ผีบ้า...ผู้ปลดแอกวิถีชาวนา


ผีบ้า...ผู้ปลดแอกวิถีชาวนา
คนไม่ธรรมดา...ผีบ้าผู้ปลดแอกวิถีชาวนา 

นับช่วงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพชาวนาถือเป็นอาชีพหลักที่คนไทยเราได้ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งเป็นอาชีพหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีพระคุณมากล้นที่คอยหล่อเลี้ยงและเกื้อกูลในการดำรงวิถีความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ แต่พอกาลเวลาผ่านเลยมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ทำไมอาชีพชาวนาถึงได้ดูไม่มีเกียรติไม่มีศักดิ์ศรี ดูแล้วเหมือนเป็นสิ่งที่ต่ำต้อยในสายตายของคนรุ่นลูกรุ่นหลานส่วนมาก หารู้ไม่ว่านี่แหละคือกระดูกสันหลังของชาติ สิ่งที่เป็นเหมือนกำลังหลักเป็นที่ได้หล่อเลี้ยงเจ้าให้เติบโตขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ได้

และคงจะมีไม่กี่คนนักที่จะกล้าพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า เขามีอาชีพชาวนา เหตุเพราะลำพังแค่คนที่มีอาชีพทำนาเองยังต้องซื้อข้าวสารกินเลย แถมบางรายก็มีเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยที่ออกดอกบานสะพรั่งเป็นของแถมมาด้วย จากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น ราคาต้นทุนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องลงทุนไปในการทำนา จนในที่สุดก็ไม่เหลืออะไร ไม่ว่าจะเป็นทุนทั้งแรงกายและแรงใจ มันเป็นเหมือนหลุมพรางที่ใครขุดไว้ให้พวกเขากันเล่า

ปัจจุบันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบทุนนิยมเข้ามามีบทบาทต่อคนส่วนมากในบ้านในเมืองเรา สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุโทรทัศน์ต่างก็โฆษณากันเกลื่อนเมือง แถมท้ายด้วยละครน้ำเน่าที่คอยกรอกหูกรอกตาคนทั้งเมือง และผลที่ได้ก็ดูเหมือนว่าจะทะลุเป้าเกินคาดของพวกระบบนายทุนมากทีเดียว เพราะทุกต้นทุนทุกอย่างถูกตีมูลค่าเป็นเงินกันหมดสิ้น

ชายผู้หนึ่งผู้ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือมากไปด้วยอิทธิพลของเงินทองและข้าทาสบริวาร แต่เค้าคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ในใจของตัวเองและครอบครัวของเขาเสมอ ผู้มีความดีและความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานเดิมในจิตใจ เค้าได้เข้ามาสัมผัสกับชีวิตที่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเอารัดเอาเปรียบกันของผู้คนส่วนมากในสังคมที่เรียกว่าระบบทุนนิยม ด้วยความหวังเพียงเพื่อจะยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวให้พ้นจากความจน แต่เค้าก็ทนต่อกระแสที่เป็นด้านลบในจิตใจของเขาไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจพาลูกและเมียของเขาหันหลังให้กับระบบที่มีแต่ได้ของนายทุนกลับมาสู่วิถีชีวิตดั่งเดิมของบรรพบุรุษ นั่นคืออาชีพชาวนาแล้วบวกรวมกับแนวทางของกระแสพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวของเราเป็นแนวทางหลักในการทำนาในแบบของเขา ซึ่งทุกคนในหมู่บ้านของเขาต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันไม่มีทางเป็นจริงได้หรอกด้วยเหตุนี้เองมันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของชายผู้นี้ แหลมพูนศักดิ์ สมบูรณ์ ซึ่งแต่ก่อนผู้คนเรียกเค้าว่า ผีบ้าหรือ คนบ้านั่นเอง คุณผู้อ่านลองมาติดตามเรื่องราวของ แหลมเกษตรกรอาชีพชาวนาเต็มขั้นตามแนวทางพระราชดำริ ของชายผู้นี้พร้อมๆ กับผมกันเลยครับ

แหลมหรือนายพูนศักดิ์ สมบูรณ์ ปัจจุบันอายุ 33 ปี เป็นลูกชาวนาโดยกำเนิด เค้าเกิดที่บ้านโนนยาง อ.กุดชุม จ.ยโสธร หลังจากที่เค้าได้เรียนจบชั้นป. 6 ชีวิตของเขาก็ได้เดินทางเข้ามาทำงานก่อสร้างในเมืองหลวง ซึ่งถือว่าเป็นความนิยมของคนในช่วงนั้น เพียงเพื่อหวังแค่ว่าจะยกระดับความเป็นอยู่ของครอบให้ดีขึ้น ซึ่งพ่อแม่ของเค้าก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่อยากที่จะต้องให้ลูกของตนเองต้องมาทำนาให้ลำบากเหมือนกับพ่อแม่

การได้เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ทำให้แหลมได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย รวมถึงความต่ำต้อยของคนกับวัตถุของระบบทุนนิยมที่ได้เข้าไปครอบคลุมจิตใจของคนในบ้านในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ทุกอย่างถูกตีมูลค่าหมดแม้แต่น้ำแก้วเดียว จนในที่สุดเขาทนไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยต่อระบบที่มีแต่การเอารัดเอาเปรียบคบค้ากันแค่ผิวเปลือก ถ้าเค้ายังคงต้องรับใช้ให้กับใครต่อใครที่ต้องการเอาแต่ได้จนเกินไปมันก็ดูเหมือนกับว่าตราบาปที่เค้าได้ก้มหน้าก้มหน้าทำลงไปนั้นมันจะค่อยทับถมจิตใจของเขาไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาจึงตัดสินใจพาลูกและเมียหันหลังให้กับระบบที่มีแต่การเอารัดเอาเปรียบกันนี้ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันที่บ้านเกิดของเขาที่ จ.ยโสธร ด้วยอาชีพทำนา….

ทั้งพ่อแม่และญาติพี่น้องต่างก็ไม่เห็นด้วยเพราะดูแล้วว่า การที่จะเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพชาวนานี้มันคงเป็นเรื่องที่มองดูทางออกแล้วดูเหมือนจะมืดมนเหลือเกิน มองอย่างไงก็ไม่เห็นทางเลยจริงๆ รวมถึงคนส่วนมากในหมู่บ้านต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก….บักแหลม  แต่เค้าก็เลือกที่จะยึดหลักอาชีพชาวนาตามแนวพระราชดำริแบบพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งยึดหลักแนวทางการพึ่งพาตนเองเป็นสำคัญ ไม่พึ่งพาปุ๋ยเคมีต่างๆ ของพวกระบบนายทุน

จากพื้นที่ทำนาที่แห้งแล้งที่พ่อแม่แบ่งปันให้มา 16 ไร่ เขาก็ได้เริ่มสร้างแผ่นดินฝันของเขา ผืนนาอันแห้งแล้งค่อยๆ ถูกจัดสรรให้เป็นสัดส่วนแบบไร่นาสวนผสมตามแนวทางของพระราชดำริ เขามีแค่แรงกายและแรงใจพร้อมทั้งครอบครัวเล็กๆ ของเค้าเท่านั้นที่เป็นทุนหลักในครั้งนี้ พร้อมทั้งคำปรามาสของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่จะทำให้เขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นไปได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน เค้าไม่รีรอที่จะเริ่มขุดๆๆๆ และก็ขุดพื้นดินอันแห้งแล้งของเค้า เพื่อจะปลูกพืชผักสีเขียวตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพดินเป็นขั้นแรก ซึ่งเขาก็ต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือน เป็นแรมปี ซึ่งก็มีบ่อยครั้งทีเดียวที่เขามาขุดดินในค่ำคืนเดือนแจ้ง(เดือนหงาย) เกือบทั้งคืน เพื่อหวังเพียงว่าจะได้เห็นผลในสิ่งที่เค้าได้ลงมือทำไวๆ จนคนเค้าเรียกว่า ผีบ้า” (คนบ้า) …

หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนในการทำงานจริงๆ นั้น ใช่ว่าจะเรียบง่าย ปัญหาและอุปสรรคจะต้องเข้ามาเผชิญหน้าให้เค้าได้ทดสอบอย่างแน่นอน แม้จะมีแนวทางมีหลักทฤษฎีแล้วก็ตาม เพราะเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่แวดล้อมย่อมต้องมีความแตกต่างๆ กันไป และนั่นก็เป็นเหมือนบทเรียนบทใหม่หรือทฤษฎีใหม่ที่เราจะต้องทดลองค้นคว้าและก็พิสูจน์เองเพื่อจะปรับให้ใช้ได้กับการทำงานจริงๆ  ซึ่งแหลมก็ต้องเจอกับปัญหาเหล่านั้นเพื่อที่จะหาแนวทางในการนำหลักการต่างๆ ตามแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ ทั้งหมดคงไม่ใช่อุปสรรคใหญ่อะไรนักสำหรับคนจริงอย่างเค้า เพราะนั่นถือเป็นบททดสอบสำหรับผู้ที่จะผ่านไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า….

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นและสิ่งที่เขาได้ทุ่มเททั้งกายและใจทั้งชีวิตก็ได้ปรากฏผลออกมาให้ได้รับรู้แล้วว่า การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทำให้เขาสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้เค้าไม่ต้องตกเป็นเหยื่อตกเป็นทาส ครอบครัวของเค้าก็ไม่ต้องแยกย้ายกันไปใช้แรงงาน เพื่อรับใช้ระบบทุนนิยม และเป็นเวลากว่า 6-7 ปีแล้ว จากวันนั้นที่เขาได้เริ่มต้นและหันหลังให้กับระบบทุนนิยม โดยการทำไร่นาสวนผสมตามแนวทางของพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัว มันเป็นบทพิสูจน์ เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้ปลดแอกของตัวเองแล้ว เขากล้าที่จะพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า เขามีอาชีพเป็นชาวนา

พ่อแม่และญาติพี่น้องรวมถึงคนในหมู่บ้านต่างก็ยอมรับในแนวทางที่เค้าทำ เค้าได้ทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ เขาได้เริ่มจุดไฟส่องทางให้เพื่อนชาวนาได้ร่วมปลดแอกตัวเองจากระบบนายทุน ระบบทุนนิยม ที่มีหลุมพรางมากมายแล้ว….

ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อาชีพชาวนา จะต้องกลับมามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับความเคารพ ให้สมกับที่เรียกขานว่ากระดูกสันหลังของชาติต่อไปไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากระบบทุนนิยม จากระบบนายทุนเลือดเย็นที่คอยแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อกันจากคนที่ด้อยกว่าพวกเค้าจะยืนหยัดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระผู้เป็นพ่อหลวงของเรา ของคนทั้งแผ่นดิน พวกเค้าจะมีความภาคภูมิใจ มีความสุข ทั้งกายและใจ ด้วยอาชีพ ชาวนา

คำสำคัญ (Tags): #ทุนนิยม
หมายเลขบันทึก: 86917เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2007 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เกรงแต่ว่า ชาวนา จะเปลี่ยนเป็น กรรมกร คล้ายๆ สาว/หนุ่มโรงงานแทน ที่นาเป็นของทุนใหญ่ เปลี่ยนเป็นการผลิดขนาดใหญ่ แล้วจ้างแรงงานมาปลูกข้าว หรือทำหน้าที่อื่นๆ

ถ้าหากระบบผลิตขนาดเล็ก ต่อกรกับทุนใหญ่ๆ ได้ก็ดี :-)

เป็นชาวนาก็ยังดีกว่าเป็นผู้นำประเทศที่เอาแต่กินกับนอน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท