เมื่อสามวันก่อน... ผมกลับมาจากงานกลางคืน ได้เปิดข่าวดูยามดึกเหมือนเช่นทุกวัน ปากก็งับอาหารอันโอชะ... ตาก็สนใจข่าวบ้าง อาหารบ้าง...
สักพัก... ผมต้องหยุดชะงักกับการกิน.. สายตาจับจ้องไปที่ข่าวในจอสี่เหลี่ยม...
มันคือภาพวาด... ที่สวยมากในสายตาผม ส่วนใหญ่เป็นภาพของสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะ “ม้า” เป็นภาพที่อายุสมองของผมขนาดนี้ยังไม่สามารถวาดได้ขนาดนี้... เจ้าของภาพคงเป็นศิลปินโดยอาชีพสินะ...
และแล้ว... ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นเจ้าของภาพวาด เขาเป็นเด็ก เด็กที่เรียกเขาว่า “เด็กพิเศษ” “ออทิสติก” เด็กที่มีสมาธิสั้น (ต้องขอโทษทีผมจำชื่อน้องเขาไม่ได้ และจำไม่ได้เช่นกันว่าจะแสดงภาพที่ไหน แต่จำได้ว่าเร็ว ๆ นี้)
แม่ของน้องคนนี้เล่าว่า... สอนลูกให้รู้จักศิลปะมาตั้งแต่เด็ก เพียงเพราะลูกเป็นเด็กที่ไม่มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่น เลยหากิจกรรมให้ทำ โดยการใช้ “ศิลปะ” มาเป็นตัว “บำบัด” และที่จะจัดแสดงภาพวาดขึ้นนั้น... ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า “เด็กพิเศษก็สามารถทำได้ และอาจทำได้ดีกว่าหลายคนด้วยซ้ำ” อ้าว... ซวยข้าพเจ้าละสิเนี่ย... ดันวาดภาพ “ไม่เอาไหน” กว่าน้องกลุ่มนี้ อิ อิ...
ผมนั่งปลื้มผลงานของน้องกลุ่มนี้อยู่นาน... เลยฉุกคิดได้ว่า “ศิลปะ” ช่วยอะไร...
ผมลืมไปว่า... เรื่องของศิลปะนี้ เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่มีคนนำไปใช้ในการบำบัดกับคนหลาย ๆ ประเภทมาแล้ว เช่น คนที่มีจิตใจไม่ปกติ หรือพวกซึมเศร้า พวกนักโทษ เป็นต้น เพราะศิลปะสามารถเรียกสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้ ศิลปะที่ดีเกิดจากการควบคุมสติที่มั่นคง เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ออกมาเป็นภาพวาด... ทำให้ศิลปะเป็นสิ่งที่ดีและไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด....
เฮ้อ... วันนี้ผมรักงานศิลป์ ขึ้นมาอีกเยอะเลย...
ได้ดูข่าวอยู่เหมือนกันครับ ศิลปะมีประโยชน์ในหลาย ๆ เรื่องจริง ๆ ครับ..
ขอบคุณมากครับ...