สวัสดีชาว Blog ทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า ผมเองหาใช่เป็นคนอัจฉริยะ ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดใด ๆ เป็นเพียงคน ๆ หนึ่งในสายงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือฝ่ายบุคคลที่เรียกกันในอดีต ที่ใฝ่รู้ และชอบคิดอะไรที่แตกต่าง และท้าทาย อาจจะด้วยประสบการณ์จากองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ทั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติ อีกทั้งยังมีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายต่อหลายครั้ง และเกือบ 10 ปีของการที่เป็นอาจารย์พิเศษตามมหาวิทยาลัยและสถาบันต่าง ๆ จึงอยากจะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เหล่านั้นเพื่อเป็นกระจกที่ต่างมุมมองแก่ท่าน ๆ ที่สนใจ รวมทั้งผมเชื่อมั่นว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จะนำไปสู้การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า “INNOVATION” หรือ “นวัตกรรม” นั่นเอง เมื่อวันพุธที่25 ต.ค. ที่ผ่านมา ผมได้ฟังวิทยุสถานี 96.5 MHz รายการ "คุยกับ ดร. จีระ" ซึ่งท่านอาจารย์ได้กล่าวถึง ความสัมพันธ์กับประเทศอินเดีย ว่าการศึกษาในอินเดียนั้นเน้นทางด้านการสร้างให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิดเชิงระบบ ซึ่งผมเองก็ได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานและฟังบรรยาย เรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบไทย-อินเดีย”โดย ศาสตราจารย์ ดร. ชยามาล รอย แห่งสถาบันการจัดการแห่งอินเดีย (IIMB-Indian Institute of Management, Bangalor) ณ เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย เนื้อหาสาระสำคัญก็คือการเปรียบเทียบปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนของทั้งสองประเทศ↑ |
↓ |
Regulatory Support |
↓ |
↑ |
Human Resources |
~ |
~ |
Cost of Living |
↑ |
↓ |
Infrastructure |
Thailand |
India |
Parameter |
Remarks ; Human Resources is the only major advantage which India has over Thailand & the strong Indian education system is the primary reason by Prof. Dr. Shyamal Roy, Dean of Financial and Economic Management |
ด้วยความปรารถนาดี
สวัสดีค่ะท่าน ประจวบ ไกรขาว ประจวบ ไกรขาว
ขอบคุณค่ะ ความรู้มีมากในบันทึกนี้ค่ะ ครูอ้อยจะอ่านต่อไปนะคะ
สวัสดีครับชาว Blog ทุกท่านครับ
ก่อนอื่นต้องต้องขอขอบคุณและชื่นชมครูอ้อย (ว่าที่ ดร. จากโรงเรียนพระยาประเสริฐฯ ซึ่งลูกชายผมเรียนอยู่ที่นั่นด้วย) ที่ถือได้ว่าเป็น Long Life Learner ตัวจริง เมื่อวันหลายวันก่อน ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์เจอคำว่า "Employee Branding" หมายถึง การที่บุคคลคนหนึ่งนำหลักการประชาสัมพันธ์และหลักการตลาดมาใช้ในการสร้างภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของตนเองให้โดดเด่นจนกลายเป็น "แบรนด์" ซึ่งพอสรุปได้ว่า เป็นกระบวนการสร้างคุณค่าของตัวพนักงาน ด้วยความรู้ ความสามารถอย่างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง อันประกอบด้วยหลัก 4 ประการคือ1. ต้องรู้จักตนเองว่ามีจุดด้อย จุดเด่น และพรสวรรค์อะไร 2. ต้องรู้ว่าตนเองชอบอะไร 3. ต้องรู้ว่าจะพัฒนาตนเองอย่างไร 4. ต้องรู้จักอดทนรอโอกาส และเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอรายละเอียดเพิ่มเติมและตัวอย่างจะสืบค้น เสาะหามาฝากต่อไป และคราวหน้า เราจะได้แบ่งปันความรู้ในการบริหารเพื่อพัฒนาความเป็นผู้นำด้วยหลัก 5L’s (5L’s Leadership Model) ครับด้วยความเคารพสวัสดีครับท่านประจวบ
เห็นด้วยครับกับข้อสรุปของ ดร.ชยามาล รอยครับ รวมทั้งข้อคิดเพิ่มเติม ทั้ง 3 ข้อ เกี่ยวกับคนไทย
ผมมองว่าอินเดียเป็นประเทศที่น่าทึ่ง เป็นประเทศที่มีความหลากหลายสิ่งอยู่ด้วยกันและพร้อมที่จะผลิตสิ่งดีๆ ให้กับชาวโลกเสมอ
สำหรับคนไทย ผมคิดว่าสิ่งที่จะทำให้เราอยู่ในเวทีโลกได้อย่างไม่มีปมด้อยน่าจะมาจากการที่เราต้องรู้ตัวเองว่าอยู่ตรงไหนของเวทีโลก รู้เราเป็นประการสำคัญ รู้บทบาทที่เหมาะสมของเราและในขณะเดียวกันรู้เขาให้มาก
สังคมไทยเป็นสังคมที่เชื่อผู้นำ ดังนั้นพัฒนาการของสังคมจึงขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นสำคัญ(ตรงนี้คงอภิปรายกันได้มากมาย) หลายสิ่งหลายอย่างเราอาจไม่จำเป็นต้องตามกระแสโลกมากนัก บางอย่างที่ดีของเราควรอนุรักษ์ ปกป้องและส่งเสริม.......ในยุคโลกาภิวัฒน์จึงไม่ใช่การตามอย่างเดียวแต่หากเป็นการรักษาความแตกต่างที่มีอยู่ให้คงอยู่ได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง....ซึ่งล้วนเป็นวิสัยทัศน์ของผู้นำที่จะต้องมองเห็นล่วงหน้า
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลและข้อคิดดีๆ
ด้วยความปรารถนาดี