ทีมนักกำหนดอาหารมีความชื่นชมคนไข้ท่านหนึ่งมากที่มีความตั้งใจในการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จทั้งเรื่องนำหนักตัวและระดับน้ำตาลในเลือด จนอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าในวันนี้ค่ะ
คนไข้ชายท่านนี้เป็นนักธุรกิจ ชอบทำและกินเบเกอรี่ ไอศกรีมและผลไม้เป็นชีวิตจิตใจ เป็นเบาหวาน ระดับน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 9กว่าๆ และแบกน้ำหนักที่ 105 กิโลกรัม ตัดสินใจลดน้ำหนักเนื่องจากอยากคุมเบาหวานให้ดีกว่านี้ เพราะไม่อยากมีโรคแทรกซ้อนอย่างคุณแม่
เราเริ่มคุยแนวทางการปรับอาหารการกินกับคนไข้โดยใช้สัดส่วนข้อแนะนำของ Joslin Diabetes Center คือให้กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต~ 40 % โปรตีน ~ 25 % ไขมัน~35% พูดง่ายๆเป็นการปรับให้คนไข้กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจากข้าวแป้ง ผลไม้ นม และอาหารที่มีน้ำตาลน้อยลง เพิ่มโปรตีนหรือกับข้าวประเภทเนื้อสัตว์ให้มากขึ้นแต่ขอให้กินประเภทที่มีไขมันน้อย กินผักเยอะๆได้ และดื่มน้ำให้เยอะๆ ไขมันให้หลีกเลี่ยงการทอดเพราะคนไข้จะได้ไขมันปริมาณมากจากเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว หากหิวอาจจัดถั่วเปลือกแข็งเช่น ถั่วลิสง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เป็นอาหารว่าง(เป็นไขมันดี)
และเริ่มต้นกันโดยใช้ empowermentมาช่วย โดยให้เลือกในสิ่งที่เปลี่ยนง่ายสำหรับคนไข้ เช่นลดข้าวลงทัพพีหนึ่ง ลดผลไม้ลงครึ่งหนึ่ง ออกกำลังกายวันเว้นวันครั้งละครึ่งชั่วโมง หรือเพิ่มผักให้มากขึ้น โดยให้คนไข้เลือกทำไม่เกิน 2-3 ข้อ
คนไข้เริ่มต้นปรับการกินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมาพบกันตามนัดสองเดือนครั้งพร้อมแพทย์ น้ำหนัก ระดับน้ำตาลเฉลี่ย และปริมาณยาค่อยๆลดลงเรื่อยๆ จนล่าสุดเดือนพฤศจิกายนมาพบกัน เชื่อไหมคะว่าสามารถลดน้ำหนักลงมาได้เหลือ 85 กิโลกรัม ระดับน้ำตาลเฉลี่ย 6.5 และกินยา เมตฟอร์มินแค่วันละเม็ดเดียว เราจากกันและนัดกันอีกสองเดือนข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่น้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม และเปลี่ยนการกินมาเป็นแบบสมดุล
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากเราลดน้ำหนักคนไข้เบาหวานได้แล้ว การคุมระดับน้ำตาลเป็นสิ่งที่ไม่ยากเลยค่ะ เพราะนอกจากคนไข้จะได้ปรับพฤติกรรมการกินการอยู่แล้ว ปัญหาเรื่องดื้ออินซูลินก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
จุรีย์พร จันทรภักดี และทีมนักกำหนดอาหารค่ะ
ไม่มีความเห็น