เมื่อเอาผู้หญิงมาโฆษณากับพระ(2)


ถือเป็นงานปกป้องพุทธศาสนาในต่างแดน

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542  ผมได้รายงานให้หน่วยงานต้นสังกัดทราบ มี ใจความสรุป ดังนี้                     ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ................... S.A.  ซึ่งผลิตช็อคโกแล็ตในเบลเยี่ยม ได้ทำการโฆษณาสินค้าขนาดประมาณ 1x1.5 เมตร เป็นภาพต่าง ๆ ประมาณ 4-5 แบบ  ในจำนวนภาพดังกล่าว มีอยู่ภาพหนึ่งเป็นภาพวาดพระสงฆ์นั่งสมาธิ  โดยมีสตรีผิวดำยืนโอบกอดจากข้างหลัง และได้ติดภาพโฆษณาดังกล่าวตามป้ายรถราง รถเมล์ สถานีรถไฟ และที่สาธารณะต่าง ๆ ในกรุงบรัสเซลส์ และเมืองใหญ่ ๆ                     การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม  ทั้งนี้เนื่องจาก พระสงฆ์เป็นสถาบันที่เคารพบูชาของศาสนิกชนชาวไทยและชาวพุทธทั่วโลก และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในศาสนาพุทธ การนำภาพพระสงฆ์ดังกล่าวมาใช้ในการโฆษณาสินค้า จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และถือว่าเป็นการลบหลู่ศาสนาพุทธ  อาจจะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ดังนั้น ......จึงได้มีหนังสือแจ้งบริษัทฯ เพื่อท้วงติงการกระทำดังกล่าว และขอให้ยุติการโฆษณาภาพดังกล่าวโดยทันที                     ในขณะที่หน่วยงานที่ผมทำงานอยู่มีหนังสือประท้วงไปยังบริษัทฯ นั้น  ผมได้รับแจ้งจากคนไทยตามเมืองต่าง ๆ ในเบลเยี่ยมว่า เห็นภาพโฆษณาดังกล่าวตามสถานีรถไฟและที่สาธารณะ และต่างมีความไม่พอใจเป็นอย่างมาก  ชาวพุทธเหล่านี้มีทั้งคนไทยที่มาตั้งรกรากใน  เบลเยี่ยม  บ้างเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย เป็นล่ามแปลภาษา รวมทั้งลูกจ้างในที่ทำงานของผม เอง  คนไทยบางคนเล่าว่าแม้แต่เพื่อนชาวเบลเยี่ยมซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ เห็นภาพโฆษณานี้แล้วก็ยังรู้สึกถึงความไม่ถูกต้องที่นำเอาพระภิกษุมาโฆษณาในลักษณะนี้                     คนไทยหลายกลุ่มได้รวมตัวกันทำหนังสือประท้วงบริษัทช็อคโกแล็ตดังกล่าวด้วย                     ผมได้แจ้งเรื่องโฆษณาดังกล่าว และหนังสือประท้วงไปยังกลุ่มชาวพุทธในเบลเยี่ยม องค์การศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย  รวมทั้งศูนย์สมาธิธรรมกายที่เมือง Irper  เบลเยี่ยม  ซึ่งมีพระสงฆ์ไทยดูแลอยู่  ผมเห็นว่า ชาวพุทธไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ควรจะได้รับทราบถึงความไม่ถูกต้องนี้  เพื่อที่จะได้แสดงพลังช่วยกันแก้ไข โดยการแจ้งสิ่งที่ถูกต้องให้บริษัทฯ รับทราบ                     ในคืนของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542 นั้นเอง  หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง พระที่ศูนย์สมาธิธรรมกาย    ก็ได้ส่ง E-mail ใน Internet ไปยังชมรมชาวพุทธทั้งหลายทั่วโลก  แจ้งข่าวการละเมิดศาสนาพุทธ และเชิญชวนให้ชาวพุทธช่วยกันเตือนบริษัทช็อคโกแล็ตดังกล่าวให้ทราบถึงสิ่งที่ถูกต้อง โดยการเขียนจดหมายไปหาบริษัทดังกล่าว                     ผมรู้สึกดีใจที่ได้พบ ข้อความใน E-mail  อันนับเป็นการแสดงพลังของชาวพุทธในทางที่สันติ เป็นการแสดงถึงความเป็นศาสนาและสถาบันในประเทศที่อาจจะยังไม่รู้จักและรับรองศานาพุทธ ...และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การแจ้งข่าวเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และกล่าวได้ว่าทำให้โลกที่กว้างใหญ่แคบลงมาก                     การส่งหนังสือประท้วงบริษัทชอคโคแล๊ต เป็นสิ่งจำเป็น มิฉะนั้น อาจจะเป็นการปล่อยให้มีการสร้างภาพที่ผิดว่า พระในพุทธศาสนากับสตรีนั้นมีความสัมพันธ์กันได้ อย่างไรก็ดีมีบางท่านเตือนว่าการประท้วงอย่างเปิดเผยอาจจะเปิดช่องให้กับบริษัทฟ้องกลับทางกฎหมายได้ เพราะบริษัทได้รับความเสียหายในเรื่องชื่อเสียง  แต่ผมเห็นว่า ผู้ที่เสียหายคือชาวพุทธ มิใช่บริษัท  การประท้วงของชาวพุทธจึงน่าจะเป็นสิทธิอันหนึ่งที่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายด้วย  ซึ่งก็คือสิทธิมนุษยชนนั่นเอง  การเรียกร้องให้ยุติการใช้โฆษณาดังกล่าวก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง และถือว่าเป็นไปตามแนวของชาวพุทธที่ดี เพราะบริษัทอาจจะทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากรู้ว่าผิดและแก้ไขเสีย ก็เป็นสิ่งที่ดีงามและให้อภัยกันได้                     คนไทยบางคนแจ้งให้ทราบว่า เขาเห็นโฆษณานี้แล้วหลายวัน และรู้สึกไม่พอใจอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกใครต่อ เมื่อทราบว่ามีการหนังสือประท้วงไปยังบริษัทฯ จึงจะขอร่วมแสดงความไม่พอใจและบางท่านก็ได้ส่งหนังสือประท้วงไปเองด้วย  ในประเด็นนี้ ผมเห็นว่า เป็นเรื่องที่น่าจะทำความเข้าใจให้กระจ่างว่า ชาวพุทธ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามในโลกนี้ หากพบเห็นสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่ตนนับถือ ก็ควรที่จะบอกกล่าวกันให้ทราบ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องให้ทราบ  มิฉะนั้น จะกลายเป็นว่า เห็นแล้ว แต่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่ ก็เลยไม่ได้บอกกล่าวกัน ... ในกรณีนี้  หากภรรยาผมไม่เห็นและบอกให้ทราบ ก็อาจจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากทางการ  จนกว่าบริษัทจะเอาโปสเตอร์นั้นออกไปตามกำหนด   ก็เป็นอันว่า ภาพพระภิกษุกับสตรีเป็นเรื่องที่ไม่ผิดปรกติใด ๆ ในสายตาของบริษัทและสาธารณชนที่พบเห็นโปสเตอร์นั้น  ก็นับว่าเป็นความโชคดีที่ภาพที่ผิด ๆ นี้ไม่ได้หลุดรอดสายตาของชาวพุทธในเบลเยี่ยมไปได้                     หลังจากที่ส่งหนังสือประท้วงไปบริษัทฯ แล้ว  บริษัทฯ ก็ยังเงียบเฉยอยู่  ไม่มีการชี้แจงหรือติดต่อกลับมาแต่อย่างใด  อย่างไรก็ดี ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2542  โฆษณาดังกล่าวก็ถูกถอดออกไปจากที่ที่เคยติดหลายแห่ง  ผมได้ออกไปตระเวณดู ก็ไม่พบโฆษณาดังกล่าวแล้ว  แต่ถึงกระนั้นก็ตาม  ก็ยังไม่ได้หมายความว่าบริษัทฯ จะยุติการใช้โฆษณาดังกล่าว...                     วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2542  ที่เมืองไทย ก็ได้มีการออกข่าวเรื่องดังกล่าว ปรากฎว่าเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนไทยไม่น้อย  ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสดโทรศัพท์ทางไกลมาขอภาพโปสเตอร์นั้นไปลงข่าว และได้ทราบว่า โทรทัศน์ช่อง 5  รายการเช้าวันนี้ และรายการบ้านเลขที่ 5 ก็ได้รายงานข่าวเรื่องดังกล่าวด้วย                     วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2542  ผมจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้จัดการใหญ่ของบริษัทช็อกโกแล็ต ดังกล่าว ก็ได้รับแจ้งว่า บริษัททราบถึงการประท้วงแล้ว และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ซึ่งเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทราบว่าพระภิกษุมีวินัยเคร่งครัด และถูกต้องสตรีเพศไม่ได้  บริษัทได้ขอโทษ และได้ถอดถอนโฆษณาออกแล้ว และแจ้งว่าจะมีหนังสือขอโทษมาอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป                     ผมจึงรีบรายงานให้หน่วยงานต้นสังกัดของผมทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้  ซึ่งนับว่าจบลงด้วยดี                     เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนให้บริษัทช๊อกโกแล๊ตว่า การจะนำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในสังคมอื่นที่มิใช่ของตนเองมาใช้โฆษณา  จะต้องศึกษาดูให้ดีก่อนว่าจะกระทบกระเทือนในมุมใดมุมหนึ่งต่อสังคมนั้นหรือไม่  หากเป็นสิ่งที่คนในสังคมเคารพบูชา สมควรหรือไม่ที่จะนำมาใช้ในการโฆษณา และจะเป็นการลบหลู่ศาสนาหรือไม่เพียงใด ฯลฯ                     ในความเป็นชาวพุทธที่ดี เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้ หากยังคงมีการโฆษณาอยู่ต่อไป  แต่หากมีการขอโทษ และสารภาพว่าไม่รู้จริง ๆ  และยุติการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เราชาวพุทธก็น่าจะให้อภัย และอโหสิกรรมแก่ผู้กระทำผิดนั้น ถือว่าเป็นบุญกุศลที่สูงยิ่ง

                     ประการที่สำคัญที่ได้จากกรณีนี้ก็คือ การร่วมใจกันแสดงออกของพลังชาวพุทธ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก หากมีอะไรไม่ถูกต้อง ชาวพุทธก็พร้อมใจกันแสดงออก เพื่อแก้ไขความไม่ถูกต้องนั้นเสมอ 

                   ......................................................

 
หมายเลขบันทึก: 87894เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2012 00:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
สัญญาลักษณ์ทางพุทธศาสนาถูกลบหลู่ จากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยู่เรื่อยๆ ดีมากๆ เลยค่ะ ที่ชาวพุทธสามารถรวมพลังประท้วงในสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง

คุณ Paew ครับ

ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดเห็น การลบหลู่ศาสนาของสังคมโลกมีอยู่เสมอ บางครั้งก็มีปฏิกริยารุนแรงและกว้างขวางมาก......

ผมคิดว่าหากคนเราสามารถทำจิตให้มีภูมิปัญญาถึงขั้นที่รู้ทันรู้แจ้ง น่าจะอยู่เหนือความขัดแย้งทางโลกทุกอย่างครับ

ด้วยความปรารถนาดีครับ

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

คนไทยในเบลเยียมรวมตัวกันดีมากครับ จนต่อมาไม่กี่ปีหลังจากเหตุการณ์ที่ผมเล่ามา สามารถจัดตั้งวัดไทยได้สำเร็จเป็นแห่งแรกในเบลเยียม ตั้งอยู่ที่วอเตอร์ลู ชานเมืองบรัสเซลส์ ทราบว่าปัจจุบันยังเข้มแข็งอยู่ครับ

กราบนมัสการครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท