มารายงานการรวมพลคนเขียนบลอกของมหาวิทยาลัยนเรศวรค่ะ งานเริ่ม 9นาฬิกาค่ะ ระหว่างนั้นก็มีคนเข้ามาลงทะเบียนเรื่อย ๆ แต่คนน้อยกว่าที่ส่งใบตอบรับมาน่าเสียดายน่าจะได้เจอคนเขียนบลอกเยอะ ๆกว่านี้แต่แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้วล่ะค่ะเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกในการที่ได้มาเจอตัวตนจริง ๆทุกครั้งก็เจอกันแค่ในบันทึก
คนที่รู้จักกันในบลอกก็จะมีอาจารย์ลูกหว้าค่ะ อาจารย์น่ารักมาก ๆเลยค่ะ พูดเพราะมากเลย ซึ่งมาพร้อมกับอาจารย์ราณี สองท่านนี้เป็นแขกของงานนี้ค่ะเพราะเดินทางมาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงครามค่ะ ท่านต่อไปก็พี่แก่นจังของมอนอเรานี่เองค่ะเหมือนในรูปเลยค่ะตัวจริง แล้วก็มีอีกหลาย ๆท่านที่ยังไม่รู้จักค่ะแต่ต่อไปคงจะได้รู้จักกันใน บันทึกนะคะ
บรรยากาศในงานเริ่มด้วยการที่พี่บอยเกริ่นนำคร่าว ๆ และให้ผู้ที่มาเข้าร่วมงานแนะนำตัว แต่ก็ไม่ครบทุกคนค่ะแต่ที่แน่ ๆก็คืออาจารย์ราณีกับอาจารย์ลูกหว้าแขกพิเศษของงานนี้ค่ะ รวมทั้งพี่แก่นจังด้วย งานดำเนินไปอย่างอบอุ่นเป็นกันเองค่ะ สักพักอาจารย์วิบูลย์ก็เดินทางมาถึง และก็กล่าวทักทายผู้เข้าร่วมงาน
หลังจากนั้นก็เริ่มด้วยการให้ดูวีซีดี KM แล้วก็ตั้งคำถามให้กับทุกคนในงานเดี๋ยวจะนำมาเล่าในบันทึกต่อไปนะคะ แล้วก็แบ่งกลุ่มให้ทั้งสี่กลุ่มช่วยกันคิดคำตอบ ทุกคนภายในกลุ่มก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีปรึกษาหารือกัน จนหมดเวลาอาจารย์วิบูลย์จึงให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาตอบคำถามและมอบของตอบแทนเล็กน้อย คือน้ำผึ้งแสนหวาน
หลังจากนั้นได้เชิญให้อาจารย์จากภาควิชาฟิสิกส์คืออาจารย์บุรินทร์ ซึ่งจริงแล้วผู้เขียนได้รู้จักอาจารย์มาก่อนหน้านี้แล้วล่ะค่ะคือได้เรียนวิชาฟิสิกส์ก้บอาจารย์อาจารย์เป็นคนเก่งมาก จะสอนนักเรียนแบบให้เรียนรู้เข้าใจใช้จินตนาการ และเรื่องที่อาจารย์มาบรรยายวันนี้ก็เป็นเรื่องของสำนักวิชาท่าโพธิ์ซึ่งเป็นหน่วยงานเถื่อน(ตามที่อาจารย์บอก)อาจารย์บอกว่าในการตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาก็คือต้องการให้มีการพัฒนาความรู้ความเข้าใจพัฒนาให้มีศักยภาพ โดยผู้ที่จะดำเนินการไปด้วยกันต้องมีใจให้ และพร้อมที่จะไปด้วยกันและตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว ผู้ที่จบจากสำนักวิชาท่าโพธิ์ต้องมีคุณภาพ แต่สิ่งที่อาจารย์อยากบอกก็คืออาจารย์อยากให้กำลังใจแก่ผู้ที่กำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างอยู่ก็ให้ทำทำด้วยใจ ฟังแล้วรู้สึกดีมาก ๆเลยล่ะค่ะ
หลังจากนั้นก็มีการมอบรางวัลแก่ผู้ที่เขียนบลอกได้ดี และสม่ำเสมอ ผู้ที่ได้รับรางวัลก็คือ พี่แก่นจังกับอาจารย์อ้อม แต่อาจารย์อ้อมอยู่ต่างประเทศก็เลยไม่ได้มารับรางวัล
เดี๋ยวจะมาเล่าในบันทึกต่อไปนะคะ