บุญเชิงคุณภาพ
“สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดีเสมอ”เพราะทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเราหลับตาคิดเพียงข้างเดียว ย่อมทำให้มองไม่เห็นข้อดีเลย
การที่ไม่มีเงินจำนวนมากหรือที่คนมักจะรังเกียจและเรียกว่า“จน”นั้น มีข้อดีอย่างมากแฝงอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากมีเงินอยู่ในกระเป่าแฟบๆจำนวนหนึ่งร้อยบาท หากตั้งใจจะหยอดตู้บริจาคสักสิบบาท จะต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องอาศัยแรงใจตัดความเห็นแก่ตัวอย่างมาก บุญที่ได้รับก็จะมากตามชนิดที่เห็นได้ทันตาเลยว่าเราจะสามารถละกิเลศที่ไม่ดีได้โดยง่าย ซึ่งผิดกับคนที่รวย หากมีเงินในกระเป๋าสักหมื่นบาท พอคิดจะทำบุญด้วยน้องเงินจำนวนร้อยบาท ก็สามารถทำได้โดยง่าย แทบไม่ต้องอาศัยแรงคิดอะไรเลย หรือคนที่ทำบุญเอาหน้า หรือทำบุญหวังได้ขึ้นสวรรค์ ให้ด้วยความอยาก ซึ่งอาจจะได้รับผลบุญน้อยและมีผลบาปในใจปนมาด้วยดังนั้นจึงมาสรุปได้ว่า บุญเป็นอะไรที่วัดไม่ได้ ด้วยจำนวนอะไรสักอย่างที่จะนำมาเปรียบเทียบเป็นเชิงปริมาณ แต่บุญสามารถวัดได้ด้วย จิตใจที่จะนำมาเปรียบเทียบเป็นเชิงคุณภาพ คำว่า “ได้บุญมาก” จึงควรจะเรียกว่า “ได้บุญที่มีคุณภาพมาก” หรือมี “ความถี่ในการสะสมบุญมาก” จึงจะถูกต้อง จึงอยากให้พวกเราทำบุญแบบ“หยอดกระปุกออมสิน” จึงจะได้บุญก้อนโตจริงๆ
ไม่มีความเห็น