เกี่ยวกับ สคส.
วิสัยทัศน์ สคส.
สคส.
เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนขบวนการจัดการความรู้ในสังคมไทย
โดยทำงานร่วมกับภาคีที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นภาคีโดยตรงและโดยอ้อม
โดยงานสนับสนุนการดำเนินการจัดการความรู้ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยองค์กรภายนอกหรือภาคี
และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการความรู้ของแต่ละองค์กรรับผิดชอบโดยองค์กรนั้น
พันธกิจ
สคส.
ดำเนินการส่งเสริมการจัดการความรู้ในสังคมไทย
ทั้งในภาคสังคม-เศรษฐกิจพอเพียง
และในภาคสังคม-เศรษฐกิจแข่งขัน
ทั้งในภาคราชการ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคเอกชนไม่ค้ากำไร (เอ็นจีโอ) และภาคประชาชน
ทั้งดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินการจัดการความรู้ในบริบทและรูปแบบที่หลากหลาย
และส่งเสริมขบวนการเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมความรู้
และสังคมเรียนรู้ โดยมีการสร้าง “ศาสตร์”
ด้านการจัดการความรู้ในสังคมไทย และสร้าง
“สุขภาวะ” ทางสังคม
และทุนทางสังคมไปพร้อมๆ กับการดำเนินการดังกล่าว
วัตถุประสงค์
1.
พัฒนาเครือข่ายการจัดการความรู้อย่างกว้างขวาง
เพื่อให้เกิดการจัดการความรู้ในรูปแบบที่เหมาะสมต่อสังคมไทย
ขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมความรู้ (Knowledge-based Society)
และสังคมเรียนรู้ (Learning Society)
2.
ร่วมกับภาคีเครือข่าย
ดำเนินการพัฒนาขีดความสามารถในการจัดการความรู้ของสังคมไทยในบริบทต่างๆ
ดังนี้
2.1 พัฒนาขีดความสามารถขององค์กร และชุมชน
2.2 พัฒนาขีดความสามารถของที่ปรึกษา
และวิทยากรด้านการจัดการความรู้
2.3
พัฒนาขีดความสามารถของผู้บริหารระบบการจัดการความรู้ขององค์กร (Chief
Knowledge Officer : CKO)
2.4
พัฒนาขีดความสามารถของผู้ทำหน้าที่จัดการเครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างองค์กร
(Knowledge Management Network Manager)
2.5
พัฒนาขีดความสามารถของนักเอื้ออำนวยความสะดวกการจัดการความรู้
(Knowledge Management Facilitator)
2.6 พัฒนาขีดความสามารถของนักปฏิบัติจัดการความรู้
(Knowledge Management Practitioner)
3.
ร่วมกับภาคีเครือข่าย
ดำเนินการเคลื่อนสังคมไทยให้เห็นคุณค่าของการดำเนินการจัดการความรู้
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของ
สคส.
เพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีการจัดการความรู้อย่างเหมาะสมภายใต้บริบทของตัวเอง
สคส. ได้วางเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ไว้ดังนี้ คือ
1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดโครงการ “พัฒนาและวิจัย”
(D&r)
รูปแบบการดำเนินการจัดการความรู้ในกลุ่มหน่วยงานหรือองค์กร
เช่น ในโรงเรียน, สถาบันอุดมศึกษา, โรงพยาบาล, หน่วยราชการ, เอ็นจีโอ,
ธุรกิจขนาดย่อม, องค์กรประชาชน ฯลฯ
2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดโครงการ “พัฒนาและวิจัย”
(D&r) รูปแบบการดำเนินการจัดการความรู้เป็นราย “ประเด็น” (issue)
ในภาคเศรษฐกิจพอเพียง หรือภาคชุมชน อาทิ
ประเด็นเรื่องเกษตรยั่งยืน, การพัฒนาเมล็ดพันธุ์, ธุรกิจชุมชน,
การเรียนรู้แบบบูรณาการในพื้นที่ ฯลฯ
3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิด นักปฏิบัติจัดการความรู้
(Knowledge Management Practitioner)
จากการฝึกปฏิบัติจริง ตามเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่
1 และที่ 2 โดย สคส.
ได้วางแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดนักปฏิบัติจัดการความรู้
ซึ่งนักปฏิบัติจัดการความรู้เหล่านี้จะเป็นผู้ทำงานของตนและดำเนินการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบเพื่อผลงานที่มีคุณภาพ
ทำให้เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างการทำงาน
ทำให้องค์กรเป็นองค์กรเรียนรู้ นอกจากนี้
สคส. ยังจะส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา
นักเอื้ออำนวยความสะดวกการจัดการความรู้
(Knowledge Management Facilitator),
ผู้บริหารระบบการจัดการความรู้ (Chief
Knowledge Officer : CKO) ตลอดจน
ผู้จัดการเครือข่ายการจัดการความรู้ (KM
Network Manager) และ
วิทยากรฝึกอบรมหรือที่ปรึกษา
เพื่อช่วยให้นักปฏิบัติจัดการความรู้สามารถดำเนินการจัดการความรู้ได้อย่างถูกหลักการและเป็นระบบ
รวมทั้งทำหน้าที่สรุปรวบรวม
“ศาสตร์ว่าด้วยการจัดการความรู้ในบริบทของตัวเอง”
4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดประชุมปฏิบัติการ
เพื่อเรียนรู้และฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ในบริบทต่างๆ
อาทิ ประชุมปฏิบัติการสำหรับนักปฏิบัติจัดการความรู้
หรือผู้ปฏิบัติงานจัดการความรู้ ในกลุ่มสถาบันหรือประเด็นต่างๆ,
ประชุมปฏิบัติการสำหรับนักเอื้ออำนวยความสะดวกการจัดการความรู้
และผู้บริหารระบบการจัดการความรู้ ในหลากหลายบริบท คละหน่วยงาน
และประเด็น
และประชุมปฏิบัติการฝึกอบรมด้านการจัดการความรู้ที่เปิดให้แก่บุคคลทั่วไป
โดย สคส. สนับสนุนทุนแก่ผู้มีความจำเป็น
5.
เชื่อมโยงหลักการและวิธีการจัดการความรู้เข้าสู่โครงการเพื่อสังคม
ที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว โดยการสนับสนุนของหน่วยงานอื่นๆ
เช่น สสส., สกว. ตัวอย่างเช่น โครงการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข
(สรส.), โครงการโรงเรียนแสนสุข, โครงการชุมชนเป็นสุข เป็นต้น
6. จัดมหกรรมความรู้หรือตลาดนัดความรู้
เพื่อเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเป็นสังคมความรู้ สังคมเรียนรู้
โดยการจัดมหกรรมดังกล่าวมีทั้งเป็นรายพื้นที่และรายประเด็น
หมายเลขบันทึก: 8499เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2005 20:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากค่ะ บันทึกนี้เป็นประโยชน์กับครูอ้อยมากเลยค่ะ