หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยเจอกับโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน สำหรับปิ๊กเจอในช่วงต้นปี 2549 (ขออนุญาติเล่าย้อนนิดนึงนะคะ) เป็นช่วงที่ปิ๊กได้เป็นอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งจริงๆ ก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่ลำบากในชีวิต แล้วยิ่งในช่วงนั้น ปิ๊กต้องเข้าพิธีรับประทานปริญญาบัตรด้วย จำได้ว่าแย่สุดๆ เลยหล่ะ
เท่าที่จำได้เริ่มจากการที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการปวด ๆ เล็กน้อย แถวๆ กราม รามไปถึงหู แต่ก็ปวดเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าก็คงหายไปเอง
แต่ต่อมาก็มีอาการไข้ต่ำๆ ทุกวันตอนเย็น เป็นอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เลยตัดสินใจไปให้คุณหมอตรวจ ซึ่งในจังหวะที่ไปหาคุณหมอ จะเป็นช่วงเช้า ซึ่งจะหายอาการไข้นั้นไปแล้ว คุณหมอเลยบอกว่าสงสัยปิ๊กจะคิดไปเองละมัง ก็เลยให้ยาแก้ไข้มาทานปกติ
ปรากฏว่าเข้าสัปดาห์ที่สาม ก็ไม่หาย ก็ไปหาคุณหมอตรวจอีกครั้ง คราวนี้คุณหมอก็เลยตรวจในหู ปรากฏว่า ก็เจอปัญหาคือ มีขี้หู (เอ่อ ขอโทษนะคะ ท่านผู้อ่านอาจจะรู้สึกหยึ๋ยย ๆ ...เล็กน้อย) อัดแน่นอยู่ในหูจำนวนมาก คุณหมอบอกเนื่องจากใช้ก้านสำลี ในการทำความสะอาดหู แล้วขี้หูจะถูกดัน ๆ เข้ามาสะสมอยู่ข้างใน จนทำให้เกาะกันมากดังกล่าว เอ่อ ... อันนี้ปิ๊กไม่ทราบอ่ะ ปิ๊กใช้แต่ก้านสำลีมาตลอด
สุดท้าย คุณหมอก็ให้ยามาหยอดในหู เพื่อให้ขี้หูอ่อนตัวลง และจะต้องทำการดูด ด้วยเครื่องอีกครั้ง
ในช่วงระหว่างนั้น ปิ๊กก็มีอาการปวดหู เป็นไข้ นอนไม่หลับอยู่เป็นระยะเวลา 2-3 สัปดาห์
ในตอนเย็นวันหนึ่ง ปิ๊กไปเดินซื้อของกับเพื่อนในห้างสรรพสินค้า เดินชมสินค้าอยู่ดีๆ ก็เกิดอาการ ห้างหมุน (คือห้างหมุนจริงๆ ค่ะไม่ใช่ บ้านหมุน) มันเกิดขึ้นมากระทันหันมาก ๆ ไม่มีส่อเค้ามาก่อนเลย
คือในอาการนี้ ปิ๊กคิดว่า ให้เป็นลมไปเลยดีกว่านะ แต่เป็นอาการห้างหมุนนี่จะทรมาน อับอายกว่า แหะๆ เพราะเราจะรู้สึกตัวตลอดเวลา ว่าอะไรยังงัย แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วในอาการนี้มันเหมือนดิ่ง ๆ หมุน ๆ โอ่ยย ข้าวของทุกอย่างหมุน ๆๆๆ ...โอ่ยยย นึกแล้วไม่ไหวเลย
ลูกค้าในห้าง และพนักงานในห้างก็แตกตื่น ยังดีที่ในห้างมีห้องปฐมพยาบาล ก็เลยได้นอนพัก รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ของห้างมากๆ เลยอ่ะค่ะ แต่ว่า หลังจากวันนั้น ไปประมาณ เกือบปี ปิ๊กถึงได้กลับไปเดินที่ห้างนั้นอีกครั้งนะคะ แบ่บว่า แหะๆ ...อายยย
พักผ่อนหลังจากนั้นอีกสองวัน ปิ๊กต้องเข้ารับประทานปริญญาบัตร ในช่วงนั้นก็ยังรู้สึกไม่หายดี ร่างกายพอได้ แต่จิตใจขาดความมั่นใจสุด ๆ รู้สึกหลอน ๆ มาก เพราะอาการมันสามารถเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ให้ตั้งตัว แต่ก็กัดฟันทน จนได้เข้าพิธีรับประทานปริญญาบัตร
แต่หลังจากรับประทานปริญญาแล้ว ... ลงจากเวลานั่งไม่ทัน 2 นาที ปิ๊กรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว เลยขออนุญาตอาจารย์ไปพักในห้องพัก
เฮ่อ ...แค่จะเข้าเฝ้าก็ไม่มีบุญ เราหนอ....
หลังจากงานรับปริญญาก็ได้ไปหาคุณหมอ เพื่อใช้เครื่องดูดขี้หูออก ก็รู้สึกว่าดีขึ้น และหายเป็นปกติ
ในช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา อาการบ้าน(ห้าง)หมุนก็ไม่กลับมาอีกเลย
เอ่อ ปิ๊กก็ไม่อยากให้มันกลับมาอีกเหมือนกันค่ะ นึกแล้วหลอน ...
สวัสดีค่ะ น้อง จินตนา อิ่มรักษา
เขาเรียกอาการ vertigo ค่ะ จำเขามาพูดอีกทีหนึ่งค่ะ
สวัสดีอีกครั้งค่ะครูอ้อย
แล้วตอนนี้ครูอ้อยหายบ้านหมุนหรือยังคะ ไปหาหมอหรือเปล่า
พักผ่อนเยอะๆ นะคะ อย่านอนดึก ...
เกรซเริ่มเป็นโรคนี้เมื่อประมาณ ปี43 ค่ะ สาเหตุมาจากการนอนดึกติดต่อกันเพียงแค่ 2 วัน (โดยปกติจะเป็นคนไม่เคยนอนดึก แต่ครั้งนั้นนอนตี 2 ติดกัน 2 วัน) กลับมาถึงบ้าน 4 โมงเย็นเข้านอนตอน 6 โมงเย็นและหลับยาวจนถึงเช้า ลืมตาตื่นขึ้นมาบ้านหมุนสุดๆ แค่พลิกตัวก็หมุน ทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้นไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร จึงกินยาแก้ปวดเข้าไป พออาการบ้านหมุนหายก็ไปทำงานตามปกติ แต่ระหว่างนั้นมีอาการมึนศีรษะตลอดอาทิตย์ กินพาราก็ไม่หายจึงไปหาหมอจึงทราบว่าเป็น "โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน" สำหรับผู้ที่เคยเป็นหรือยังไม่เคยเป็นขอฝากเกร็ดความรู้ไว้ดังนี้ค่ะ
1.โรคนี้เป็นแล้วรักษาไม่หายขาด เมื่อหายแล้วสามารถกับมาเป็นได้อีก (เหมือนโรคไข้หวัดค่ะ)
2.โรคนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของโรคได้ และจะรักษาและจัดยาให้ตามอาการที่เป็น เช่น อาการวิงเวียน คลื่นไส้ บ้านหมุน
3.วิธีดูแลตัวเองสำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคนี้แล้ว คือพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง และควรพกยาติดตัวไว้เวลาที่รู้สึกมีอาการจะได้หยิบกินกันไว้แต่เนิ่นๆ ยาที่จะแนะนำคือ Merislon ราคาประมาณ 20-30 บาทแล้วแต่ร้าน ยาชนิดนี้จะไม่ทำให้ง่วงเหมือนยาเม็ดสีเหลือง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเวลาทำงานค่ะ
4.คุณหมอบอกว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีชือเรียกอีกชื่อว่า "โรคหินปุนในหู"
5.คนที่เริ่มมีอาการของโรคนี้ใหม่ อาการจะคล้ายคนแพ้ท้องค่ะ บ่อยครั้งที่เกรซไปหาหมอและเล่าอาการให้ฟังหมอจะต้องถามว่า ประจำเดือนมาปกติหรือเปล่า เพราะอาการมันเหมือนกันจริงๆ ค่ะ แต่ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้ไปทำอะไรกับใครมาก็รีบบอกคุณหมอไปเลยคุณหมอจะได้วินิจฉัยให้ถูกโรค
ตอนนี้พ่ออายุ 53 กำลังเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันจะทำอย่างไรดีค่ะ ต้องพักผ่อนหรือ รักษา หรือ แนะนำคนไข้ให้ดูเเลปฎิบัติตัวอย่างไรคะ ช่วย บอกทีค่ะ
เป็นโรคนี้อยู่ ไปรักษาที่ร.พรามคำแหง แผนกหูคอจมูก มีคลีนิครักษาบ้านหมุนโดยเฉพาะ คุณหมอชื่อสุรเดช ลองไปปรึกษาดูนะคะ เข้าใจความรู้สึกคนที่เป็นจริงๆ ว่ามันทรมาน ที่สำคัญเป็นแล้วไม่หายขาด ถ้าพักผ่อนน้อย หรือเครียด จะเป็นอีก โชคดีค่ะ
สวัสดีคะฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคนี้คะ เริ่มแรกคือ บ้านหมุน ใจสั่น อาเจียน ทานอะไรไม่ได้เลย ทานแล้วอาเจียนหมด ทำอะไรไม่ได้เลยคะ ไปหาหมอหมอก็ตรวจทั้งในหูและตรวจการฟังการได้ยินคะ และได้ยาขับลมกินตอนเช้า ยาแก้เครียด และยาแก้เวียนหัวอาเจียน กลับมาทานก็ดีขึ้น แต่พอสักพักใหญ่ก็เป็นอีก คราวนี้รุนแรงมาก นั่ง นอน ยืน ไม่ได้ซักอย่างรีบไปหาหมอหมอก็ฉีดยาให้ 1 เข็ม สักพักดีขึ้น ได้ยาเหมือนเดิมกลับมาอีก เป็นๆหายๆมาได้หลายปีแล้วค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มหนักขึ้นคือ ต้องกินยาแก้เวียนหัวและอาเจียน (เม็ดสีเหลืองค่ะกินแล้วง่วงมากๆ) ต้องกินทุกวันวันละเม็ดไม่งั้นทำงานไม่ได้เลยคะ เคยถามหมอว่าถ้ากินยานี้ติดต่อกันเป็นปีๆแล้วจะมีอันตรายไหม หมอบอกว่า เป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อนมากๆขนาดคนท้องยังกินได้เลย แต่เราก็ไม่กล้าบอกหมอนะคะว่ากินทุกวัน ไม่รู้เหมือนกันคะว่าทำไมไม่หายซักที เลยต้องอาศัยการกินยาที่ว่านี้ทุกวันคะ (โชคดีหน่อยที่มีกิจการเป็นของตัวเอง)เมื่อกินยาแล้วจะนอนซักพักคะ อยากหายจังคะ ใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ช่วยแนะนำด้วยคะ จะเป็นพระคุณอย่างมาก ขอบคุณคะ
ตอนนี้คุณแม่ก็เป็นโรคนี้เหมือนกันอยากสอบถามวิธีกายภาพบำบัดค่ะ ตอนนี้คุณแม่อายุ44ย้าง45ค่ะ
เป็นเหมือนกันค่ะ ทรมานมากเลยอยากหายขาดเหมือนกันค่ะ พยายามจะไม่เครียดค่ะ
- สวัสดีค่ะ
- ครูนัดเป็นบ่อยๆ จนน้ำหนักลด เพราะกินอะไรก็อาเจียรออกมาหมด บ้านก็หมุน หิวก็หิวแต่กินอะไรไม่ได้ นอนก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้ หมุนไปหมด
(หมอบอกว่าคนอายุ 40 ขึ้น จะเริ่มเป็นกัน)..แหะๆ
เพิ่งเป็นมาได้2วันตกใจมากเพราะลุกไม่ขึ้นนึกว่าตัวเองวูบดีว่ามีหมอนรองอยู่ไปหาหมอได้ยามาทานแต่หมอก็ไม่แนะนำอะไรเลยทำอย่างไรจะหายขาดค่ะ
แฟนเคยเป็นค่ะ แต่ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ มีเพื่อนมาแนะนำให้ใช้ วิธีแพทย์ทางเลือก ธรรมชาติบำบัด ได้ผลจริง ๆ
คุณแม่ก้อเป็นอยู่ครับ เป็นหนักด้วยเพราะตอนแรกๆไปหามาหลายโรงพยาบาลมากแต่ไม่หาย อาการจึงกำเริบขึ้นเรื่อย จนมาเจอโรงพยาบาลบำรุษราษณ์ ดีมากครับ หมอดี ให้ยาแค่สองตัวเท่านั้นตัวแรกแก้วิงเวียนที่โรงพยาบาลทั่วไปก้อให้แต่ตัวที่สองนี้ จำชื่อไม่ได้เป็นตัวที่ทำให้คุณแม่อยู่ในระยะโรคสงบคือ ไม่มีอาการวิงเวียน ล้มทั้งยืน มาเป็นเวลาสีปีกว่าแล้ว
14/11/54
ณ สำนักงานแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
เป็นโรคนี้เหมือนกัน โรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือลมเวียน อันเดียวกันหรือปล่าวไม่ทราบเหมือนกันค่ะ กำลังเป็นอยู่สดๆเลย ไปพบคุณหมอฉีดยาไป 1 เข็ม แล้วก็นำยามาทาน อาการที่เริ่มเป็นคือ อยู่ดีๆบ้านหมุน นอนก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้ พยายามฝืนตัวเองนอนลงแสนจะทรมาน พอนอนได้จะพลิกซ้ายหรือพลิกขวาแสนจะทรมานเหมือนอาการคนเมาอย่างไรอย่างนั้น (ไม่เคยเมาแต่คาดว่าคงเหมือน) ไม่อยากทานยาแผนปัจจุบันเลย เพราะตัวเองเป็นหลายโรคมาก ใครพอมีคำแนะนำเกี่ยวกับยาสมุนไพรแก้หรือลดอาการโรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือโรคลมเวียนบ้างคะ ขอรบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ป้าลี สายป่าน
สวัสดีค่ะ
ตอนที่เป็น ก็ทรมาน ขนาดลงไปนอนกับพื้นเหมือนกันค่ะ
แต่ตอนที่หาย จำได้ว่าไม่ได้กินยาอะไรเป็นพิเศษ
เพราะที่เป็น เนื่องมาจาก หูอักเสบภายใน ซึ่งพอไปพบคุณหมอเฉพาะทางด้านหู ก็หายดีค่ะ
เบื้องต้น พักผ่อนมากๆ อย่าเครียด นะคะ ขอเอาใจช่วยให้หายเร็วๆค่ะ
ตอนนี้เป็นอยู่ค่ะ เมื่อ2ปีที่แล้วเป็นหนักมาก นอนพักยาวหลายวันเลยค่ะทรมานมากมาย หาหมอหลายที่ทั้งกินยาทั้งฉีดยาตรวจเลือดตรวจร่างกายตรวจหูระบบเสียง รักษากินยาต่อเนื่องเป็นปีค่ะ ทรมานมากค่ะ คนไม่เป็นไม่รู้ รอบนี้กำเริบมาอีก เดาว่าอาจพักผ่อนน้อย เครียด หรือเพราะนั่งเครื่องบิน เดาไม่ออกเลยค่ะต้องเริ่มกินยาอีกครั้ง ท้อใจจัง ??
ตอนนี้เป็นอยู่ค่ะ เมื่อ2ปีที่แล้วเป็นหนักมาก นอนพักยาวหลายวันเลยค่ะทรมานมากมาย หาหมอหลายที่ทั้งกินยาทั้งฉีดยาตรวจเลือดตรวจร่างกายตรวจหูระบบเสียง รักษากินยาต่อเนื่องเป็นปีค่ะ ทรมานมากค่ะ คนไม่เป็นไม่รู้ รอบนี้กำเริบมาอีก เดาว่าอาจพักผ่อนน้อย เครียด หรือเพราะนั่งเครื่องบิน เดาไม่ออกเลยค่ะต้องเริ่มกินยาอีกครั้ง ท้อใจจัง ??