สวัสดีครับ
พักนี้ตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ กำลังติดตามรายงานข่าวเหตุบ้านการเมืองกันอย่างขะมักเขม้น ประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อถกเถียงกันมากก็คือ การระบุศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ
แปลกแต่จริง เรื่องนี้ไม่น่าที่จะเป็นประเด็นแต่ก็เป็นไปแล้ว ทั้งยังมีความละเอียดอ่อนมากๆ แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว เราไม่น่าที่จะยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นด้วยซ้ำ
สาเหตุก็คือ ถ้าเราได้ลองย้อนกลับไปคิดดูว่า คนในสังคมไทยส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตกันอย่างไร ค่านิยม ความเชื่อ จารีตประเพณี วิถีชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติของสังคมไทยอยู่แล้ว แสดงให้เห็นโดยชัดเจนอยู่แล้วว่า พระพุทธศาสนาเป็นยิ่งกว่าศาสนาประจำชาติ ถึงขนาดที่ชาวไทยคริสต์ ฮินดู อิสลาม หรือคนต่างชาติต่างศาสนา ล้วนแต่ยอมรับวิถีแบบพุทธของชาวไทยอยู่แล้ว ความขัดแย้งทางศาสนาแทบจะไม่ปรากฏให้เห็นเลย
ศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจ ความเชื่อ ความศรัทธา ศาสนามีความเป็นธรรม เป็นสัจจะแห่งธรรมชาติ ศาสนาไม่มีวันเสื่อม จิตใจหรือการกระทำของคนต่างหากที่เสื่อมไป
โดยหลักการแห่งพระพุทธศาสนานั้น เหตุผล ศรัทธาเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้มากว่า 2,500 ปี
พระพุทธศาสนาไม่เคยบังคับให้ใครเชื่อโดยไม่มีเหตุผล
พระพุทธศาสนาไม่เคยใช้กำลังบังคับให้ใครนับถือ
พระพุทธศาสนาไม่เคยบังคับให้ใครศรัทธา
ทุกอย่างล้วนแต่อยู่ที่ตัวผู้ศรัทธาและพุทธศาสนานิกชนทั้งสิ้น
ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย ข้อบังคับในมาตราใดๆ
มองในแง่หนึ่งก็คือ เมื่อใดก็ตามที่เราใช้กำลังบังคับใคร ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด รวมถึงการบังคับให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญด้วยแล้ว
นั่นก็เท่ากับว่า ตัวเราได้ละเมิดหลักสำคัญในพระพุทธศาสนา ได้ละเมิดหลักการศรัทธาในพระพุทธศาสนา และได้ละเมิดหลักความเป็นเหตุเป็นผลในพระพุทธศาสนา
และเมื่อนั้นเอง เราก็ขาดความชอบธรรมที่จะอ้างว่าเป็นพุทธศาสนิกชนไปแล้วโดยสิ้นเชิง