วันนี้บรรยากาศดีมาก ๆ อาจารย์เริ่มมีการพูดคุยกันมากขึ้น(เหมือนกับเด็ก ๆเลยล่ะค่ะ) อาจารย์ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ KM ซึ่งแต่ละข้อที่อาจารย์ตอบมาแสดงให้เห็นว่าอาจารย์มีความเข้าใจใน กระบวนการ KM และอาจารย์ยังบอกว่าจะนำกระบวนการนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปด้วย
วันนี้เป็นวันที่สองของการจัด KM workshop : การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ โดยทางวิทยากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เดินทางไปถึงเมื่อเวลา 8.20 น. หลังจากนั้นอาจารย์ก็เริ่มทยอยเข้ามาในงาน สิ่งที่ดีใจก็คือ อาจารย์ยังมากันเกือบจะทุกคนค่ะ (ที่ไม่มาเนื่องจากติดธุระ) หลังจากนั้นอาจารย์วิบูลย์ก็เกริ่นนำเล็กน้อยว่าวันนี้จะให้ทำอะไรบ้าง โดยเริ่มรายการแรกเลยคือการชมวีซีดี พิจิตร-บ้านตาก
9.20 น.เริ่มชมวีซีดี ทุกท่านให้ความร่วมมือกันอย่างเช่นเคยหลังจากดูวีซีดีเสร็จแล้วอาจารย์วิบูลย์ให้แบ่งกลุ่มออกเป็นสี่กลุ่ม และช่วยกันตอบคำถาม สี่ข้อ กลุ่มละ 1 ข้อ ลองมาดูคำตอบที่อาจารย์แต่ละกลุ่มได้ร่วมกันคิดแลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะ ฟังแล้วรู้สึกดีมาก ๆเลยล่ะค่ะ
- ข้อแรก KM คืออะไร : อาจารย์ได้ตอบแยกเป็นกรณีคือ พิจิตร อาจารย์บอกว่า เป็นการจัดการความรู้เพื่อแก้ปัญหา สุขภาพ ความยากจน อาศัยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสปการณ์ ใช้ความรู้ของสมาชิกในชุมชนที่มีอยู่แล้ว และจากสังคมภายนอก เพื่อสร้างชุมชนนักปฏิบัติ เปลี่ยนวิธีคิดและแนวปฏิบัติให้เหมาะสมกับชุมชน บ้านตาก มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการจัดการและบริการ อาศัยการสร้างเครือข่ายความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสมาชิกในองค์กร กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมในองค์กร
- ใช้ KM แล้วได้อะไร : ได้วิธีแก้ปัญหา พิจิตร ใช้ KM เกิดการเรียนรู้จากผู้สำเร็จ จากการปฏิบัติจริง เปลี่ยนแปลงวิธีคิด เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต เพิ่มคุณภาพชีวิต บ้านตาก เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ + ประสปการณ์ ทำงานได้ผลเต็มที่ มีประสิทธิภาพ
- KSF ได้แก่อะไร : พิจิตร มีเป้าหมายชัดเจน มีใจพัฒนา ต้องการแก้ปัญหา มีส่วนร่วมกันทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากมีทุกข์ร่วมกันเห็นอกเห็นใจกัน มีการหาความรู้จากภายนอกจากผู้มีความรู้ กับความรู้ของชาวบ้านเอง มีการลงมือทำ มีการปรับปรุง นำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาขึ้น ดูการเรียนรู้ไม่ให้หยุดนิ่ง หาดัชนีหาเป้าหมายหากำลังใจให้ทำต่อไป สร้างแรงบันดาลใจ มีการแบ่งความรู้และพัฒนาให้ครบวงจร บ้านตาก ไม่ค่อยมีปัญหา สิ่งที่ทำคือ ต้องทำให้คนอุทิศใจตนให้อยากทำงาน ผู้นำมีวิสัยทัศน์ชัดเจน เข้าใจว่าต้องให้อะไรกับชุมชนบ้าง นำความรู้จากผู้รู้ อย่าหวงความรู้ ต้องขยายความรู้
- การประยุกต์ใช้ :
- ทุกหน่วยงานมองเห็นว่าเราจะนำมาใช้กับงานของเราโดยการปรับเปลี่ยนความคิดวิธีคิด ละลายพฤติกรรม ละลายความคิด ทำงานร่วมกันมองเห็นปัญหาร่วมกัน
- ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน มองว่าทำอย่างไรจะทำให้เราทำงานให้มีความสุข
- แสวงหาความร่วมมือ มีเครือข่ายในสาขาวิชา ระหว่างสาขาวิชา และภายนอกองค์กร
- สร้างระบบการจัดการที่ดี การจัดการวิชาการ (ให้เหมาะสมกับระบบของตน)
- ต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะนำพาหน่วยงานไปสู่เป้าหมายใด ในอนาคต
- CKO ต้องมีคุณภาพ จากการดูวีซีดีโรงพยาบาลบ้านตาก มีคำกล่าวที่ว่า การจัดการความรู้คือการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างคน เมื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างคนได้ทุกอย่างสามารถทำได้หมด
- ต้องมีการประเมิน ประเมินอย่างซื่อสัตย์ ประเมินการทำงาน หน่วยงานเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และท่าทีในการประเมิน ท่าที ต้องเป็น positive thinking คิดว่าเราประเมินเพื่อพัฒนา ต้องจริงใจ
- โรงพยาบาลประยุกต์ แนวคิดที่มี OS hospital ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พัฒนาเครื่องมือที่ใช้อยู่ให้คุณภาพ
หลังจากตอบคำถามกันเสร็จแล้วอาจารย์วิบูลย์ก็บรรยายกระบวนการทำ KM อีกครั้ง ตอนแรกอาจารย์อยากจะให้ทำ AAR ทุกคนแต่เนื่องด้วยเวลาอันจำกัดและด้วยสภาวะในกระเพาะที่ทำให้ไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่อาจารย์จึงให้ทำ AAR โดยความสมัครใจ
ท่านแรก:
- สิ่งที่คาดหวังได้แสดงความคิดเห็นได้เล่าได้พูด
- น่าจะได้ความรู้มากกว่านี้ถ้ามีผู้เข้าร่วมงานมากกว่านี้
- สิ่งที่จะเอาไปปรับใช้ ทำอะไรที่ต่อเนื่อง ไปทำเครือข่ายเฉพาะสาขา ต่อไปจะไม่ทำวิจัยคนเดียว จะเจอกันคุยกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน มาช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันทำ
- สิ่งที่อยากปรับปรุงคือ อยากให้ตัวคุณเอื้อผู้บริหารสูงสุดควรจะเป็นผู้เริ่มเปิดประเด็นว่าต้องการอะไร และควรเข้าร่วมมามีบทบาทในการทำ KM ด้วย เพราะจะทำให้มีการเชื่อมโยง มีทิศทางเดียวกัน
ท่านที่สอง
- เคยศึกษา KM มาแล้ว เกือบจะได้ทำ KM อยากรู้ว่าคืออะไร อยากรู้คำศัพท์ เช่น คุณเอื้อ อำนวย หัวปลาทู และอื่น ๆเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์
- สิ่งที่ได้คือได้ concept เข้าใจกระบวนการคิด ทำ KM
- ไม่มีน้อยกว่าคาดหวัง
- สิ่งที่จะนำไปทำ คือจะทำองค์กรคณะมนุษยศาสตร์เกิดได้ต้องอาศัยการร่วมมือภายในคณะ ทำให้อาจารย์เข้าใจร่วมมือกัน เพราะในคณะมีคนที่มีความรู้อยู่มาก ให้รู้จักแบ่งปันความรู้
- สิ่งที่ควรปรับปรุงคือเวลาในการทำกิจกรรมน้อยเกินไป
ท่านที่สาม
- ต้องการที่จะได้แรงบันดาลใจเวลาจะสอน ต้องใช้วิธีการให้รู้จริง
- สิ่งที่น้อยกว่าความคาดหมาย คืออยากเห็นสื่อ KM เยอะกว่านี้ ให้เห็นเป็นรูปธรรม ให้สอดคล้องกับงาน
- สิ่งที่จะทำต่อไปคือ พยายามนำ เครือข่าย KM เผยแพร่ต่อไปอีก
งานเสร็จตอนเวลา 12.30 สายกว่ากำหนดการไปครึ่งชั่วโมงแต่ก็คุ้มค่า อาจารย์ได้ความรู้ รวมทั้งตัวเองด้วยที่ได้เห็นได้เรียนรู้ KM ที่เป็นรูปธรรมไปพร้อม ๆ กับการทำงาน การสังเกต การปรับตัว
และที่สำคัญตนเองจะทำงานนี้ผ่านไปไม่ได้ถ้าขาดคนที่คอยสนับสนุน และคอยให้ความรู้ ขอบคุณพี่ ๆ ที่คอยแนะนำให้การช่วยเหลือทุกอย่าง จากตอนแรกที่ไม่รู้อะไรเลยก็เริ่มรู้เริ่มเข้าใจมากขึ้นและอาจารย์วิบูลย์ วัฒนาธร ที่ให้โอกาสได้มาทำงานตรงนี้ และถ้ามีโอกาสทำ KM workshop ครั้งต่อไปจะนำสิ่งที่ดี ๆมาฝากกันอีกนะคะ