วันนี้ดิฉันได้ปะคารมเรื่องของเหรียญจตุคามรามเทพ (สะกดงี้หรือเปล่านี่) กับเพื่อนทิดผู้หนึ่งค่อนข้างออกรสออกชาติ
ข้อเขียนต่อไปนี้ของดิฉัน อาจจะขัดใจผู้อ่านจำนวนมาก แต่ขอบอกว่าดิฉันเขียนอย่างบริสุทธิ์ใจ ขอความกรุณาอย่าเอาเรื่องของศาสนามาเป็นประเด็น อนึ่ง ดิฉันก็เป็นพุทธมาแต่กำเนิดค่ะ
ดิฉันมองว่า เหรียญพระ เหรียญห้อยคอต่างๆ นั้น มันก็เป็นเพียงแค่วัตถุเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง ที่ออกไปในเชิงงมงายด้วยซ้ำ การที่ใช้คำว่า 'งมงาย' นั้นก็เพราะ หลายคนที่ได้เอาเหรียญดังกล่าวห้อยคอ จะเคารพและนับถือเหรียญที่ว่า และเชื่อมั่นว่า เหรียญที่ค้ำคออยู่นั้น จะรักษาชีวิตหรือสุขภาพได้
แทบจะเรียกได้ว่า 99.99% ของผู้ที่สะสมเหรียญอย่างคลั่งไคล้ ต้องมีพื้นฐานความเชื่อเรื่องปาฏิหารย์อย่างมากร่วมด้วย (ที่ไม่ได้สะกดว่า 'ปาติหาน 80 บาท' ของโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่ง)
ความเชื่อดังกล่าว จึงทำให้ต้องมีการแย่งชิงเหรียญ ไปถึงการทำปลอมเหรียญขึ้นมา
ดิฉันมองว่า ยังมีคนอีก 0.01% ที่เห็นความงามของเหรียญในรูปแบบของศิลปะบริสุทธิ์ การจะเป็นคนสะสมเหรียญ แบบคนที่สะสมภาพเขียนของศิลปินดังๆ ได้ ก็น่าจะเป็นผู้ที่สะสมเหรียญอย่างผู้ที่มองข้ามปาฏิหารย์ไปเห็นความงามที่อยู่ภายในเหรียญ
แทบจะไม่ค่อยเคยได้ยินการพูดถึงเหรียญว่า เหรียญอันนี้ อันนี้ เป็นศิลปะแบบสุโขทัย ทวาราวดี ฯลฯ แต่จะมีเพียงร่ำลือว่า ห้อยพระนี้ไม่ตายโหง (แต่ก็ต้องตายอยู่ดีจริงไหม) และค่านิยมใหม่ก็ต้องบอกว่า ห้อยเหรียญนั้นนี้แล้วจะทำมาค้าขายคล่อง (ใครๆ ก็อยากได้เงินในทางถูกทางควร ห้อยแค่เหรียญสองเหรียญจะลงทุนยากตรงไหนกัน)
แต่ตัวดิฉันเอง โตมากับคำสอนของพ่อที่ว่า การทำความดีนั้น มันอยู่ที่ใจเรา ไม่ต้องมีใครมายืนเฝ้ากำกับ ไม่ต้องมีการห้อยของใดๆ ก็ตาม ถ้าเราจะทำดี คิดดี มันก็ต้องมาจากจิตใจ มาจากการกระทำที่ดีของเราเอง .. ถ้าเราห้อยของที่คิดว่าดี แต่ทำชั่วอยู่ดี (หรือคิดชั่วด้วย) มันก็ไม่ได้เป็นกรรมดี
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด การมีเหรียญ ไม่มีเหรียญ ไม่ทำให้สิ่งที่มันต้องเกิด มันจะไม่เกิดได้
กุศโลบายในอดีต มันกลายเป็นพุทธพาณิชย์ไปอีกอย่างเสียแล้ว น่าเศร้าใจนะคะ
และขอโทษที่อดจะเทียบไม่ได้ ทุกคราที่ได้เห็นข่าวเรื่องเหรียญศักดิ์สิทธิ์ตามหน้าหนังสือพิมพ์รายวันทีไร ดิฉันอดนึกเทียบไปกับการขูดต้นไม้ขอหวยไปเสียทุกทีสิ
ปล. เพื่อนทิดของดิฉันบอกว่า ดิฉันน่ะเป็นคนไอทีมากเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องของสิ่งยึดเหนี่ยวไปได้ เป็นเชิงว่า ดิฉันเห็นเรื่องของความเชื่อเป็นสิ่งงมงาย - เฮ้ .. ท่านเข้าใจดิฉันผิดไปเน้อ -
สังคมไทย คนป่วยเป็นโรคทางจิตวิญญาณมากขึ้น ก็เลยเป็นช่องทางของนายทุน ว่ากันจริง ๆ แล้วแต่ละท้องถิ่นก็มีสิ่งยึดเหนี่ยวใจผู้คน ได้แก่พระเถระผู้ทรงคุณงามความดี มีจริยวัตร ธุดงควัตร งดงามแม้มรณภาพนานแล้ว แต่แล้วก็มีคนนำสิ่งนั้นสิ่งนี้มาเสนอ แล้วบอกว่า มีประสบการณ์ (รู้สึกเขาจะเรียกอย่างนี้) เช่นรถคว่ำไม่ตายบ้าง ยิงไม่ตายบ้าง อะไรทำนองนี้ แล้วก็โปรโมทออกไป สร้างภาพให้มันดูยิ่งใหญ่มโหฬาร คนสร้างก็ยกผู้ใดผู้หนึ่งขึ้น แล้วบอกว่าเป็นผู้มีบารมี อาตมาเองก็ยังงง ๆ ว่าบารมีเขาสร้างกันง่าย ๆ หรือไร เช่นยกใครขึ้นมาแล้วบอกว่าเป็นผู้มีบารมี ทั้ง ๆ ที่เห็น ๆ กันอยู่ จตุธรรม คนละทิ้ง แต่มุ่งจตุคาม ตอนนี้ก็ยิ่งสัปสนว่า วัตถุที่คนเบียดเสียดยื้อแย่งกัยถึงตายเป็นวัตถุมงคลไปแล้ว แล้วที่เป็นอัปมงคลมันอย่างไหนหนอ แล้วคำว่ามงคล ที่ผมเรียนมาคงจะิผิด รวมทั้งความหมายของคำต่าง ๆ เช่น โพธิสัตว์ ปัจจุบันสื่งเหล่านี้ ทำความอยากให้เกิดขึ้นกับคน คนอยากได้มาก ๆ มันเป็นโลภะ โทสะ และโมหะ หรือไม่ พระโพธิสัตว์มีความปรารถนาให้เป็นอย่างนี้หรือ ใครทราบช่วยตอบผมที
[ minisiam ]....
เข้ามาเยี่ยม...
อ้างถึงฺ SUPOJ .... พระเดชพระคุณน่าจะสมัครเป็นสมาชิก โกทูโน ...ไม่ต้องใช้ อาตมามั้ง ผมมั้ง....
เจริญพร
Update จตุคามวันนี้ :