การขอวีซ่าไปอเมริกา


VISA to USA

ช่วงนี้มัววุ่นวายกับการเตรียมเอกสารเพื่อไปขอวีซ่าไปดูงานที่อเมริกากับเพื่อนๆที่นิด้า  เลยไม่ได้เข้ามาบันทึกข้อมูลอะไรเลย  ในการขอวีซ่าไปอมเริกาครั้งนี้เป็นครั้งแรก  รู้สึกวุ่นวายมากเพราะต้องจัดการให้เพื่อนๆ ด้วย  ทั้งหมด 20 คน เลยอยากเล่าให้คนอื่นๆฟัง เผื่อจะได้วางแผนเตรียมตัวในการไปยื่นขอวีซ่า  เพราะมีหลายขั้นตอนเหมือนกันค่ะ

ขั้นตอนแรกก็ต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ให้เรียบร้อย

1.    จดหมายรับรองการทำงาน

               

2.    จดหมายเชิญ (ถ้ามี)

                 

3.    รูปถ่ายสีกว้าง 2 นิ้วยาว 2 นิ้ว 1 รูป รูปพื้นหลังของภาพต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ใบหน้าของภาพต้องใหญ่ 50% ของภาพ

 

  และให้มองตรงมาที่กล้อง,เปิดหู ห้ามสวมแว่นดำ หรือหมวก นำรูปถ่ายติดกับฟอร์ม DS 156 โดยใช้กาว (ห้ามใช้ลวดเย็บกระดาษ)

 
 

                 

4.   พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนและมีหน้าว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)

 

5.  สมุดเงินฝากตัวจริง ของผู้เดินทาง UPDATE ย้อนหลัง 6 เดือน

         

6.  สลิปเงินเดือนตัวจริง ย้อนหลัง 6 เดือน (COMPANY PAY-ROLL)

         

7. บัตรประจำตัวพนักงานตัวจริง

               

8.  ถ้าผู้เดินทางเป็นผู้หญิงและแต่งงานแล้ว ให้เพิ่ม :

           

     8.1  ทะเบียนสมรส     8.2  สูติบัตรของลูก (ถ้ามี)

           

9.   ฟอร์มวีซ่าจะต้องกรอกใน Website : http://bangkok.usembassy.gov/embassy/consul.htm 

     
 

เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อยแล้วจะต้อง Print แบบฟอร์มทั้ง DS156 และ DS157 ออกมาอย่างละ 1 ชุด

   
 

พร้อมทั้งเซ็นต์ชื่อ

การชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นเงิน 3,800 บาท ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ ตามสาขาต่างๆ ที่ระบุใน http://bangkok.usembassy.gov/services/visa/NIVChecklist.pdf

     
 

โดยใช้สำเนาพาสปอร์ตในการชำระเงิน  และนำใบเสร็จนี้ถือไปในวันที่นัดสัมภาษณ์

     

10.  สถานทูตสหรัฐฯ จะจัดส่งหนังสือเดินทางที่ได้รับอนุมัติวีซ่าแล้วคืนทางไปรษณีย์ EMS หลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ประมาณ 3 วันทำการ

 
 

 

                 

พาสปอร์ตข้าราชการเล่มสีน้ำเงินต้องยื่นวีซ่าตามปกติแต่ต้องมีจดหมายนำจากกระทรวงที่ผู้เดินทางสังกัดอยู่และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า

  ขั้นตอนที่ 2ต้องเข้าไปนัดสัมภาษณ์ทาง WEB หรือทางโทรศัพท์ 

ในการนัดสัมภาษณ์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 400 บาท ซึ่ง 

กรณีไม่มีบัตรเครดิต  ก่อนที่นัดให้ไปซื้อ PIN ค่าธรรมเนียม ที่ไปรษณีย์ก่อนนะคะ  แล้วนำ PIN กับ Password ที่ได้มากรอกใน Web

ถ้ามีบัตรเครดิต   ก็ไม่ต้องค่ะ จ่ายโดยบัตรเครดิตได้เลย ในweb เค้าจะมีหน้าต่างที่ให้กรอก รายละเอียดบัตรเครดิต

ในการกรอกข้อมูลเพื่อนัดสัมภาษณ์  ทางสถานฑูตจะส่ง E-mail ยืนยันการนัดมาที่ Mail ของเรา  ให้ Print ออกมาเพื่อนำไปในวันนัดสัมภาษณ์ด้วยนะคะ

ขั้นตอนที่ 3  ก่อนวันนัดให้ไปซื้อ PIN ที่ไปรษณีย์ เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าเป็นเงิน 100$ US  (ควรซื้อไปก่อนเพราะถ้าไปซื้อที่ไปรษณีย์แถวสถานฑูตจะไม่ทัน  คนเยอะมาก)

ขั้นตอนที่ 4  ตวรจเช็คเอกสารให้พร้อม  กรอกแบบฟอร์ม DS-156  DS-157 ให้เรียบร้อย   และอย่าลืมนำเอกสารตัวจริงไปด้วย ในวันสัมภาษณ์

ขั้นตอนที่ 5 การเดินทางไปสัมภาษณ์ 

 

1.ท่านที่จะมาตั้งแต่เช้ามีสถานที่ที่จอดรถได้ที่อาคารออลซีซั่น โดย stamp บัตรได้ที่ร้านโอปองแปง (ขนมอร่อย เครื่องดื่มใช้ได้) สตาร์บัค (กาแฟอร่อย ขนมไม่ได้เรื่อง แพงมากมาก)  สถานทูตอยู่ห่าง 1 ป้ายรถเมล์ (สำหรับท่านที่นิยมอาหารไทยมี food center อยู่ที่ ชั้น2 และร้านอาหารไทยเรียกว่าเพิงก็ได้อยู่ระหว่างทางเดินไปสถานทูต)

2. ถ้าถ่ายรูปไม่ทันมีร้านถ่ายรูปอยู่บนตึกแถวระหว่างทางเดินไปสถานทูต กับร้านใต้ตึกดีทแฮล์ม ราคา 150 บาท แต่ต้องมาเช้าหน่อย (เตรียมตัวมาก่อนน่าจะดีกว่า)

3. อย่าลืมซื้อค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ 100 เหรียญ ประมาณ 3500 บาท พร้อมพิมพ์แบบฟอร์มขอวีซ่า และเอกสารแสดงฐานะการเงิน ใบรับรองการทำงานมาด้วย

4.มาเข้าคิวล่วงหน้าสัก 1 ชั่วโมงน่าจะพอ ใช้เวลานั่งรอข้างในอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเพราะมีพวกตกค้างจากรอบเช้า

ส่วนรายละเอียดในการกรอกแบบฟอร์มเยอะพอสมควร  ถ้ามีเวลาจะมาแนะนำนะคะ  หวังว่าการบันทึกนี้น่าจะพอมีประโยชน์กันคนอ่านบ้างนะคะ  เพราะผู้เขียนก็มีประสบการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกค่ะ

ถ้าไปดูงาน แล้วพบอะไรดีๆ น่าสนใจจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #km research#kmr
หมายเลขบันทึก: 88756เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2007 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 14:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
  • ขอบคุณค่ะ 
  • จำได้ว่าเมื่อก่อนต้องไปยืนรอคิวนานมากกกก  กว่าจะได้สัมภาษณ์  กว่าจะได้วีซ่ามา  โอ๊ย...

ไม่ทราบว่าถ้าเราขอวีซ่าไม่ผ่าน เราก้ต้องเสียตังค์ไปฟรีๆ เลยใช่มั้ยคะ

ว่าจะไปเที่ยวช่วงคริสต์มาสนี้ ไม่รู้จะขอผ่านรึเปล่าอ่ะค่ะ

การขอวีซ่าจะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียม 100$   ถ้าสมมติว่าผลออกมาว่าไม่ผ่าน  เงินค่าธรรมเนียมนั้นก็เสียไปฟรีๆ ค่ะ  ถ้าจะขอใหม่ก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือนัดขอสัมภาษณ์ใหม่  เสียเงินค่าธรรมเนียมในการนัด แล้วก็เสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าอีกรอบค่ะ  ขอให้โชคดีได้วีซ่านะคะ

แล้วถ้าอยากจะขอวีซ่าไปเรียนต่อสหรัฐล่ะ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ถ้าสมมุติว่าได้ ไอ-20 มาแล้ว แล้วถ้าใช้สเตจเม้นท์ของญาติที่ไม่ใช่พ่อแม่จะได้รึเปล่า

อยากทราบว่าถ้าวีซ่าท่องเที่ยวไม่ผ่านต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะขอใหม่ได้ รบกวนช่วยตอบหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะเป็นอะไรที่ดีมากแต่ว่าถ้าเราขอวีซ่าท่องเที่ยวต้องทำเหมือนกันใหมค่ะ

อยากทราบว่า ถ้ามีเอกสารรับรองจากทางโน้นมา

แต่เรายังไม่ได้ทำงานน่ะค่ะ

ต้องเตรียมเอกสารไรไปบ้างค่ะ

แล้วถ้าไม่ผ่านเนี้ย ต้องรอถึง 6 เดือนเลยหรือเปล่า

ถึงจะขอ วีซ่า ครั้งต่อไปได้น่ะค่ะ

ดีมากๆรายละเอียดครบถ้วนสมบูรณื ขอบคุณค่ะ

ถ้าจะขอวีซ่าไปญี่ปุ่นละคะ ยากไหมไม่เคยทำเลยคะจะไปเที่ยวสัก2-3วันคะ

ถ้าคนไม่มีงานทำ แต่มีคนที่โน่น invite ไปเที่ยวหรือเป็น sponser ให้ ไป วีว่ามีโอกาสผ่านไหมคะ บังเอิญว่าคุยกับคนเป็น sponser ทางอิเตอร์เน็ตแล้วผูกพันธ์ชอบกันจริงๆค่ะแต่เค้าไม่มีเวลามา เค้าอยาก invite เราไปที่โน่น แต่เราไม่มีงานทำ มีขายของทาง www.ebay.com มีเงินเข้าบัญชีตลอดแต่เพิ่งทำได้ 3เดือนค่ะ วีซ่าจะมีโอกาสผ่านไหมคะ เรามีคอนโดที่ กรุ่งเทพเป็นชื่อตัวเองด้วยค่ะ แต่หลักฐานทางการเงินไม่ค่อยมั่นคงค่ะ พอจะมีคำแนะนำดีดี บ้างไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

ถ้ามีจดหมายรับรองจากทางโน้นส่งมาเพื่แชอแนบพร้อมกับการขอวีซ่า น่าจะขอได้ไม่อยากค่ะ แล้วให้เค้าขอใบรับรองบัญชีของเว่าเค้าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เราทั้ง ในการเดินทางครั้งนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แล้วเอา statement จากธนาคารที่เรามีเงินฝาก (เงินเข้าๆ ออกๆ ) ประมาณ 6 เดือน แนบไปด้วยก็ได้ค่ะ ส่วนมากถ้ามีคนทางโน้นรับรองมักจะไม่ค่อยมีปัญหานะคะ ขอให้โชคดีนะคะ

จะไปอเมริกาต้นปี 2010 เพื่อไปเที่ยว แต่ถ้าจะขอวีซ่าไว้ต้นปี 2009 จะได้หรือไม่เพราะกำลังเรียนโทอยู่ มีเพื่อนบอกว่าถ้ากำลังเรียนอยู่จะของ่ายกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าระยะเวลาของวีซ่าจะมีอายุนานเท่าไร ถ้าขอล่วงหน้าเป็นปีๆ จะได้หรือไม่

ถ้าเกิดมีพี่ที่รู้จักเป็น citizen แล้วอยู่ด้วยกันที่ไทยตอนนี้ เค้าต้องทำยังไงบ้างที่จะช่วยทำให้ visa ของเราของ่ายขึ้น

พอดีจะไปเยี่ยม ครอบครัวสามีที่เมกาค่ะ จดทะเบียนกันแล้วแต่ยังไม่ทำ visa แต่งงาน แฟนทำงานที่เมืองไทยค่ะ มี work promit ที่นี่ฟ้าจะไปโดยขอเป็น visa ท่องเที่ยว น่าจะได้มั้ยค่ะ

ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเอกสาร เรามีบ้านคนรู้จักซึ่งเป็นคนไทยที่นั่น จะขอวีซ่านักท่องเทียว เราเงินเดือนประมาณ 12000 /มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ30000 ต่อเดือน/ อยากให้แนะนำเรื่องนึงว่า ส่วนใหญ่ถ้าขอวีซ่าที่ไม่ผ่านจริงๆจะมีกรณีไหนบ้าง พอจะยกตัวอย่างได้ไหม จะได้หาทางป้องกันก่อนที่จะไปขอวีซ่า

ถ้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วมีหนังสือรับรองจาก โรงเรียนที่เมกาเเล้วเรียนจบม.6มา1ปีแล้วเเต่ตอนนี้เรียนมหาลัยจะไม่เรียนต่อแล้วเอาใบการศึกษาม.6เป็นเอกสารไปเรียนต่อวีซ่าจะผ่านมั้ย

ตอนนี้มีปัญหาเข้าไปจองนัดวันขอวีซ่าแบบนักท่องเที่ยว ไม่มีวันว่างเลยค่ะ

ดูถึงปีหน้าก็ยังไม่มี มีวิธีไหนที่สามารถจองวันได้บ้างคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ

อยากขอเบอร์ ติดต่อ๖เบอร์มือถือนะคะ)

อยากสอบถามเป็นการส่สนตัวนะคะ....จะได้ไหมคะ

รบกวนนะคะ

นาเดีย

อยากทราบข้อมูล เอกสารที่จะต้องใช้ ไปอเมริกาค่ะ คือครั้งแรกค่ะ แต่มีแฟนที่ Atlanta หรือว่าเราเตรียมเอกสารให้พร้อม แล้วไปพร้อมกันจะง่ายกว่าใหมคะ

USASIA ATTORNEY SERVICE แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาคำแนะนำ และรับทำเรื่องยื่นขอวีซ่าและกรีนการ์ดให้คนไทยมีโอกาสได้รับ อนุมัติ วีซ่า หรือ กรีนการ์ดและสามารถเดินทางไปสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้อง (แบบวีซ่าท่องเที่ยว/ธุรกิจ นักเรียน นักร้อง นักแสดง นักลงทุน ศาสนกิจ เยี่ยมญาติ คู่หมั้น คู่สมรส ลอตเตอรี่กรีนการ์ด

และทำเรื่องขอกรีนการ์ดไปสหรัฐอเมริกา)นอกจากนั้นเรายังบริการติดต่อ และจัดหาสถานที่ศึกษาทุกแห่งและทุกระดับในสหรัฐอเมริกา ให้บริการแก่นักธุรกิจไทยที่สนใจจะไปลงทุนทำธุรกิจการค้าขนาดย่อยทุกชนิดในสหรัฐอเมริกา ช่วยทำเรื่องให้คนไทยได้กรีนการ์ดเพื่อไปตั้งรกรากและอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องถาวร รวมทั้งให้บริการหาคู่สมรสชาวต่างประเทศให้แก่ผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย โดยผู้บริหารของบริษัทเป็นนักกฎหมาย ไทย-อเมริกัน ที่มีความรู้ และประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ในการช่วยทำเรื่องขอวีซ่าและกรีนการ์ดให้คนไทยประสบความสำเร็จมาแล้วเป็นจำนวนมาก

สนใจติดต่อ คุณ PAT โทร 085-369-2355, www.usasia.hi5.com,

e-mail [email protected]

สำหรับผู้ที่จะเตรียมเอกสาร เตรียมตัวเดินทางไปอเมริกา สามารถหาซื้อหนังสือ "สุดยอดคัมภีร์เรียนต่ออเมริกา" มาอ่านได้ค่ะ

หาซื้อได้ตามร้านขายหนังสือทั่วประเทศจ้า

http://www.busy-day.com/images/column_1231775111/usa__.jpg

คือยังงงอยู่ คือสมมุดว่าเรามีเอกสารครบแล้ว แต่เราไม่ได้เข้าไปจองในเนตกอ่น ไม่ทราบว่าเราแลกเงินและเอาเอกสารไปยื่นที่สถานฑุตได้เลยหรือเปล่า พอดีอยู่กรุงเทพๆ แลกเป็นเงินดอล หรือเป็นตั๋วแลกเงิน

ช่วยตอบที่ค้าา ขอบคุณค้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท