เรื่องมีอยู่ที่ว่า... หน่วยงานที่ทำอยู่มี นิสิต/นักศึกษา เข้ามาขอฝึกงานในหน่วยงาน... อยู่หลายคน แต่ละคนต่างเพศ ต่างสาขา ต่างคณะ และสถาบันฯ ปัญหามาอยู่ที่ว่า เด็กเหล่านี้ไม่รู้จักกัน ไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน จึงเป็นปัญหาเริ่มต้นของการทำงานร่วมกัน หรือที่ผมมักจะเรียกว่า “ทีม” หลายหน่วยงานย่อมเจอเหมือนกันหมด กว่าจะกับให้ทำงานร่วมกันได้ก็เล่นซะเหนื่อยไปหลายวัน จนหลายหน่วยงาน ต้องใช้คำว่า “ปล่อย” กับเด็กพวกนี้ เหตุผลที่ว่า “เหนื่อย” “ทำไมต้องคอยดูแลด้วย”
แต่ผมไม่...
เพราะอย่างหนึ่งนึกถึงข้อดีอย่างแรกก็คือ อย่างน้อยก็มีคนคิดว่าหน่วยงานของเราเมื่อมาแล้วสามารถให้ "ความรู้" กับเขาได้ อย่างที่สองก็คือ ผมกำลังขาย “แบรนด์องค์กร” อยู่นั่นเอง ถ้าเราทำดี... ย่อมได้ความไว้วางใจกลับมา...
เมื่อต้องรับหน้าที่นี้แล้ว... สิ่งที่ผมต้องทำ คือ (อาจจะแตกต่างจากคนอื่นไปบ้างนะครับ)
ทำความไว้วางใจ... ในที่นี้... ผมใช้วิธีเดินเข้าไปคุยกับเด็กพวกนี้ เพื่อทำความรู้จักกัน การเจอกันครั้งแรกไม่ควรทำหน้าบึ้งตึงเข้าหากัน... นั่นหมายถึงความไม่พร้อมที่จะรับ “ไมตรี” ต่อกัน... การพูดคุยเป็นไปตามปกติ สอบถามสิ่งที่ใกล้ตัวเด็ก ความชอบ ความอยากรู้เรื่องต่าง ๆ ของเด็กเหล่านี้... ว่าต้องอะไรบ้างจากการฝึกงาน เพื่อรู้ที่มาที่ไปของแต่ละคน อย่าลืมว่าทุกคนไม่เหมือนกัน การรู้เบื้องลึกของแต่ละคนได้ย่อมเป็นสิ่งดี
ทำความรู้จักกัน... ในที่นี้... ผมใช้วิธีที่หลายคนอาจว่าบ้า เพราะเด็กที่มาฝึกงานทุกคนต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการทำงาน... (ผมคงบ้าจริง ๆ เพราะคงมีไม่เยอะหรอกครับ... ที่ให้เริ่มการทำงานแบบนี้...) เพราะผมให้ทุกคนจัดการลงโปรแกรมใหม่ในเครื่องคอมฯ ทั้งหมด “งงสิครับ...” เด็กคนไหนทำไม่เป็นชักเริ่ม มองตาปริบ ๆ ในใจก็คงคิดว่า “ผมทำไม่เป็น” อยู่เหมือนกัน... ผมเสียเวลาวันนี้ไปหนึ่งวันเต็ม... เพื่ออะไร ก็เพื่อหนึ่ง... การที่จะทำงานในเรื่องดังกล่าวได้ต้องรู้จักแก้ปัญหาเล็ก ๆ ด้วย... เมื่อเรียนมาแล้วต้องทำได้ ถ้าทำไม่ได้ ต้อง “ลองทำ” อย่างที่สอง... คือ การช่วยเหลือตัวเอง ถ้าทำไม่ได้ต้องอย่ารั้น ต้องช่วยเหลือตัวเองในการถามคนอื่น บ้าง และอย่างสุดท้าย... คือ ช่วยเหลือเพื่อน เมื่อถูกถาม คนที่ทำเป็นและมีจิตสำนึกที่ดี ต้องยื่นมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และสิ่งเหล่านี้จึงเป็นการทำให้ทั้งหมดรู้จักกันโดยไม่รู้ตัว...
และให้งานร่วมกัน... และเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมวางไว้ ก่อนที่จะเริ่มให้ทำงานแบบแจกงาน ผมกับให้งานแรกเป็นการ “รวมงาน” งานที่ต้องทำงานรวมกัน... ต้องอาศัยกัน ความสามารถที่แตกต่างกัน ให้เป็นชิ้นงานหนึ่งเดียว เพราะต้องการสร้างความรับผิดชอบเกิดขึ้นในแต่ละคน (ดูว่าใครมีความรับผิดชอบ ไม่มีความรับผิดชอบ ดูกันตรงนี้แหละครับ)
* ผลของการ “วางแผน” ในครั้งนี้ “ผ่าน” ครับ ถือว่า... “แกล้งเด็กได้สำเร็จ” อิ อิ
ผมก็เป็นเด็กฝึกงานเหมือนกัน เพื่อนๆก็เคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า ต้องลงโปรแกรมเองเกือบทุกคน
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะ เด็กบางคนเรียนมาแต่ทฤษฏี ไม่เคยปฏิบัติ ได้ลงมือทำเองก็คราวนี้แหละ ฝึกงานเสร็จเจอปัญหาเล็กๆน้อยๆก็สามารถแก้ไขได้เอง รู้จักการหาข้อมูล รู้จักการปรึกษาคนอื่น แทนการรอให้คนอื่นมาป้อนความรู้ทั้งกระบวนการให้อย่างเดียว
ผมฝึกงานก็ได้ความรู้มาหลายอย่าง ส่วนใหญ่ก็ต้องลงมือหาเองแก้ปัญหาเอง แหล่งทำมาหากินก็ Google อีกตามระเบียบ จนหนทางเมื่อใหร่ค่อยไปปรึกษาคนที่รู้ ผมว่ามันท้าทายความสามารถดีเหมือนกัน มันรู้สึกภูมิใจถ้าเราสามารถทำอะไรได้เอง
อือ ผู้ชายป้ายเหลือง มาแบบแนวใหม่ ดูดีมาก ๆ ค่ะ
เนื้อหาบทความน่าอ่านมาก ๆ ค่ะ เข้าถึงจิตใจของผู้เขียนและเด็กฝึกงานได้ดีมาก ๆ
กนกนุช |