มุมมองนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต ผ่านงานวิจัยประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ ตอนที่๒
2-3วันที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสลงเก็บข้อมูลเพิ่มเติมที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุตเพิ่อใช้ประกอบงานวิจัยโครงการประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ การเดินทางไปครั้งนี้ก็ได้มีโอกาสรับรู้กับบทบาทของภาครัฐที่เริ่มเข้าไปสอดส่องดูแลอุตสาหกรรมในละแวกนั้นเพิ่มมากขึ้นโดยทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมโดยรอบพื้นที่มาบตาพุต เท่าที่ผมทราบก็ใกล้จวนเจียนจะเสร็จในไม่ช้านี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมของทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุตเองก็ได้เริ่มเข้าตรวจตราโรงงานอุตสาหกรรมภายในกำกับของตนเองเช่นกัน ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าคงเป็นการตรวจเพิ่อนำเอาปัญหาที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้างมาแก้ไขนั่นเอง เจ้าหน้าที่ที่เข้าทำการตรวจครั้งนี้ดูจะเข้มเป็นพิเศษครับหลายๆคนอาจจะคิดว่าวัวหายแล้วล้อมคอกหรือเปล่า แต่ในความคิดของผมคิดว่าเป็นการเริ่มสร้างคอกที่จะมั่นคงแข็งแรงในอนาคตต่างหาก เห็นถึงความตั้งใจจริงของหน่วยงานภาครัฐคราวนี้ผมว่าถ้าโรงงานไหนที่ยังดื้อไม่ปฏิบัติตามกฏกติกาคงจะต้องโดนปิดเป็นแน่แท้ครับ อย่างน้อยชาวบ้านก็น่าจะพอใจได้ระดับหนึ่งว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจครับในการที่จะแก้ไขปัญหาต่างที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ ตอนนี้ผมคงไม่ได้พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่ได้ไปวิจัยในพื้นที่ดังกล่าวมากนักครับ เพราะกะไว้ว่าจะนำเสนอในตอนถัดไป ซึ่งก็จะมาเล่าสู่ให้ฟังถึงความกระตือรือร้นของอุตสาหกรรมภายในนิคมที่มิได้นิ่งนอนใจกับสิ่งแวดล้อมผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมกับทีมงานวิจัยผมในระหว่างที่ได้มีโอกาสไปทำวิจัยที่ผ่านมาครับ รอติดตามตอนหน้านะครับ
ความเห็น (2)
อยากได้ข้อมูลเชิงลึกจัง แต่ก็ขอบคุณมากค่ะถ้าหากใครมีข้อมูลเรื่องนี้ช่วยส่งอีเมล์มาบอกดิฉันด้วยนะค่ะ
ทำไมประเทศไทยและผู่นำเป็นอย่างนี้
1. ทำไมเมื่อศาลตัดสินให้ระงับที่มาบตาพุตแล้วโครงการต่างๆในมาบตาพุตไม่ทำตาม จริงๆควรทำตามคำสั่งศาลก่อนแล้วค่อยหาทางแก้
2.ทำไมรัฐไม่เคารพคำสั่งศาล ยิ่งกว่านั้นรัฐกับเข้าข้างพวกนายทุนที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองพิษ
3.ทำไมรัฐต้องออกหน้าแทนนายทุนทั้งๆที่นายทุนพวกนี้กำลังจะสร้างมลพิษให้ไทย
(ใคร ฯลฯ ....มีอะไรหรือเปล่าเล่าให้ฟังกันบ้างนะ