บันทึก 1 เดือนที่หายไป


ทบทวนตัวเองที่ผ่านมาว่าเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ผมถามตัวเองว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
เกิดอะไรขึ้น
ได้ทำอะไรให้คนอื่นบ้าง
ตัวตนเราเปลี่ยนแปลงอะไรไหม

3 คำถามนี้ได้คิดจากการไปดูรายการ "เจาะใจ" ครับ
ตอนนี้ผมกลายเป็นแฟนพี่ดู๋ "สัญญา คุณากร" โดยไม่รู้ตัวแล้ว
อาจเป็นเพราะ ช่วงนี้พี่ดู๋ เริ่มเข้าทางธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ มั้ง

ระยะเวลา 1 เดือนว่ายาวไม่ยาว สั้นไม่สั้น ผมลองนึกดูที่

ร่างกาย ก่อนว่ามีอะไรเปลี่ยน

  1. ผมตัดผมสั้นลงครับ 1 เดือนที่ผ่านมาผมของผม (อย่าเพิ่งงงนะ) ยาวขึ้นราว 1 นิ้ว เริ่มปิดตาเลยได้ฤกษ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมเข้าร้านตัดใหม่ซะเลย เยี่ยมครับ
  2. ก้นผมใหญ่ขึ้นครึ่งนิ้ว สังเกตจากตอนนั่งชักโครก เลยรู้สึกตัวครับว่าเนื้อแก้มก้นมันล้นขึ้นมามากกว่าปกติ อืม.. ส่วนตัวกางเกงผมไม่รู้สึกฟิตแต่อย่างไรเพราะมันหลวมอยู่เเล้ว (ใส่กางเกงเอว 30 นิ้ว หลวมพอดูเลยครับ)
  3. กล้ามแขนซ้ายเริ่มก้าวล้ำแขนขวาครับ เริ่มใหญ่ข้างเล็กข้างละ ผลจากการเน้นข้างซ้าย เฮ้อ...ทำให้เท่ากันนี่ยากจัง
  4. น้ำหนักขึ้นมาอีก ครึ่งกิโล ครับเป็น 64.5 กิโล
  5. สุขภาพดูเหมือนย่ำแย่ลง ไม่รู้เกิดจากสภาพแวดล้อมหรือเปล่า มันคันตา คัดจมูกประจำ

พฤติกรรม ผมก็เริ่มเปลี่ยนไปครับ

  1. หมกมุ่นกะหนังสือมากขึ้น เพราะเน็ตที่ทำงานมันเริ่มใช้ไม่ค่อยได้ครับ ทำให้มีเวลาเหลือมาอ่านหนังสือ หึๆ
  2. ขี้เกียจขึ้น ออกกำลังกายน้อยลง ที่บ้านแทบไม่ออกเลยครับ มาออกที่ทำงานแทนซึ่งก็เน้นได้แต่แขนกะหัวไหล่ ทำให้ร่างกาย(โดยเฉพาะก้น) เติบโตขึ้น ฮือๆ น่าสังเกตุว่ามันไปลงก้นครับ ไม่ลงเอวหรือต้นขาที่ผมคาดไว้
  3. เวลานอนเปลี่ยนไป เพราะไม่ค่อยมีเวรเย็นแล้ว แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมเก่า คือ กลับไปกินอิ่มจัดการอะไรเสร็จก็นอน เลยกลายเป็นกลับไปนอนตั้งกะเย็นราว 17.00 น. ตื่นมาก็ 3 ทุ่ม ดูรายการดึกๆจนตีสองค่อยนอนอีกที
  4. ผลจากข้อสามครับ ทำให้ผมมีมื้อดึกอีกมื้อ เป็นมื้อที่มีอะไรก็คว้ามากิน เช่น ขนมปัง มื้อนี้ผมค่อนข้างละอายใจมากเพราะเป็นมื้อไร้สติ แบบว่าตื่นมาเบลอๆ หิว เจออะไรใกล้ตัวก็กินหมด ยังดีครับที่ผมไม่ค่อยตุนอะไรไว้มาก ล่าสุดล่อขนมปังโฮลวีตไปครึ่งแถว...กินแบบไม่รู้รสจริงๆ ครับ ยัดท้องให้แน่นๆ ไว้
  5. เวลาว่างมากขึ้น แต่ผมกลับไม่อยากผลาญเงิน เอ้ย ไปเที่ยวมากขึ้น ชอบนั่งอ่านนั่งสือ, ดูทีวีมากขึ้นและคิดอะไรอยู่คนเดียวมากขึ้น (เริ่มโรคจิตไม๊เนี่ย)

ความคิด นี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดครับ

  1.  อาจเป็นเพราะเป็นเดือนที่ผมเปิดหูตามากที่สุด จากหนังสือกองใหม่ที่ขนมาจากงานหนังสือ รวมทั้งการดูรายการทีวีจากที่ไม่ค่อยจะดูนอกจากข่าวเช้า ตอนนี้ผมเริ่มติดรายการหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะรายการเจาะใจ, The Icon, ชีพจรโลก, โซดองโยสายใยรักสองแผ่นดินที่กำลังจบ, ปราชญ์แผ่นดิน, คนค้นตน, กบนอกกะลา, เมกะเคลเวอร์ฉลาดสุดๆ, การนอนดึกทำให้ผมพบรายการดีๆ อีกหลายรายการครับ อืมๆ
  2. ข้อแรกยาวไป ตัดมาข้อสองครับ ผลของข้อแรกทำให้ได้รับข้อคิดใหม่ขึ้นมาอีกอันที่ผมชอบและเห็นด้วยมาก นั่นคือ
    "อย่าเอามุมมองของตัวเองไปตัดสินคนอื่น"
    ข้อนี้เหมือนสั้น แต่แฝงความนัยยาวมาก
  3. ผมยิ่งอ่านหนังสือธรรมะที่ให้พิจารณาตนเอง ยิ่งทำให้ผมเริ่มสับสน เพราะผมคล้ายกับรู้จักตัวเองดีที่สุดและไม่รู้จักตัวเองเลย เมื่อผมว่าง ผมก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์ไปเล่นเกมส์ก่อน ถามว่าทำไมผมถึงไปเล่น ผมมีสติไหม ผมนั่งอึ้งสักพัก รู้สึกราวกับว่ากลายเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ ผมถาม"ตัวเองอีกคน"ที่ดำรงชีวิตเเบบนั้น ว่า "คุณคือใคร" แล้วผมในตอนที่กำลังตั้งคำถามนี้ว่า "ผมละเป็นใคร" ส่วนคำตอบนั้นผมเริ่มมองเห็นลางๆ แล้วแต่ยังไม่คิดเฉลยตอนนี้ครับ ไว้แน่ใจแล้วจะมาบันทึกต่ออีกที
  4. ต้องขอบคุณรายการโทรทัศน์ดีๆ หลายรายการครับ ที่ยังถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้ผมได้ดู ผมเริ่มมองอะไรกว้างขึ้น (กะลาที่ครอบเริ่มใหญ่ขึ้นครับ อิอิ) รายการโทรทัศน์ดีๆ มีเพียงแต่อาจถูกกันไปออกเวลานาทีทองไป ทำให้คนนอนเช้าตื่นเช้าผมพลาดไป โดยเฉพาะรายการ The Icon ที่พาเกษตรกรตัวอย่างปี 2549 มาผมอยากให้มีเทปบันทึกกลับมาดูอีกครั้งจริงๆ ครับ ให้ทุกคนได้เห็นความคิดของคนที่คิดแทนคนทั้งประเทศ เม่ได้มองแค่เพียงเรื่องเกษตร แต่มองเศรษฐกิจที่ไม่ให้พืชผลแย่งกันไปปลูก พื้นที่ภาคกลางก็อย่าแย่งพืชอีสานไปที่เขาแล้งอยู่แล้ว, สิ่งแวดล้อมที่เหล่าแม่พระทั้งหลายที่กำลังตาย ไม่ว่า แม่พระธรณี, แม่พระคงคา, แม่พระพาย...ถ้าท่านตายไปเราไยมิใช่ลูกหลานอกตัญญูที่มองท่านตายไปเพื่อแลกกับลา๓จากคำว่าเศรษฐกิจหรือ โอ..ชักยาวละพอขอพอแค่นี้ก่อนดีกว่าขอรับ
  5. ความคิดที่ยังไม่แจ่มชัดมีออีกหลายอย่างครับ แต่ได้กระตุ้นจากรายการต่างๆ เช่น
    เศรษฐกิจพอเพียง คืออะไรกันแน่
    ทำไมจบการศึกษาต่ำจึงรักแผ่นดินมากกว่าคนรวย
    (ถ้าเป็นอย่างนั้น เราสนับสนุนให้ลูกหลานไปเรียนสูงๆ..ก็เท่ากับว่าให้ลูกหลานรักแผ่นดินน้อยลงหรือ...)
    ความรักกับปัญญาไปด้วยกันได้หรือไม่
    (ผมสังเกตุว่าความรักมันชวนพาให้เราหลงทางได้ง่ายมากเลยขอรับ ใช่หรือไม่ว่าความรักเป็นสิ่งที่เราพึงหลีกเลี่ยงหากยังไม่พร้อม แต่นั่นแหละคำว่าพร้อมคือเมื่อไหร่เล่า)

สุดท้ายเรื่องงานที่ทำอยู่ มีการเปลี่ยนพอควรทีเดียว

ยิ่งทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่ว่า

"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
หรือหากจะกล่าวในอีกทางหนึ่งคือ
"สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แตกดับไปนั้นไม่มี"
คำพูดนี้ยิ่งนานวัน ยิ่งพิสูจน์ให้ผมเห็นซึ้งมากขึ้น ขอบคุณพระองค์ พระสงฆ์และทุกๆ ท่านที่ทำให้คำสอนดีๆ จนถึงรุ่นเราครับ

ปล. ขอติดท้ายเรื่องทำอะไรให้คนอื่นบ้าง แนวคิดนี้ผมเห็นว่าเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังมากเลยครับ ไว้ถ้ามีเวลาหลังจากนั่งคิดคืนนี้จะมาต่อบันทึกครับ

ขอให้ทุกๆ ท่านมีวันเวลาที่มีความสุข มีสติ อย่าเกิดอุบัติเหตุในวันสงกรานต์นะขอรับ

หมายเลขบันทึก: 90200เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2007 17:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะคุณ  จันทร์เมามาย

  • คุณรู้สึกตัวเองว่าเปลี่ยนไปหรือคะ...แต่การเขียนและวิธีคิดของคุณยังเหมือนเดิมค่ะ
  • ครูอ้อยรออ่านบันทึกของคุณค่ะ

สวัสดีปีใหม่ไทย  ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ

จันทร์เมามาย....

เข้ามาเยี่ยม.....

จากข้อความสำคัญ.."อย่าเอามุมมองของตัวเองไปตัดสินคนอื่น" อาจเปลี่ยนอีกนัยได้ว่า....

.... อย่าเอามุมมองของคนอื่นมาตัดสินตัวเอง......

เจริญพร

เข้ามาเยี่ยมค่ะ    ความคิดที่เสนอก็เห็นด้วยนะคะ

สวัสดีวันสงกรานต์ครับครูอ้อย

ขอให้ครูอ้อยมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจ จะได้อยู่ค้ำชูลูกหลานอย่างกระผมต่อไปนะขอรับ อิอิ

 

BM.chaiwut

ขอบคุณท่านที่แนะนำ

.... อย่าเอามุมมองของคนอื่นมาตัดสินตัวเอง......

ทำให้ผมได้คิดมากขึ้น ถ้าคืนนี้คิดไม่ตกนอนไม่หลับ จะมาถามท่านขอรับ

เรียนท่านผอ.

สวัสดีวันสงกรานต์ขอรับ

อ่า ไม่ทราบว่าความคิดไหนเหรอขอรับ เดี๋ยวคงต้องขอหลังไมค์ซะแล้ว แหะๆ

ขอให้ผอ. มีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกายใจนะขอรับ อ้อ ขอให้แล้วอย่าลืมปฏิบัตินะขอรับ เพราะธรรมะนั้นเน้นปฎิบัติ

เห็นด้วยกับครูอ้อยค่ะ

บรรดาแฟนคลับคิดถึงนะจ๊ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์จ้า

1.อ่านสนุกเหมือนเดิมเลยครับ ชอบ

2.มีคำโดยใจเหมือนกัน นอกจากอ่านสนุกแล้วครับ

"อย่าเอามุมมองของตัวเองไปตัดสินคนอื่น"
ข้อนี้เหมือนสั้น แต่แฝงความนัยยาวมาก

3.ได้ข้อคิด   คุณจันทร์เมามายเก่งจัง ที่นึกย้อน ทบทวนได้ ว่า เกิดอะไรขึ้นใน 1 เดือน  เหมือนผมเคยได้ยินมาเหมือนกันว่า  ควรมีสติตลอดเวลา และใช้เวลาก่อนนอน ทบทวนในการดำเนินชีวิตของทุกวัน  กำลังพยายามอยู่ครับ

ไม่มีรูป
ping เมื่อ ส. 14 เม.ย. 2550 @ 07:42 จาก 203.188.46.35 ลบ (224199)

เห็นด้วยกับครูอ้อยค่ะ

บรรดาแฟนคลับคิดถึงนะจ๊ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์จ้า

 

ตอบช้ามากเลย แต่ก็ขอรับความคิดถึงครับ 

P
Anek Thanonghan เมื่อ พ. 25 เม.ย. 2550 @ 19:45 จาก 61.7.132.62 ลบ
(238390)
 
สวัสดีครับพี่อเนก 
การนึกทบทวนของผมยังมีจุดบอดอยู่จุดหนึ่งครับ
คือ การบันทึกนี่แหละ เวลาผมนึกเรื่องอะไรเดี๋ยวนี้บันทึกไม่ค่อยทันแล้ว+ไอ้ที่บันทึกมักใส่เศษกระดาษไปแล้วหายบ่อย เลยทำให้อดเสียดายเนืองๆ ไม่ได้ว่า ตอนนั้นเราคิดไอเดียอะไรได้น้า เลยกำลังคิดหา PocketPC มาเล่นสักตัว (ข้ออ้างใช้ได้มะครับ อิอิ)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท