จากการที่งานพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นสื่อกลางในการกระตุ้นบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นั้น ให้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ่ายทอดประสบการณ์ โดยการเขียน Blog ใน “แหล่งแบ่งปันความรู้ Cop HRD” ของคณะแพทยศาสตร์ นั้น ประกอบกับการทำงานเชิงรุก ได้ไปพบกับบุคลากรต่างๆ ในหน้างานได้พบคำถามและความสงสัยหลายประการ เช่น
ไม่รู้จะเขียนอะไร, กลัวไม่มีคนอ่าน, เรื่องที่เขียนคนก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว, เขียนแล้วได้อะไร
สิ่งที่ผู้เขียนคิดถึงในขณะนี้ การพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งแรกที่เราต้องรับผิดชอบตนเอง อย่างน้อยเราไปอ่านหนังสือมาเพื่อจะถ่ายทองประสบการณ์ หรือประเด็นต่างๆ ในหนังสือ ไม่มีคนอ่านเลย คนที่ได้ประโยชน์คนแรกคือตัวเราเอง
ผลงานเป็นของใคร หลายๆ คนมีความสงสัย อยากบอกว่างานพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นผู้กระตุ้น เป็น Facilitator เป็นคุณอำนวย เป็นคุณประสาน ในเกิดเวทีนี้ในคณะแพทยศาสตร์เท่านั้น ผลงาน ก็เป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน ที่มีไว้ให้ผู้อื่นชื่นชม หรือเป็นความภาคภูมิใจของตนเองที่ได้แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น “เป็นการฝึกจิตไปในตัว จิตที่จะเป็นผู้ให้ เมื่อเราฝึกจิตได้ ก็จะส่งผลถึงพฤติกรรมที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ และความรู้จากตัวเราสู่ผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นนำไปต่อยอดต่อไป”
เรื่องที่เขียนเป็นความรู้ทางการแพทย์ทางการพยาบาลส่วนใหญ่ก็รู้ๆกัน ซึ่งอาจรู้ในองค์ความรู้ แต่เทคนิคในการดูแลผู้ป่วยอาจแตกต่างกัน เช่นการดูแลผู้ป่วยเด็กหลังผ่าตัดหัวใจ เทคนิคในการกระตุ้นให้ผู้ป่วยลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ ดังเช่นที่ คุณสวลักษณ์ แสงเดช เล่าไว้เทคนิคและประสบการณ์แต่ละโรงพยาบาลอาจไม่เหมือนกัน จะได้แบ่งปันความรู้สู่กันได้
เรื่องที่เขียนควรเป็นเรื่องอะไรก่อน ใหม่ๆ ก็อาจนึกเรื่องไม่ออกนึกถึงงานของเรา ประสบการณ์ของเราที่จะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นต่อไปก็ค่อยๆ พัฒนาสู่การปรับปรุงการทำงาน แล้วเล่าเทคนิคต่างๆ หรือปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นการเรียนรู้เรียนลัดจากประสบการณ์จริง
ประเด็นเหล่านี้พบจากการทำไป Walk round ทำงานในเชิงรุก พบปะหน้างานต่างๆ เมื่อวานนี้กับคุณวันดี ทับทิม เราพึ่งเริ่มต้นค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมกันนะคะไม่ต้องกังวล
ขนิษฐา เมฆอรุณกมล
ถ้าคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ ก็เขียนในเรื่องที่เราสนใจก็ดีค่ะ เพราะเท่ากับว่าเราสามารถนำเรื่องที่เรากำลังค้นคว้ามาถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ ช่วยฝึกทักษะในการสื่อสารค่ะ