KM workshop ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย: การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ(23 เมษายน 2550)

ในครั้งแรกต้องมีการปรับตัวเรียนรู้จากตัวอย่าง จากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา รู้จักสังเกตพัฒนาตนเอง

     ในวันที่ 23-24 เมษายน 2550 ทางหน่วยประกันได้เดินทางไปทำกิจกรรม KM workshop ให้กับทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยซึ่งหัวข้อการทำ KM workshop คือการเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งมีผู้ร่วมเดินทางไปได้แก่ พี่ตูน(เจนจิต) พี่โอ อาจารย์วิบูลย์ พี่พัช และก็มือใหม่ก็คือ ผู้เขียนเป็นนิสิตฝึกงาน นางสาวศิริลักษณ์  คำหล้า ซึ่งงานนี้เป็นงานแรกที่ได้เข้าร่วมการจัดกิจกรรม KM workshop ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากว่าตนเองจะสามารถช่วยพี่เขาได้มากแค่ไหน และจะเข้าใจกระบวนการที่พวกพี่ทำได้มากแค่ไหน ซึ่งก่อนไปก็ได้พยายามอ่านศึกษาทฤษฎีเผื่อจะได้มีความเข้าใจมากขึ้น(จากหนังสือการจัดการความรู้ฉบับมือใหม่หัดขับ เขียนโดยดร.ประพนธ์   ผาสุขยื่น)

     จากที่อ่านก็ยังเบลอ ๆอยู่บ้างไม่ค่อยจะเห็นภาพ คงต้องลงมือปฏิบัติเองถึงจะรู้จะเข้าใจอะไรมากขึ้น

     วิทยากรเดินทางไปถึงกรุงเทพ ฯในวันที่ 22 ตอนเย็น และในคืนนั้นก็ได้รู้จักกับคำศัพท์ใหม่ คือ BAR (Before Action Review) ซึ่งยังไม่ได้อ่านเจอในหนังสือ ซึ่งคือการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่เราจะไปจัดกิจกรรมให้กับผู้อื่น ต้องมาดูAction plan ว่าเราจะทำอะไรบ้างให้แน่นอนชัดเจน และมีการเทรนสำหรับมือใหม่อย่างผู้เขียนด้วยซึ่งเป็นงานแรก โดยเฉพาะอาจารย์คงจะเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย พี่ ๆก็พยายามช่วยอธิบายให้เข้าใจมีอันไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามพี่ ๆจะช่วยอธิบาย และอาจารย์ก็ให้หนังสือไปอ่านอีกก่อนนอน (ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มง่วงแล้วเพราะว่าปกติ 2-3 ทุ่มก็จะนอนแล้ว) กลับไปห้องอาบน้ำเสร็จก็มานั่งอ่านหนังสือ ส่วนพี่โอก็นั่งปรับปรุงแก้ไข Power point  อ่านพอจะเข้าใจแล้วก็เข้าสู่ช่วงการพักผ่อนแล้วล่ะค่ะ แต่พี่โอยังนั่งอยู่หน้าคอมอยู่เลยค่ะขยันจริง ๆเลยค่ะ ก่อนจะนอนพี่โอก็ถามด้วยว่าน้องหน่อยเข้าใจกระบวนการมั้ยถ้า ก็ให้ลองทบทวนอีก(เนื่องจากต้องไปเป็นวิทยากรกลุ่มคนเดียวด้วย)

     ในที่สุดก็ถึงวันงาน ตื่นมาก็มาอ่านทบทวนกำหนดการอีกครั้ง ไปถึงงาน อาจารย์ก็เริ่มทยอยเข้ามาในงาน ซึ่งก็ช้ากว่ากำหนดการไปบ้างกำหนดการก็เลยต้องเลื่อนไปเล็กน้อย อาจารย์ทุกท่านให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมดีมากเลยค่ะ ตอนดูวีซีดี เสียงกู่จากครูใหญ่ ก็เงียบตั้งใจดู ตอนให้ตอบคำถามก็ตอบคำถามกันดีมาก มีการวิเคราะห์ ปรึกษากัน แลกเปลี่ยนความรู้กันเต็มที่  

     จากนั้นก็ให้เข้ากลุ่มเพื่อเล่าความภาคภูมิใจของตนเอง แต่เนื่องจากผู้เข้าร่วมน้อยกว่ารายชื่อที่ส่งมา ก็เลยมีการลดกลุ่มให้เหลือ สามกลุ่ม ไม่ได้ฉายเดี่ยว ก็เลยได้มานั่งสังเกตการณ์อยู่กลุ่มเดียวกับพี่โอ พอให้เริ่มเล่า อาจารย์ให้ความร่วมมือดีมาก เริ่มด้วยแนะนำตัวแนะนำเรื่องที่จะเล่า เลือกประธานและเลขาฯ ตอนแรกก็เล่ากันแบบยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่แต่พอผ่านไปซักสองสามคนก็เริ่มมีบรรยากาศที่น่าสนใจ อาจารย์ตั้งใจฟัง และถามในประเด็นที่ตนเองสนใจ ผู้เล่าก็เล่าออกมาจากใจ จากประสปการณ์จริงจังตื่นเต้น ขนาดไม่ใช่ตัวผู้เล่าก็ยังสามารถรู้สึกได้ว่าอาจารย์ที่เล่ามีความภาคภูมิใจในตำแหน่งที่ได้รับมาอย่างมากเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ได้คัดเลือกเรื่องที่จะนำไปนำเสนอ ซึ่งก็ได้แกเรื่อง ของอาจารย์รุ่งรัตน์   ชัยสำเร็จ (อาจารย์มีแอบขำบอกว่านามสกุลนี้ของสามีค่ะยืมเค้ามาใช้) แต่เรื่องที่อาจารย์เล่าทุกเรื่องน่าสนใจเหมือนกันทุกเรื่องเลยนะคะ    และได้เขียน KSF ของแต่ละท่านเพื่อที่จะนำไปทำ Core competence (แกนความรู้ในการที่จะทำให้ตนเองสามารถเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการได้)ต่อไป

     ในตอนบ่ายได้มีการทำ Core competence  ซึ่งอาจารย์ก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดีเช่นเคยส่วนCore competence ที่ได้จะมีอยู่ 6 ข้อหลัก ๆ คือปัจจัย จากตนเองต้องมีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมายชัดเจน มีความมุ่งมั่น ชัดเจน มีกัลยาณมิตร หน่วยงานให้การสนับสนุน มีการสะสมองค์ความรู้ การลงมือทำทันที่ไม่รอรี อดทน  มีความรักในงานที่ทำ พอใจในงานที่ทำ ใช้หลักอิทธิบาท 4  และทำบุญ ที่แปลก ๆก็จะมีการบนแม่ไทรค่ะ อาจารย์ที่เข้าร่วมก็เลยมีเรื่องให้สนุกสนานกันบ้างพอสมควร

     สรุปแล้ววันนี้สิ่งอาจารย์ได้ทำคือการดูวีซีดี แล้วมาแลกเปลี่ยนความรู้กันตอบคำถาม การเล่าเรื่องความภาคภูมิใจของตนเองภายในกลุ่ม การซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การพูดจากใจเล่าเรื่องจากใจ การฟังอย่างตั้งใจ การสร้างบรรยากาศในการเล่าเรื่องให้อยู่ในเชิงบวก การหา KSF ของเรื่องที่ตนเองเล่าออกมา การนำ KSF ที่ได้มาทำCore competence

     หลังจากเสร็จภารกิจในวันนี้ วิทยากรก็เดินทางกลับขณะเดินทาง อาจารย์ก็ได้ทำ AAR กันในรถ โดยผู้ที่เริ่มก่อนก็คือผู้ที่มีอาวุโสน้อยที่สุดก็เลยได้เริ่มก่อน

• ข้อแรกสิ่งที่คาดหวังในการทำKM workshop ในวันนี้ก็คือ คิดว่าในกรุงเทพ อาจารย์แต่ละท่านก็คงจะมีความเชื่อในตนเองสูงมีความคิดที่เปลี่ยนแปลงกันยากก็เลยหวังว่าอาจารย์จะมาเข้าร่วมงานกันเยอะตามรายชื่อ และอาจารย์ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม และได้ความรู้เกี่ยวกับการทำกิจกรรมในวันนี้ไปบ้าง และสำหรับวิทยากรเองก็หวังว่าตนเองจะเข้าใจในกระบวนการทำงาน ของ KM เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น และสามารถทำตนเองให้เกิดประโยชน์กับทีมงานไม่มากก็น้อย
• สิ่งที่ได้มากกว่าที่คาดหวังไว้ก็คือ เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมแล้วอาจารย์ทุกท่านให้ความร่วมมือดีมาก ให้ถอดหมวดก็ยอมถอดหมวก ตอนเล่าเรื่องก็ตั้งใจเล่าเรื่องตั้งใจฟัง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นอย่างดี และอาจารย์ดูเหมือนว่าจะเริ่มเห็นแนวทาง KM มากขึ้น และมีความเป็นกันเองดีมาก ส่วนตัวเองก็คงได้ทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ที่ดี ได้ทำหน้าทีช่วยเหลือมากกว่าที่คาดไว้ และได้เข้าใจ KM มากขึ้นมันเห็นเป็นรูปเป็นร่างอย่างมาก มากกว่าที่เคยมานั่งอ่านหนังสือ และได้ความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ ๆที่ทำงานด้วยกันกับอาจารย์ทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม
• สิ่งที่ได้น้อยกว่าที่คิดไว้ก็คงจะเป็นเรื่องของจำนวนผู้เข้าร่วมงานอาจจะน้อยไปกว่ารายชื่อ แต่ก็ยังดำเนินงานได้อย่างราบลื่น
• นำไปใช้ ที่คิดว่าจะนำไปใช้ คือในหัวข้อในการทำ KM ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับตนเองอยู่บ้าง (การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ) แต่ก็ทำให้ตนเองได้แรงบันดาลใจที่ดีจากท่านอาจารย์ที่เข้ามาร่วมกันถ่ายทอดเล่าเรื่องราวดี ๆให้แก่กัน มีความคิดอยากจะเป็นอาจารย์ที่ดี มีคุณภาพ แม้ไม่ได้ตำแหน่งอะไร แต่ถ้าทำงานให้ดีที่สุดแล้วทำด้วยใจรักแล้ว บางที่สิ่งอื่น ๆจะตามมาเอง
• สิ่งที่ควรปรับปรุง คือตนเองต้องพูดให้มากกว่านี้พยายามคิดให้มากกว่านี้ มีการปรับตัว

      สำหรับในวันนี้งานก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

[ขจิต ฝอยทอง]

• เป็นประโยชน์มากเลยครับ
• ตามมาหาความรู้
• ขอบคุณครับ

[นิสิตช่วยงาน]

• ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
• เดี๋ยวมีภาคสองต่อค่ะ วันที่ 24 ค่ะ

[บีเวอร์]

เรียนรู้และก้าวไปให้สูงขึ้น

[dhanarun]

      พี่ๆ  NUQA เค้าแอบปลื้มน้องหน่อยกันใหญ่ รู้ตัวอ๊ะปล่าวคะ....  : ) 

[นิสิตช่วยงาน]

• จริงเหรอคะเนี่ย
• มีกำลังใจทำงานเพิ่มขึ้นอีกแล้วค่ะ
• ขอบคุณนะคะ