยการเรี่ยรายข้าวเปลือกเข้าวัดเท่านั้น
การรับขวัญแม่โพสพ กำหนดให้เฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานแล้วเท่านั้นเข้าร่วมพิธี เนื่องจากความเชื่อว่าในอดีตแม่โพสพเคยปรากฎกายให้ผู้คนพบเห็นอยู่เนืองๆ แต่มีครั้งหนึ่ง ด้วยความสวยงามของแม่โพสพจึงถูกชายหนุ่มในหมู่บ้านเกี๊ยวพาราสีและลวนลาม จึงโกรธมากและไม่เคยปรากฎกายให้ใครเห็นอีกเลย หลังจากนั้นมาจึงกำหนดให้เฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการครองเรือนแล้วเท่านั้น สามารถรับขวัญแม่โพสพกลับบ้าน (เข้ายุ้ง) ประเพณีนี้จึงเปรียบเสมือนการยกย่องสตรีให้เคียงบ่าเคียงไหล่กับบุรุษในประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากิน แต่เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวโยงกับศาสนา จึงมีบางส่วนของงานที่ต้องอาศัยผู้ชายเข้าร่วมงานบ้าง เช่น การนำไหว้พระ การเวียนเทียน การเล่นกลองมังคละและวงปี่พาทย์ให้จังหวะการรำของแม่โพสพ เป็นต้น
การรับขวัญแม่โพสพ ทุกบ้านจะทำบายศรี (นมแมว) ประดับประดาตกแต่งด้วยดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง ด้ายและผ้าแดง-ขาว ธูป ขันใส่น้ำเล็กๆ ข้าวสุก ข้าวเปลือก ไข่ต้ม พรมน้ำอบ น้ำหอม และนำบายศรีใส่ลงในขันเงินแทนพาน ท้ายที่สุดหุ้มด้วยผ้าสไบสีสวยงาม มีบ้างบางขันที่พบว่ามีบุหรี่ใส่ลงไปด้วย
ตอนเช้าของวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 กลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นผู้หญิงจะไปช่วยกันเตรียมสถานที่สำหรับทำพิธีรับขวัญแม่โพสพที่วัด เป็นการเตรียมต้นบายศรีใหญ่ ซึ่งนำเอาบายศรีขนาดใหญ่มาทำเสาบายศรีโดยนำมาวางหงาย-คว่ำบนเสาไม้ มีเครื่องประดับพวกแก้วแหวนที่ผู้หญิงชอบห้อยประดับบ้าง
เตรียมบายศรีสำหรับทำต้นบายศรี
ทำต้นบายศรีจากบายศรีที่เตรียมไว้ นำมาใส่ไว้ที่เสาไม้ ประดับด้วยเครื่องประดับ
ต้นบายศรีที่สมบูรณ์แล้วจะหุ้มด้วยผ้าลายลูกไม้โปร่ง สีเหลืองเป็นสีที่แม่โพสพชอบมากที่สุด (ข้าวเปลือกมีสีเหลือง) พร้อมแล้วสำหรับการทำพิธีในตอนบ่าย
พิธีรับขวัญแม่โพสพของบ้านไผ่ขอน้ำจะเริ่มตั้งขบวนจากบ้านเลขที่ 1 ของหมู่บ้านในบ่ายที่อากาศร้อนสุดๆ เวลาประมาณ บ่าย 2 ให้จังหวะขบวนด้วยกลองมังคละที่เสียงดังฮึกเหิม (กลุ่มกลองนี้จะอยู่ท้ายขบวนเสมอ) ในบ้านแรกๆ ขบวนจะมีขนาดสั้นๆ และขยายกลุ่มผู้เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผ่านถนนเส้นที่ติดกับแม่น้ำน่าน และตลอดเส้นทางจะมีผู้หญิงแต่งตัวสวยงามอุ้มขันบายศรีทีผ่านการตกแต่งสวยงามเข้าร่วมขบวนเรื่อยๆ มากขึ้น มากขึ้น โดยคนที่อาศัยอยู่ไกลถนนออกไปจะเดินออกมารอขบวนตามจุดต่างๆ ของถนน โดยไม่ต้องนัดหมาย (น่าจะอาศัยเสียงกลองบอกความใกล้ไกลของขบวน) ขณะเคลื่อนขบวนก็มีการรำ ฟ้อนไปตลอดเส้นทาง จนถึงวัด
กลองมังคละทำหน้าที่ เตือนคนเข้าร่วมขบวนที่อยู่ที่บ้านและให้จังหวะการรำของแม่โพสพในขบวน
มีผู้มารอร่วมขบวนเป็นระยะ ๆ ตลอดทาง
แม่น้ำน่าน หล่อเลี้ยงชีวิตชาวไผ่ขอน้ำและชาวพิษณุโลก
ก่อนนำขันบายศรีขึ้นไปบนศาลา ต้องแห่ขบวนวนซ้ายรอบโบสถ์ 3 รอบ จากนั้นนำขันบายศรีขึ้นศาลาไปวางรวมกันไว้ บนตั่งกลางโถงศาลาแต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีการวางรวมกันเป็นกลุ่มๆ ให้พอรู้ว่าของใครอยู่กับกลุ่มไหน เมื่อวางเสร็จแล้ว มีการนำน้ำหอมมาประพรมไปทั่วขันบายศรีทั้งหมด เป็นระยะ โดยคนที่ทำ คือคนที่เป็นร่างทรงของแม่โพสพ ที่มีมากมายหลายคน ทั้งสาวและแก่ แต่คนส่วนใหญ่จะออกไปนั่งล้อมรอบตั่งที่วางขันบายศรีไว้ โดยมีแม่โพสพที่เข้าทรงแล้วร่ายรำตามจังหวะเพลงไปเรื่อยๆ เพื่อรอขบวนของอีก 2 หมู่บ้านที่เข้าร่วมประเพณีเดียวกันเสมอมา
พอมาถึงวัดก็เริ่มรายการร่ายรำทันที ทั้งสาวทั้งชรา ไม่มีใครยอมใคร
วงมังคละส่งภาระต่อมาให้วงปี่พาทย์ทำหน้าที่ต่อ
ยังไม่จบค่ะ น่าจะยืดเยื้อไปอีก 2 ตอน สำหรับประเพณีรับขวัญ อยากใส่รูปให้ดูเยอะๆ ค่ะ
*** หมายเหตุตบท้าย หนึ่ง ผู้ร่วมขบวนหลายคนยืนยันว่า ไม่เคยมีการเป็นลมหน้ามืดเกิดขึ้นในขบวนเลย เพราะเหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ แม่โพสพประคองไว้
*** หมายเหตุตบท้าย สอง ผู้ชายในหมู่บ้าน บอกว่า เป็นงานของผู้หญิงที่ผู้ชายในหมู่บ้านส่วนใหญ่ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะไม่มีโอกาสเข้าร่วมงาน
เก็บรายละเอียดได้ดีเช่นเคยนะวันเพ็ญ
ผู้ชายห้ามรำร่วม แต่ถ้าเป็นตุ๊ด แม่โพสพ จะห้ามไหมหนอ
เวลาอยู่ร่วมในพิธีรู้สึก ขนลุก ทุกครั้ง
คงเป็นความขลังและความเชื่อที่มีมานาน
มีโอกาสอยากชวนทุกคนไปร่วมด้วยจัง
เพราะเราทุกคนมีข้าวกินเพราะแม่โพสพและชาวนา
เก็บรายละเอียดได้เยี่ยมเลยพี่ ... อีกอย่าง บรรยายได้ละเอียดมากเลยครับ ใครอ่านแล้วเหมือนกับไปอยู่ในพิธีด้วยเลยงะ พี่ๆๆ แต่ขอบอกอีกอย่างนะมุมกล้องพี่นี่ แจ๋วๆ จริงๆ สายมากๆ
แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า พี่วันเพ็ญ แอบไปนั่งคุยกับพ่อผู้ใหญ่ชวนตอนไหนเนี๊ยะ ส่วนอีกเรื่องนึงก็ ...... งานนี้พี่วันเพ็ญหมดสิทธิ อุ้มขันข้าวเลย 55555555555 เพราะยังไม่เคยผ่านการครองเรือนมาก่อน แม่โพสพ ห้าม อิๆๆๆ ....... อะล้อเล่นนนน
สวัสดีครับ แวะมาทักทาย มาอ่าน มาชมเอาความรู้พัฒนาสมองครับ
อ่านแล้วเหมือนได้ไปร่วมในเหตุการณ์ เลยครับ ว่าแต่ว่าวิดีโอที่ถ่ายทำมาเสร็จหรือยังไม่รู้ครับ
อยากได้รูป บายศรีหลวง และบายศรีนมแมว ครับผมใครมี อนุเคราะห์หน่อย