เส้นทางที่ 3 : เบซากี-กลุงกุง-กัวลาวา-กัวกาจาห์-เลกองแดนซ์


Besakih - Klungkung - Goa Lawah - Goa Gajah - Legong Dance

            ฝนตกตลอดคืนทำเอาหลับสบายจนไม่อยากตื่นเลยค่ะ ถ้าจะเอาบรรยากาศสไตล์บาหลีจริงๆ ต้องอยู่เกสต์เฮ้าส์นะคะ เพราะจะได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบชาวบ้านจริงๆ วันนี้ตื่นเช้าหน่อยเพราะจะไปวัดเบซากี หนึ่งในวัดขึ้นชื่อของบาหลี ที่ใครไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงค่ะ อย่างนี้ต้องไปดูให้เห็นกับตา

            ย้ายที่พักอีกรอบเพราะไปเจอ Budi’s house ที่หลังใหญ่และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ราคาแค่ 60,000 IDR (ดูใน โรงแรมที่พักในบาหลี) คนบาหลีน่ารักค่ะ ให้ Check-In แต่เช้าก่อนเวลาปกติ แถมยังให้ยืม Selendang (เซเรนดาง) หรือผ้าคาดเอว ที่จำเป็นต้องใช้เวลาเข้าวัดค่ะ เพื่อแสดงความเคารพในสถานที่ ก่อนไปเราก็จัดการมื้อเช้าที่ร้านสะเต๊ะชื่อดังแถวๆ ตลาดอูบูดสักมื้อ กินสะเต๊ะไก่ (Sate Ayum) คู่กับ Lontong ที่เป็นข้าวห่อใบตองนึ่ง 3 ชม.แกะออกมาจะมีสีเขียวอ่อนๆ หอมกลิ่นใบตอง เหนียวนุ่มกว่าข้าวปกติ เราเรียกข้าว 3 in 1 เพราะใช้ได้ทั้งนึ่ง ย่างและอุ่น ตามแต่สไตล์ที่ชอบ อร่อยขนาดที่ว่าไม่หิวเลยแต่ก็กินจนหมดค่ะ (ดูใน อาหารการกินในบาหลี

            บาหลีมักจะมีรูปปั้นสวยๆ ตรงทางแยกเสมอ คล้ายๆ วงเวียนแบบบ้านเรา แต่ไม่ต้องเวียนรถรอบนะคะ แยกขวา แยกซ้าย ก็หักเลย อย่าไปเผลอวนรอบรูปปั้นเชียวนะคะ นี่เป็นอีกตัวอย่างที่ประทับใจค่ะ อยู่ตรงทางแยกเล็กๆ ที่เป็นทางผ่านเข้า-ออกอูบูด

              ระหว่างทางขับรถไปเบซากี ก็ได้พบตำรวจบาหลีเป็นครั้งแรกค่ะ โชคดีที่ไม่โดนเรียกตรวจ สารภาพตรงๆ ว่าไม่มีใบขับขี่สากลหรอกค่ะ อาศัยว่าหน้าคล้ายๆ คนอินโด เลยไม่เคยโดนจับสักครั้ง ตำรวจเค้าไม่ได้มาตั้งด่านจับแบบบ้านเราหรอกนะคะ แค่มาเคลียร์ทางให้ขบวนรถมอเตอร์ไซค์กว่าร้อยคันที่วิ่งเป็นคาราวานเท่านั้นเอง ขบวนเท่ห์มากค่ะ มีรถตำรวจนำทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ คล้ายๆ กับขบวนนำรถนายกฯ บ้านเราเชียวนะคะ คาราวานมอเตอร์ไซค์นี้นำโดยรถใหญ่ๆ อย่างช็อปเปอร์ ตามด้วยขนาดรองลงมา แล้วก็เวสป้า (รถสุดเลิฟ) ปิดท้ายด้วยมอเตอร์ไซค์จ่ายตลาด...เรียกว่าเรียงตามลำดับราคานั่นแหละค่ะ

            เกาะบาหลีเต็มไปด้วยวัดสไตล์ฮินดูที่สวยงามแปลกตา แค่วัดที่อยู่ทางผ่านไปที่สำคัญๆ เรายังอดหยุดแวะไม่ได้  ต้นไม้บ้านเค้าก็ใหญ่มาก การเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ทรงสวย ริมถนน จนขนาดกิ่งระลงมาเกือบถึงหลังคารถ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บาหลีค่ะ ภาพนี้เป็นแค่วัดเล็กๆ ที่ขับผ่านนะคะ 

 

            ถนนหนทางที่ไปเบซากีคล้ายๆ แถบภาคเหนือค่ะ ระยะทางจากอูบูดประมาณ 52 กม. ถนนคดโค้งและเต็มไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง เส้นทางประมาณแพร่-น่าน แต่ไม่ถึงกับโค้งเยอะมากแบบเส้นแม่ฮ่องสอนนะคะ บรรยากาศร่มรื่น ยิ่งเมื่อคืนฝนตกด้วยแล้วเหมือนได้ฟอกปอดเลยค่ะ  

            แล้วก็มาถึงวัดเบซากีเวลาประมาณเก้าโมง เป็นนักท่องเที่ยวคนแรกที่มาถึงในวันนี้ค่ะ คำเตือนสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มานี่คือให้ระวังเรื่องไกด์และเจ้าหน้าที่ เราเจอตั้งแต่ด่านแรกคือตอนจ่ายเงินค่าเข้า ต้องเตรียมเงินให้พอดีนะคะ 8,000 IDR เพราะเค้าจะบอกว่าไม่มีเงินทอนหลังจากเรายื่นเงินไปแล้ว หลังจากนั้นเมื่อขับผ่านเข้าไปจอดรถ ก่อนจะเดินเข้าเขตวัด ต้องแวะไปยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ที่โต๊ะ Tourist Information ดูก่อน จากนั้นเค้าก็จะจัดไกด์ให้เรา

            ขนาดบอกว่าไม่เอาไกด์นะคะ ยังอุตส่าห์มีคนเดินตาม เราก็บอกไปตรงๆ ว่าเราไม่ต้องการไกด์ แกถามว่ามาจากไหน พอบอกว่าไทยแลนด์ ก็เหมือนกับจะเข้าใจค่ะ แสดงว่าเจอลูกค้าแบบนี้เยอะ เพราะคนไทยเรามักจะตักเตือนกันเสมอก่อนจะเดินทางไกลไปไหน เพื่อไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่เดินตามเรามาพักหนึ่งแล้วคงจะเสียดายลูกค้ารายแรก เดี๋ยวจะฤกษ์ไม่ดีตั้งแต่หัววัน เลยพยายามต่อรองบอกว่าเค้าคิดถูกมาก ต่อไปต่อมาเราเลยยอมที่จะจ่ายแค่ 10,000 IDR หรือประมาณ 40 บาท เพราะกำลังอยากได้คนช่วยถ่ายรูปให้พอดี..ไปคนเดียวอยากมีรูปก็ต้องยอมจ่ายบ้างค่ะ..แต่ยังไงก็ไม่ยอมจ่ายแพงเด็ดขาด

            ทางเดินไปตัววัดจริงๆ ไกลเหมือนกันนะคะ พ่อไกด์ตัวดีของเราเจอต่อราคาไปขนาดนั้น แกเลยหันหลังเดินกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ขี่ไปดีกว่า เราก็ไม่ยอมน้อยหน้าค่ะ โบกรถแกที่ขี่เร็วเป็นจรวดแบบตั้งใจจะหนีเราซะก่อน ขอติดรถไปด้วยแต่จ่ายในราคาเท่าเดิม โดนส่ายหัวเล็กน้อย..แต่ก็ยอมโดยดี...ฮา

            ภาษาอังกฤษของไกด์ที่นี่ถือว่าดีมากค่ะ แสดงว่ามีการศึกษาไม่น้อย เราก็มีใจยุติธรรมอยู่บ้าง จ่ายถูกจะเอาอะไรมากนัก อาศัยแค่ให้เค้าถ่ายรูปให้บ้างเล็กน้อย แล้วก็ชวนคุยเหมือนเป็นเพื่อนกัน เรื่อยๆ ค่ะ แกก็แก่แล้ว เรามันพวกบ้าพลัง ก็เดินแบบไม่รอใคร ถ่ายๆๆๆ แล้วก็กินลมชมวิวรอไกด์เดินตามมา พอถึงบนวัดไกด์จะชวนเราให้ทำบุญ โดยถือกระทงดอกไม้มายื่นให้ พอจะเดาได้ว่าจบท้ายต้องเอาเงินใส่ให้แล้วแกก็จะแอบหยิบเข้ากระเป๋าแน่ๆ เพราะเป็นแค่ลานโล่งไม่มีตู้รับบริจาคแบบบ้านเรา...ไม่รู้จะมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่า แต่จากกิตติศัพท์ก็คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น  เลยปฏิเสธไปอย่างงดงาม ไม่ให้เสียน้ำใจ แล้วก็รีบเดินต่อไป

            แกคงหงุดหงิดไม่น้อยค่ะ เพราะหลังจากนั้นก็เดินตามแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ เราเลยไม่ค่อยกล้าให้ถ่ายรูปเยอะนัก เว้นแต่จุดสำคัญที่สวยจริงๆ แต่ต้องยอมรับนะคะ ถ้าไม่ได้ถ่ายเองอย่าหวังว่าจะให้ใครมาถ่ายรูปสวยๆ ให้เรา แค่มีรูปเราติดอยู่ในกล้องบ้างก็โชคดีแล้วค่ะ ก่อนจากกันตอนเราส่งมอบเงินให้ แกก็ทำหน้าตาน่าสงสารขอเงินเพิ่มอีก เราไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำนะคะ เค้าอุตส่าห์เดินไปกับเราตั้งไกล แถมถ่ายรูปให้อีกต่างหาก เลยยื่นให้ไป 15,000 IDR 60 บาทไม่ได้แพงมากเกินไปหรอกค่ะ...แล้วก็จากกันด้วยดี

            ขากลับสวนกับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามา ถือว่าโชคดีที่ได้วิวสวยๆ แบบไม่มีนักท่องเที่ยวติดมาในกล้องค่ะ ถ้าผ่านตรงทางออกใกล้ๆ กับ Tourist Information อย่าลืมแหงนหน้ามองบนฟ้านะคะ ไม่ใช่จะให้ชื่นชมท้องฟ้าหรอกค่ะ แต่จะให้ดูแมงมุงและใยจำนวนมาก ที่เกาะโยงเต็มไปหมดจนน่าตกใจ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ยิ่งถ้าแม่กับลูกเรียงกันอยู่เป็นแถว ถ่ายขึ้นไปบนฟ้า  ก็ดูสวยไปอีกแบบค่ะ

 เส้นทางที่ 3 : เบซากี-กลุงกุง-กัวลาวา-กัวกาจาห์-เลกองแดนซ์ (ต่อ)

คำสำคัญ (Tags): #bali#indonesia#ubud
หมายเลขบันทึก: 93063เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2007 14:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 13:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

 ตามมาอ่านอีกแล้วค่ะ รูปสวยค่ะ ดูสดชื่น เขียวครึ้มดีจังเลย อ่านแล้วเห็นภาพเลยล่ะค่ะ ยิ่งดูรูปประกอบแล้วยิ่งอยากไปเร็ว ๆ เลยล่ะค่ะ

 รูปคุณ Porjai ที่อยู่ใน slide show ที่ถ่ายกับคล้าย ๆ วัด มีหลังคาสวย ๆ น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าถ่ายที่ไหนคะ สวยจัง ( จะนึกออกมั้ยคะว่ารูปไหน ไม่รู้จะบรรยายยังไงน่ะค่ะ คือ ไม่ใช่รูปทานาลอต และคินตามณี และไม่ใช่ริมหน้าผาริมทะเล และในรีสอร์ตที่ถ่ายกับดอกกล้วยไม้ ) อยากไปถ่ายรูปแบบนี้บ้างจัง คนที่ถ่ายรูปให้เค้าถ่ายจัดมุมได้โอเคเลยนะคะ

นึกอยู่นานเหมือนกันค่ะว่ารูปไหน เดาเอาว่าเป็นรูปที่ถ่ายกับป้าย Sumatera Barat ใช่หรือเปล่าคะ ถ้าชอบสไตล์แบบนี้ให้รออ่านวันสุดท้ายเลยค่ะ ไปเที่ยวทามานมินิ ที่จาการ์ตา เป็นเมืองจำลองของอินโดนีเซียทั้งเกาะ ซึ่งจะรวมสถานที่สำคัญและบ้านสไตล์ต่างๆ ในทุกเกาะมาไว้ด้วยกัน มีแต่แบบสวยๆ แปลกตา น่าสนใจมากค่ะ

พูดถึง Besakih...

ตอนผมยื่นบัตรให้ดูที่โต๊ะ Tourist Information นั้น (ตอนแรกเดินผ่านไปแบบไม่สนใจ แต่ก็ถูกตามตื๊อจนต้องเดินกลับมาแสดงบัตร) เค้าก็บอกว่า ต้องมีไกด์พาขึ้นไปด้วยเค้าคิด 20,000 ผมตอบไปว่าจะบ้าเหรอ ในหนังสือที่อ่านมาก็บอกว่าไม่จำเป็น.. แล้วก็อ้าง Lonely Planet ไป (จริงๆไม่ได้อ่านหรอก หุ หุ) พอได้ยินอย่างนั้น ก็เริ่มมีคนมามุงเยอะขึ้นพร้อมบอกว่า ไม่ได้ ยังไงก็ต้องจ่าย.. เลยตอบไปว่า ตกลง แต่จ่ายแค่หมื่นเดียวนะ เค้าก็ยอมแบบ.. ไม่ต่อรองเลย

แต่ก็ดีครับ เพราะไกด์ที่ไปด้วย เป็นเด็กหนุ่มภาษาอังกฤษดี เลยได้ความรู้ติดมาอีกเป็นกระบุง ชวนคุยกันเหมือนเพื่อน ทำให้รู้ว่าแต่งงานแล้ว แต่ชีวิตหลังแต่งงานไม่ราบรื่นนักเพราะอยู่กันคนละวรรณะ

สุดท้ายจากกันด้วยดี พร้อมทิปอีก 5000 รวมเป็นหมื่นห้าครับ

 

มีเรื่องตลกอีกอย่างคือ หลังจากจอดรถเสร็จแล้ว ได้เข้าไปซื้อน้ำโค๊กกระป๋องกับร้านแผงลอยแถวที่จอดรถ ถามว่าราคาเท่าไหร่ เค้าบอกว่าหมื่นนึง ผมตอบไปว่าโห..ทำไมแพงจัง  แม่ค้ารีบตอบกลับมาเลยว่า เอ้า 5000 ก็ได้.. ผมงง แล้วหันไปยิ้มกับภรรยา เอาว่ะ 20 บาท พอรับได้กับอาหารบนเขาสูงที่ต้องขนส่งกันไกลกว่าพื้นราบข้างล่าง.. 

ฮา...รู้สึกทุกคนจะโดนพิษสงเจ้าไกด์ที่เบซากีนะคะ

เหมือนกับนัดกันไว้เลย จ่ายเท่ากันค่ะ แต่ก็ไม่แพงนะคะสำหรับมิตรภาพ และข้อมูลที่ได้รับ...ถือว่าช่วยๆ กันค่ะ

สำหรับราคาของ นี่ขนาดยังไม่ได้ต่อนะคะเนี่ย ถ้าต่อแล้วสงสัยเหลือกระป๋องละ 10 บาทแน่เลย

  จะมาบอกว่า รูปใน slide show ที่ชอบน่ะค่ะ ที่ว่าถ่ายในที่คล้าย ๆ วัดน่ะค่ะ ไม่ใช่รูปกับป้ายหรอกค่ะ ไปดูมาใหม่แล้วค่ะ บอกเป็นเลขที่ของรูปดีกว่าคุยกันง่ายกว่านะคะ รูปที่ DSCN 7470 น่ะค่ะ ที่ใส่เสื้อสีดำน่ะค่ะ วิวดีนะคะ ความจริงรูปคุณพอใจสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ วิวก็ดี แต่รูปที่ถามถึงเห็นวิวดีน่ะค่ะ เลยอยากรู้ว่าถ่ายที่ไหนค่ะ ขอบคุณนะคะ

DSCN 7470 ถ่ายที่ Besakih ค่ะ เป็นมุมที่มองจากด้านบน ตอนกำลังเดินลงมาค่ะ

อิ อิ...อย่าชมมากเลยค่ะ เดี๋ยวเขิน นานๆ จะมีคนชม เพราะใครๆ เห็นก็บ่น อ้วน ดำ โทรม กันเป็นแถวเลย..เฮ้อ!

ตอนนี้ค่าเช้าชมเค้าเก็บ 10000Rp แล้วนะคะ (ไม่ใช่ 8000Rp แล้ว)คงจะแบบว่าจะได้ไม่ต้องโดนนักท่องเที่ยวบ่นเรื่องไม่ยอมทอนมั้ง แต่ยังอุตส่าห์จะมีทริคโกงเล็ก ๆ นะ

ตอนพี่ไปเก็บค่าตั๋ว 10000 ใช่ไม๊ แล้วฉีกคูปองค่าจอดรถมาให้อีก 5000 พี่บอกว่า

ไม่จ่ายค่ารถเพราะไม่ใช่รถพี่ รถเช่ามาให้ไปเก็บที่คนขับนู่น ก้อเลยเก็บคูปอง 5000

คืนไป แต่ยังรั้นฉีกคูปอง 2000มาให้เรา พอถามกลับไปว่าค่าอะไร บอกมาว่าค่าจอด

อีกแล้ว (มันพูดไม่ฟังนะเนี่ย) พี่เลยพูดเสียงดังกลับไปว่าไม่จ่ายค่าจอดอะไรทั้งนั้น

แหละ เค้าเลยยอมแบบไม่แฮปปี้เท่าไหร่ (ตุกติกน่าดูเลย) ดีว่าได้ข้อมูลดี ๆ จาก

น้องพอใจไปพอสมควรแล้วนะเนี่ย

อีกเรื่องนึงนะ ตอนเดินขึ้นไปวัด ทางมันไกลใช่ไม๊ สุดแสนจะรำคาญบรรดาไกด์และ

ขอทาน (ที่มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงที่เราไปเลย รวมถึงในอูบูดด้วย ตามถนนหนทางก้อเยอะ) เสนอบริการพาชมวัดอยู่นั่นแหละ บอกไม่เอา ๆ ก้อผลัดหน้ากันเข้ามาอยู่นั่น

แหละ กว่าจะเดินถึงวัด เสียอารมณ์พอสมควร แถมพอถึงวัดแล้วนะ มีอีกคนมาเดินตื๊อ

พอบอกไปว่าไม่เอาไกด์ พี่แกบอกว่าไม่เอาไกด์เราขึ้นบันไดไปดูข้างบนไม่ได้นะ

(อ้างตัวว่าเป็น guardian)ถ้าจะขึ้นต้องมีคนท้องถิ่นไปกับเรา มีการขวางบันไดไม่

ให้เราขึ้นด้วย เราก้อย้อนถามไปว่าเมื่อกี้เราเห็นนักท่องเที่ยวแม่ลูกเดินลงมาไม่เห็นมี

คนท้องถิ่นเลย เถียงข้าง ๆ คู ๆ เราว่ามี ยังไงก้อต้องมี เราเลยเดินหนีไปทางบันไดอีก

ด้าน มันตามมาซักระยะนึงก้อเลิก เห็นเราไม่ฟังเดินขึ้นบันไดไปเลย วิวและบรรยากาศ

ข้างบนสวยนะ เสียอารมณ์กับพวกไกด์ขูดรีด + ขอทานเยอะแยะ + ฝนที่ตกลงมา

ตลอดเวลาจนเปียกปอนนี่แหละ

โห...เป็นทริปที่ผจญภัยมากๆ เลย ถ้าคนใจไม่แข็งพอคงแย่ไม่น้อย

สงสัยเป็นช่วงเทศกาลด้วยนะคะ เลยเจอเรื่องวุ่นวายมากขนาดนี้

ไม่น่าเชื่อว่าช่วงนี้บาหลียังมีฝน แสดงว่าฝนคงตกตลอดปีนะคะ

อย่างนี้นักท่องเที่ยวจะประทับใจบาหลีอยู่ไหมนี่

คนพวกนี้ไม่น่ามาทำให้เสียภาพพจน์เลยเนอะ

อืมใช่ ไม่น่าทำให้เสียภาพพจน์เลย แต่คอนเฟิร์มว่าคนท้องถิ่นน่ารักจริง ๆ นะ อย่างเช่นวันกลับนะ พี่จ้าง shuttle bus มาส่งที่สนามบิน (เค้าเก็บ 50000Rp)ระหว่างนั่งรอรถมารับก้อคุยกับเจ้าของบริษัทไปพลาง ๆ เล่าเรื่องที่ประสบมาให้เค้าฟัง เค้าก้อทำหน้าเศร้าซึมเลย แล้วบอกเราว่าคนพวกนั้นไม่ใช่คนท้องถิ่นหรอก (แต่ไม่ได้บอกว่ามาจากไหนนะ) เค้ารับฟังอย่างดีเลย พร้อมกับบอกว่าดีแล้วสำหรับข้อมูล คราวหน้าเค้าจะเล่าให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ไปตรวจตราฟังด้วย อิ ๆ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตุช่วงปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก้อจริงนะ แต่ก้อไม่ได้แบบว่าเยอะจนแน่นขนัด ช่วงกลางวันตามถนนหรือภัตตาคารก้อไม่ได้พลุกพล่าน ไม่รู้ไปไหนกันสิ

ตอนพี่ไปเนี่ย ที่สนามบินมีการสุ่มตรวจกระเป๋าผู้โดยสารด้วยนะ พี่โดนตรวจทั้งเข้า-ออกเลยแหละ (หน้าตาไม่น่าวางใจหรือไงเนี่ย) แท๊กซี่เล่าให้ฟังว่าเค้าตรวจเข้มงวดเพื่อให้นักท่องเที่ยวสบายใจได้ว่าไม่น่ามีเรื่องบอมบ์ในบาหลีอีก เพราะมีมาตรการที่เข้มงวดพอสมควร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท