"อาจารย์ครับ อาจารย์ครับ วันนี้ได้กุ้งตัวงามๆเอามั้ยครับ" และมีการเปลี่ยนชนิดสิ่งที่จับได้ในวันนั้นๆ เช่น ปลาม้า ปลาเบี้ยว ปลาหมู เป็นเสียงร้องเรียกจากคนหาปลาเจ้าประจำที่มาแวะเรียก ทำให้มีโอกาสบริโภคของสด เรียกว่าสดจนไม่อยากไปดูเอง กุ้งแม่น้ำขนาดคละกันไป ใหญ่บ้าง ย่อมๆบ้าง ดิ้นขลุกขลักอยู่ในท้องเรือ ต้องให้แม่บ้านชื่อพี่น้อย (ทำอาหารอร่อยมาก)ไปจัดการซื้อ แรกๆพี่น้อยซื้อเสร็จก็จะเอามาโชว์ รู้สึกหายอร่อยไปเยอะ ตอนหลังต้องบอกให้เอาไปใส่กาละมังปล่อยให้มันหมดอายุขัยไปเอง ปลอบใจตัวเองว่ายังไงมันก็ไม่รอดอยู่แล้ว
ที่เห็นในภาพ ถ่ายจากระเบียงหรือนอกชานชั้นบน เห็นวิวอย่างนี้แทบทุกวันช่วงเช้าๆ พอแดดแรงเขาก็ไปตรงอื่นกันหมด น่าสนใจมากๆตรงที่เวลาเขาพายมาจะมีไม้ไผ่ทั้งลำยาวกว่าเรือเสียอีกพาดขวางเรือตรงหน้าตัก พอถึงที่เหมาะๆเขาก็จะยกไม้ไผ่ทิ่มลงไปในน้ำจนถึงโคลน ส่วนปลายเรียวที่พ้นน้ำก็จะถูกโยกมาตรงด้านหน้าแล้วเอาขาพาดทับไว้ เพื่อให้เรืออยู่กับที่ เมื่อแต่ละคนได้ที่เขาจะอยู่นิ่งมาก อดทนจริงๆ หากอยู่ระยะหนึ่งไม่ได้อะไรเขาก็จะขยับกันไปหรือหากมีเรือขนส่งสินค้าเช่นเรือน้ำมัน เรือพ่วงขนหิน-ทราย เขาก็จะค่อยๆขยับช้าๆ เราเสียอีกลุ้นแทบตายกลัวเขาจะหลบไม่ทัน
ที่จริงคนหาปลามีหลายประเภท ทั้งทอดแห วางข่าย สงสัยตรงคุ้งน้ำจะมีปลาเยอะ มาตรงแถวใกล้ๆบ้านกันทุกวัน ไม่รู้ว่าปลาเล็กปลาน้อยที่เราให้อาหารที่ท่าน้ำทุกวันจะเอาตัวรอดหรือเปล่า
อากาศน่าเย็นสบายนะคะ
ชอบบรรยากาศแบบนี้
เบื่อรถยนต์บนถนนในกรุงเสียแล้วค่ะ
สวัสดีอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณค่ะ