6 ข้อดี ๆ จากนทานอีสป


6 ข้อดี ๆ

6 ข้อคิดดีๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจลืมไปแล้ว

 1. ไม้นวมดีกว่าไม้แข็ง
          จากเรื่อง ลมกับพระอาทิตย์ ที่แข่งว่าใครจะทำให้นายพรานถอดเสื้อคลุมออกได้ ลมพยายามพัดลมให้แรงที่สุด แต่ยิ่งพัดแรงเท่าไหร่ นายพรานก็ยิ่งเอาเสื้อคลุมกระชับตัวเท่านั้น แต่พระอาทิตย์เพียงส่องแดดเรื่อยๆ นายพรานก็เริ่มร้อนจนต้องถอดเสื้อคลุมออก

          แทนที่เราจะวีนแตก โยนระเบิดใส่เพื่อน ทำไมเราไม่ใจเย็นๆค่อยๆ พูดตรงๆ อย่างใจเย็น หรือคุยกันบอกให้เพื่อนช่วยคุยกันหน่อย ไม่มีใครชอบถูกสั่งหรือบังคับให้ทำหรอก เพราะถ้าเป็นเรา เราคงไม่อยากได้ยินสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกัน

 2. อย่าหาเหตุผลจากคนพาล
          จากเรื่อง ลูกแกะกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกหาเรื่องจะกินลูกแกะ บอกว่าลูกแกะทำน้ำลำธารขุ่น ไม่ว่าลูกแกะจะแก้ตัวยังไงก็ไม่รอด

          ช่วงเวลาที่คนโกรธ มักจะเป็นเวลาที่สมองส่วนเหตุผลหยุดทำงาน เพราะบางครั้งอาการพลุ่งพล่านที่เห็นนั้นอาจไม่ได้ต้องการคำแก้ตัวใดๆ เป็นแค่การอยากระบาย และถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่ไม่เปิดใจกว้าง เก็บพลังการอธิบายเอาไปไว้ให้การให้อภัยจะดีกว่า

 3. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
          จากเรื่อง สุนัขคาบเนื้อกับเงา สุนัขคาบชิ้นเนื้อใหญ่ข้ามแม่น้ำ เมื่อก้มมองเงาตัวเองคิดว่าสุนัขอีกตัวมีเนื้อชิ้นใหญ่กว่า จึงคายก้อนเนื้อที่มีแล้วกระโจนลงน้ำ สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย

          ทำไมเราจะต้องแสวงหาคนที่ดีกว่า เมื่อเรามีความสุขดีอยู่กับแฟนแล้ว ถ้าสายตาคุณไม่เคยหยุดนิ่ง สอดส่องหาคนที่ดีกว่าตลอดเวลา คุณคงจะต้องเสียเวลามองหาแฟนคนใหม่ตลอดไป เราไม่มีทางรู้เลยว่ากิ๊กคนใหม่นั้นดีกว่าแฟนเราจริงหรือสร้างภาพ ถ้าปล่อยให้คนดีหลุดมือไปเราอาจต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า

 4. ทุกอย่างต้องเกื้อกูลกัน
          จากนิทานเรื่อง ร่างกายของเรา เมื่ออวัยวะอื่นๆ อิจฉาท้อง ที่ได้อาหารแต่ตัวเองต้องทำงานหนัก จึงประท้วงมือไม่ยอมหยิบอาหาร ฟันไม้ยอมเคี้ยว ผ่านไปสองสามวันอวัยวะทุกส่วนไม่มีแรงเหลือ เพราะทุกคนต้องทำงานร่วมกันถึงจะอยู่ได้

          ไม่มีใครเคยบอกว่า one man show คือการทำงานที่ดีที่ได้ผลดีที่สุด การอยู่ร่วมกับคนอื่นด้วนความเอื้ออาทรเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งพึงต้องมี คุณไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการความช่วยเหลือจากใคร เมื่อใด จำไว้ว่าคุณไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน งานบางอย่างต้องการพลังสร้างสรรค์ ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกับคุณบ้างจริงๆ คุณอาจทำงานได้ยากกว่านี้

 5. อย่าประมาท
          จากเรื่อง ตั๊กแตนกับมด ระหว่างฤดูร้อน มดทำงานทั้งวัน สร้างรังและกักตุนอาหาร แต่ตั๊กแตนเอาแต่ร้องเพลงเที่ยวเล่น เมื่อฤดูหนาวมาถึง ตั๊กแตนจึงหิวโซส่วนมดมีรังดีๆอยู่ และมีอาหารพร้อมตลอด

          ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตเราต้องเจอกับอะไรบ้าง จู่ๆ อาจไม่สบายจนทำงานไม่ได้ อาจจะต้องออกจากงาน ถ้าคุณไม่ระวังค่าใช้จ่าย ไม่เก็บออมไว้เลย จะมีชีวิตที่มั่นคงได้อย่างไร

 6. ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม
          จากเรื่อง กระต่ายกับเต่า กระต่ายวิ่งด้วยความรวดเร็วแต่ชะล่าใจ ในขณะที่เต้าคลานช้าแต่มีความพยายามสม่ำเสมอ ทำให้เข้าเส้นชัยก่อนและชนะในการแข่งขัน

          ใช้เวลาศึกษากันและกันไปเรื่อยๆ อย่าให้ “ความใคร่ ความหลง” ที่ร้อนแรงตอนคบกันใหม่ๆ มีอิทธิพลกับการตัดสินใจทุกอย่าง ข่มใจตัวเองบ้าง


คำสำคัญ (Tags): #6 ข้อดี ๆ
หมายเลขบันทึก: 93468เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2007 18:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

นิทานนี้หล่ะครับ

เป็นเครื่องมือในการสอนเด็กได้ดีที่สุดเลยครับ

บางครั้งง่าย ๆ ไม่กี่บันทัด

แต่มันก้ซึมซับเข้าไปในตัวเด็กได้ดีที่สุดเลย

แม้นแต่ผู้ใหญ่เองก็นำเอาไปใช้ได้ครับผม

พี่อยากเห็นหน้าคนเขียนแล้ว หารูปสวยๆมาลงได้แล้วค่ะจะได้รู้จักกัน

สวัสดีค่ะ

ชอบเรื่องที่นำมาเล่าค่ะ...เตือนสติเตือนใจได้ดีแท้ๆ

ขอบคุณนะคะ

ด.ญ.วรนิษฐา เนื่องจุ้ย

ได้ความรู้มากมายจากการได้อ่านเรื่องเล่าทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเรื่อง 6 ข้อดีค่ะ

ดีครับเป็นไงสบายดีปะ

ดีจังค่ะ ชอบมาก เอามาลงอีกนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท