ผมถามตัวเองว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
เกิดอะไรขึ้น
ได้ทำอะไรให้คนอื่นบ้าง
ตัวตนเราเปลี่ยนแปลงอะไรไหม
3 คำถามนี้ได้คิดจากการไปดูรายการ "เจาะใจ" ครับ
ตอนนี้ผมกลายเป็นแฟนพี่ดู๋ "สัญญา คุณากร" โดยไม่รู้ตัวแล้ว
อาจเป็นเพราะ ช่วงนี้พี่ดู๋ เริ่มเข้าทางธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ มั้ง
ระยะเวลา 1 เดือนว่ายาวไม่ยาว สั้นไม่สั้น ผมลองนึกดูที่
ร่างกาย ก่อนว่ามีอะไรเปลี่ยน
- ผมตัดผมสั้นลงครับ 1 เดือนที่ผ่านมาผมของผม (อย่าเพิ่งงงนะ) ยาวขึ้นราว 1 นิ้ว เริ่มปิดตาเลยได้ฤกษ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมเข้าร้านตัดใหม่ซะเลย เยี่ยมครับ
- ก้นผมใหญ่ขึ้นครึ่งนิ้ว สังเกตจากตอนนั่งชักโครก เลยรู้สึกตัวครับว่าเนื้อแก้มก้นมันล้นขึ้นมามากกว่าปกติ อืม.. ส่วนตัวกางเกงผมไม่รู้สึกฟิตแต่อย่างไรเพราะมันหลวมอยู่เเล้ว (ใส่กางเกงเอว 30 นิ้ว หลวมพอดูเลยครับ)
- กล้ามแขนซ้ายเริ่มก้าวล้ำแขนขวาครับ เริ่มใหญ่ข้างเล็กข้างละ ผลจากการเน้นข้างซ้าย เฮ้อ...ทำให้เท่ากันนี่ยากจัง
- น้ำหนักขึ้นมาอีก ครึ่งกิโล ครับเป็น 64.5 กิโล
- สุขภาพดูเหมือนย่ำแย่ลง ไม่รู้เกิดจากสภาพแวดล้อมหรือเปล่า มันคันตา คัดจมูกประจำ
พฤติกรรม ผมก็เริ่มเปลี่ยนไปครับ
- หมกมุ่นกะหนังสือมากขึ้น เพราะเน็ตที่ทำงานมันเริ่มใช้ไม่ค่อยได้ครับ ทำให้มีเวลาเหลือมาอ่านหนังสือ หึๆ
- ขี้เกียจขึ้น ออกกำลังกายน้อยลง ที่บ้านแทบไม่ออกเลยครับ มาออกที่ทำงานแทนซึ่งก็เน้นได้แต่แขนกะหัวไหล่ ทำให้ร่างกาย(โดยเฉพาะก้น) เติบโตขึ้น ฮือๆ น่าสังเกตุว่ามันไปลงก้นครับ ไม่ลงเอวหรือต้นขาที่ผมคาดไว้
- เวลานอนเปลี่ยนไป เพราะไม่ค่อยมีเวรเย็นแล้ว แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมเก่า คือ กลับไปกินอิ่มจัดการอะไรเสร็จก็นอน เลยกลายเป็นกลับไปนอนตั้งกะเย็นราว 17.00 น. ตื่นมาก็ 3 ทุ่ม ดูรายการดึกๆจนตีสองค่อยนอนอีกที
- ผลจากข้อสามครับ ทำให้ผมมีมื้อดึกอีกมื้อ เป็นมื้อที่มีอะไรก็คว้ามากิน เช่น ขนมปัง มื้อนี้ผมค่อนข้างละอายใจมากเพราะเป็นมื้อไร้สติ แบบว่าตื่นมาเบลอๆ หิว เจออะไรใกล้ตัวก็กินหมด ยังดีครับที่ผมไม่ค่อยตุนอะไรไว้มาก ล่าสุดล่อขนมปังโฮลวีตไปครึ่งแถว...กินแบบไม่รู้รสจริงๆ ครับ ยัดท้องให้แน่นๆ ไว้
- เวลาว่างมากขึ้น แต่ผมกลับไม่อยากผลาญเงิน เอ้ย ไปเที่ยวมากขึ้น ชอบนั่งอ่านนั่งสือ, ดูทีวีมากขึ้นและคิดอะไรอยู่คนเดียวมากขึ้น (เริ่มโรคจิตไม๊เนี่ย)
ความคิด นี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดครับ
- อาจเป็นเพราะเป็นเดือนที่ผมเปิดหูตามากที่สุด จากหนังสือกองใหม่ที่ขนมาจากงานหนังสือ รวมทั้งการดูรายการทีวีจากที่ไม่ค่อยจะดูนอกจากข่าวเช้า ตอนนี้ผมเริ่มติดรายการหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะรายการเจาะใจ, The Icon, ชีพจรโลก, โซดองโยสายใยรักสองแผ่นดินที่กำลังจบ, ปราชญ์แผ่นดิน, คนค้นตน, กบนอกกะลา, เมกะเคลเวอร์ฉลาดสุดๆ, การนอนดึกทำให้ผมพบรายการดีๆ อีกหลายรายการครับ อืมๆ
- ข้อแรกยาวไป ตัดมาข้อสองครับ ผลของข้อแรกทำให้ได้รับข้อคิดใหม่ขึ้นมาอีกอันที่ผมชอบและเห็นด้วยมาก นั่นคือ
"อย่าเอามุมมองของตัวเองไปตัดสินคนอื่น"
ข้อนี้เหมือนสั้น แต่แฝงความนัยยาวมาก
- ผมยิ่งอ่านหนังสือธรรมะที่ให้พิจารณาตนเอง ยิ่งทำให้ผมเริ่มสับสน เพราะผมคล้ายกับรู้จักตัวเองดีที่สุดและไม่รู้จักตัวเองเลย เมื่อผมว่าง ผมก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์ไปเล่นเกมส์ก่อน ถามว่าทำไมผมถึงไปเล่น ผมมีสติไหม ผมนั่งอึ้งสักพัก รู้สึกราวกับว่ากลายเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ ผมถาม"ตัวเองอีกคน"ที่ดำรงชีวิตเเบบนั้น ว่า "คุณคือใคร" แล้วผมในตอนที่กำลังตั้งคำถามนี้ว่า "ผมละเป็นใคร" ส่วนคำตอบนั้นผมเริ่มมองเห็นลางๆ แล้วแต่ยังไม่คิดเฉลยตอนนี้ครับ ไว้แน่ใจแล้วจะมาบันทึกต่ออีกที
- ต้องขอบคุณรายการโทรทัศน์ดีๆ หลายรายการครับ ที่ยังถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้ผมได้ดู ผมเริ่มมองอะไรกว้างขึ้น (กะลาที่ครอบเริ่มใหญ่ขึ้นครับ อิอิ) รายการโทรทัศน์ดีๆ มีเพียงแต่อาจถูกกันไปออกเวลานาทีทองไป ทำให้คนนอนเช้าตื่นเช้าผมพลาดไป โดยเฉพาะรายการ The Icon ที่พาเกษตรกรตัวอย่างปี 2549 มาผมอยากให้มีเทปบันทึกกลับมาดูอีกครั้งจริงๆ ครับ ให้ทุกคนได้เห็นความคิดของคนที่คิดแทนคนทั้งประเทศ เม่ได้มองแค่เพียงเรื่องเกษตร แต่มองเศรษฐกิจที่ไม่ให้พืชผลแย่งกันไปปลูก พื้นที่ภาคกลางก็อย่าแย่งพืชอีสานไปที่เขาแล้งอยู่แล้ว, สิ่งแวดล้อมที่เหล่าแม่พระทั้งหลายที่กำลังตาย ไม่ว่า แม่พระธรณี, แม่พระคงคา, แม่พระพาย...ถ้าท่านตายไปเราไยมิใช่ลูกหลานอกตัญญูที่มองท่านตายไปเพื่อแลกกับลา๓จากคำว่าเศรษฐกิจหรือ โอ..ชักยาวละพอขอพอแค่นี้ก่อนดีกว่าขอรับ
- ความคิดที่ยังไม่แจ่มชัดมีออีกหลายอย่างครับ แต่ได้กระตุ้นจากรายการต่างๆ เช่น
เศรษฐกิจพอเพียง คืออะไรกันแน่
ทำไมจบการศึกษาต่ำจึงรักแผ่นดินมากกว่าคนรวย
(ถ้าเป็นอย่างนั้น เราสนับสนุนให้ลูกหลานไปเรียนสูงๆ..ก็เท่ากับว่าให้ลูกหลานรักแผ่นดินน้อยลงหรือ...)
ความรักกับปัญญาไปด้วยกันได้หรือไม่
(ผมสังเกตุว่าความรักมันชวนพาให้เราหลงทางได้ง่ายมากเลยขอรับ ใช่หรือไม่ว่าความรักเป็นสิ่งที่เราพึงหลีกเลี่ยงหากยังไม่พร้อม แต่นั่นแหละคำว่าพร้อมคือเมื่อไหร่เล่า)
สุดท้ายเรื่องงานที่ทำอยู่ มีการเปลี่ยนพอควรทีเดียว
ยิ่งทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่ว่า
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
หรือหากจะกล่าวในอีกทางหนึ่งคือ
"สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แตกดับไปนั้นไม่มี"
คำพูดนี้ยิ่งนานวัน ยิ่งพิสูจน์ให้ผมเห็นซึ้งมากขึ้น ขอบคุณพระองค์ พระสงฆ์และทุกๆ ท่านที่ทำให้คำสอนดีๆ จนถึงรุ่นเราครับ
ปล. ขอติดท้ายเรื่องทำอะไรให้คนอื่นบ้าง แนวคิดนี้ผมเห็นว่าเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังมากเลยครับ ไว้ถ้ามีเวลาหลังจากนั่งคิดคืนนี้จะมาต่อบันทึกครับ
ขอให้ทุกๆ ท่านมีวันเวลาที่มีความสุข มีสติ อย่าเกิดอุบัติเหตุในวันสงกรานต์นะขอรับ