พี่น้องชาวชุมชนบ้านศรีรายา และกรรมการชุมชนหลายท่าน ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี นำพวกเราเดินเที่ยวชมบ้านเรือน ร้านรวง ที่ปลูกสร้างด้วยไม้ตั้งทอดขนานไปกับชายฝั่งทะเลในด้านซ้ายมือ ลักษณะบ้านเรือนนั้นยื่นออกไปนอกชายฝั่งมีน้ำท่วมถึง เมื่อยามน้ำขึ้น มีสะพานหรือท่าน้ำสำหรับเรือจอดไว้เป็นช่วง ๆ บ้านเรือนส่วนใหญ่แล้วเป็นของพี่น้องไทยจีน .... ทางด้านขวามีศาลเจ้าที่มีร่องรอยถูกใช้งานมาเนิ่นนาน และยังคงความเป็นเอกลักษณ์เป็นที่เคารพเชื่อถือของชาวบ้าน ....กรรมการชุมชนเล้าว่า " ชุมชนแถบบนี้เป็นชุมชนเก่าแก่หลายร้อยปีอยู่ในเขตเทศบาล ตรงหน้าอำเภอเก่า .... ที่มีสะพานเทียบท่าเรือใหม่ ๆ นั้น เมื่อตอนเกิดคลื่นสึนามิ ได้พัดเอาท่าเทียบเรือพังไปทั้งหมด แต่ไม่พัดเอาบ้านเรือนแม้นสักหลังเดียว ... พวกเราเชื่อว่า กรมหลวงชุมพรได้ปกปักษ์รักษาไว้ " ( ตรงวงเวียนทางไปท่าเทียบเรือมีรูปปั้นกรมหลวงชุมพรประดิษฐ์ไว้ )
จากนั้นคณะ ได้พาพวกเราไปชมอาคารไม้สองชั้น ( เป็นที่ว่าการกิ่งอำเภอเกาะลันตาเก่า ) ที่กำลังปรับปรุงทาสีใหม่ เพื่อเตรียมไว้สำหรับเป็นพิพิทธภัณฑ์ชาวเกาะลันตา ซึ่งจะรวบรวมวีถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะลันตาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ที่มีจุดเด่นคือ การอยู่ร่วมกันของคนสามเชื้อชาติ สามศาสนา คือ ไทยจีนพุทธ ,ไทยมุสลิม , ไทยใหม่ ( ชาวอุรักลาโว้ย ) .... คุณรวงทอง ( เจ้าหน้าที่โครงการฟื้นฟูวีถีชีวิตชุมชนดั้งเดิมและการจัดการระบบนิเวศที่ยั่งยืนของเกาะลันตา )และกรรมการชุมชน ได้ต้อนรับด้วยอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งบรรยายถึงประวัติและพัฒนาการของเกาะ พร้อมทั้งการดำเนินงานของเครือข่ายชุมชนฟื้นฟูเกาะลันตา ซึ่งมีทั้งหมด 14 ชุมชน เพื่อฟื้นฟูและ พัฒนาชาวเกาะลันตาให้ยั่งยืน .... ใช้วิกฤติของสึนามิให้เป็นโอกาสให้เกิดการวางระบบการพัฒนาที่ยั่งยืน ....โดยความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่าย ของชุมชน และ ภาครัฐ , ท้องถิ่น , เอกชน , องค์กรเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNDP จึงเกิดเป็นโครงการ ฯ ข้างต้น และ ใช้ฐานของเครือข่ายฯ ชุมชนจำนวน 28 คน เป็นผู้ดำเนินการ และมีพี่เลี้ยงจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นผู้สนับสนุน .....
ได้มียุทธศาสตร์ในการทำงานดังนี้ หนึ่งยุทธศาสตร์ สร้างฐานและสร้างองค์กรชุมชน เน้นการแก้ไขปัญหาสึนามิ สร้างงานไหม่ พัฒนาระบบองค์กรชุมชนและสร้างพลังขององค์กรชุมชน ให้เป็นรากฐานของสังคม สองยุทธศาสตร์วัฒนธรรมดั้งเดิมสู้โลกาภิวัฒน์ เน้นการฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมการแสดง บ้านเรือน หลักสูตรท้องถิ่น ศาลาร็องแง็ง-หอชาติพันธ์ชาวเล พิพิทธภัณฑ์ชาวเกาะลันตา และการจัดงานประเพณีลานตาลันตา... ทุกกิจกรรมจะสร้างความตระหนักรู้ของคนในท้องถิ่นและการรับรู้แก่คนภายนอก ยุทธศาสตร์ที่สาม พื้นที่ตัวอย่างกับความชอบธรรมทางสังคม เน้นการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมให้เป็นตัวอย่าง และจุดประกายทางสังคม พร้อมพัฒนาให้เป็นพลังให้เกิดเป็นประเด็นของสาธารณะ ยุทธศาสตร์ที่สี่ ร่วมปฏิรูปสังคมและการเมือง โดยการสร้างพลังของเครือข่ายเอง และร่วมกับเครือข่าย ชุมชนอื่น ๆ เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างพลังในการปฏิรูปสังคม
ข้อสังเกต ... 1. การใช้พลังจากการเกิดวิฤติแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังในการพัฒนา โดยใช้กระบวนการเรียนรู้และเคารพในศักดิ์ความเป็นที่เท่าเทียมกัน 2. การร่วมประสานความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย และใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ชาวบ้านเป็นพระเอก 3. การสร้างฐานของชุมชนด้วยองค์กรชุมชนและเน้นความเป็นวิถีของเขา 4.แม้นจะเป็นเครือข่ายเป็นเอกภาพแล้ว แต่ต้องไปเชื่อมประสานกับเพื่อน ๆ เพื่อการเรียนรู้และหนุนเสริมต่อกันในอนาคต 5. แม้นที่จะต้องต่อสู้กับกระแสของทุนนิยม - โลกาภิวัฒน์อีกซีกเกาะหนึ่งที่กำลังก่อพิบัติต่อทรัพยากรธรรฒชาติและสิ่งแวดล้อม ( การท่องเที่ยว ) แต่มิได้หลงไปกับสิ่งใหม่ที่เข้ามา แต่เรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งใหม่ด้วยการรักษาความเป็นตัวตน คงความ อัตลักษณ์ให้ยาวนานและยั่งยืน ... มิใช่การปะทะหรือต่อสู้เพื่อเอาชนะ แต่ใช้สิทธิความเป็นมนุษย์และคุณค่า ต่อสู้อย่างอหิงสา
ตอนต่อไปค่อยกล่าวถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่สามเชื้อชาติ พร้อมกับพื่น้องชาวไทยใหม่....
ไม่มีความเห็น