จันทร์ชุ่มฉ่ำ สายฝนพรำ


ความสุขจากการทำได้ตามเป้าหมายเป็นความสุขที่งดงามยิ่ง

ห่างหายจากการบันทึกเสียนาน จนหลายคนเฝ้ารอและถามหา ยากจะหาข้อแก้ตัว เหตุเพราะไม่มีเหตผลใดดีพอจะเป็นข้ออ้างอันชอบธรรม

เวลาที่ห่างหายมีเรื่องราวชีวิตมากมายเกิดขึ้น ไปตามปกติวิสัย ที่พิเศษดูจะเป็นการเดินทางที่เกิดขึ้นบ่อย ทั้งการกลับบ้านที่จังหวัดกระบี่  และการไปเยือนถิ่นกาญจนบุรี ซึ่งเกิดขึ้นจากภารกิจจำเป็น ...เมืองกาญ ฯ ช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าว  กลางวันร้อนแดด กลางคืนหนาว เช้าตรู่อากาศแจ่มใส สดชื่น  จนน่าอภิรมย์

ฉันกลับมามหาวิทยาลัยเมือกลางดึกวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม รู้สึกเหนื่อยจากการเดินทาง จึงถือโอกาสพักผ่อนตลอดวันอาทิตย์  จนรู้สึกแจ่มชื่นในเช้าวันจันทร์ กอปรกับสายฝนที่ห่างหายไปนาน ก็กลับมาเยือนถิ่น  ดินแดนจ.นครศรีธรรมราช  สร้างความชุ่มฉ่ำให้ผืนดิน  คลายร้อนลงไปได้บ้าง  ..

เช้าวันจันทร์ ...

...ตื่นมาเมื่อประมาณ 6 นาฬิกา  ท้องฟ้ายังอึมครึมด้วยเมฆฝน  ซึ่งยังอาลัยอาวรณ์  อ้อยอิ่ง ไม่ยอมลาจาก ผ่อนคลายจากความงุนงงอันเกิดจากการตื่นเช้า เพียงชั่วครู่ ดื่มน้ำขวดใหญ่ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น ตระเตรียมเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปสัมผัสบรรยากาศยามเช้า  ... ปั่นจักรยานไปสนามกีฬาภายในมหาวิทยาลัยเพื่อวิ่งออกกำลังกาย ... เช้านี้เงียบเหงา ไร้ผู้คนวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งอาจเป็นเพราะสายฝนที่ตกมาเมื่อคืน อาจทำให้หลายคนยังดื่มด่ำกับการนอนบนเตียงอุ่น

ฉันตั้งต้นวอร์มร่างกายก่อนออกวิ่ง  ขณะที่ใจก็ตั้งเป้าหมาย "เช้าวันนี้จะวิ่งออกกำลังกายให้ได้ 8 รอบสนาม "  โดยเริ่มต้นการวิ่งจากลู่นอกสุด จนครบ 8 ลู่  เมื่อเริ่มต้นในรอบแรก ๆ รู้สึกได้ถึงความเหนื่อย จนอยากจะเลิก ปรับเปลี่ยนเทคนิคเป็นการนับ 1 ถึง 100 ตามจังหวะก้าวที่วิ่ง ทำให้ใจจดจ่ออยู่กับการนับก้าว ไม่ใส่ใจกับอาการเหนื่อยที่เกิดขึ้น  จนเมื่อผ่านรอบที่ 5 เริ่มรู้สึกอยากจะหยุด ในใจคิดว่าน่าจะพอแล้ว หากแต่เป้าหมาย 8 รอบ อยู่ใกล้ แค่พยายามอีกนิดก็จักบรรลุเป้าหมายแล้ว ... จึงสลัดความคิดที่จะหยุดออกไป หันเหความคิดสู่เป้าหมายเดิม  และวิ่งต่อไป จนครบ 8  รอบตามที่ตั้งใจ ... น่าแปลกเมื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มีความรู้สึกว่าอยากจะวิ่งต่อ ความคิดที่จะหยุดกลับเบาบางจากห้วงความคิด .... ฉันจบการวิ่งเมื่อวิ่งได้ 10 รอบ มีความสุขมาก ๆ ที่สามารถทำได้เกินเป้า โดยไม่เลิกล้มกลางคัน รู้สึกว่าตัวเองชนะ แล้ว ....

ฉันลองนึกเปรียบเทียบการวิ่งจากเช้าวันนี้ กับ  การทำตามความฝันหรือเป้าหมายชีวิตก็พอสรุปได้ว่า

  • เราต้องมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน และต้องเริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ
  • ความคิดเราต่างหากที่ทำให้เราเลิกล้มความตั้งใจสู่เป้าหมาย อุปสรรคอื่นเป็นแค่สิ่งที่รบกวนให้รู้สึกยุ่งเท่านั้น
  • ความสุขจากการทำได้ตามเป้าหมายเป็นความสุขที่งดงามยิ่ง
  • ระหว่างทางเราต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยน และแสวงหาเทคนิคเพื่อประคองตังเองสู่เป้าหมายให้ได้
  • ถึงช้า  หรือ เร็ว ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ขอแค่ไปให้ถึงก็พอ

จันทร์ชุ่มฉ่ำ .. สายฝนพรำ 

หัวใจอิ่มเอิบกับความตั้งใจแรกของวัน ... ขณะที่เมฆฝนยังรอคอยจังหวะที่จะโปรยเม็ดฝนชโลมดิน อีกครา

วันนี้คงเป็นวันจันทร์ที่ชุ่มฉ่ำ ทั้งในหัวใจและสิ่งแวดล้อมรอบกาย

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกประจำวัน
หมายเลขบันทึก: 84983เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2007 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

 

       ที่ในเมืองฝนไม่ตกเลยค่ะ...เลยไม่ได้สัมผัสความชุ่มฉ่ำเหมือนคุณภีรตาและชาวท่าศาลา..แต่หัวใจก็รู้สึกสดชื่น..น..น...ด้วยวันนี้เป็นวันจันทร์..ได้มาทำงานอีกแล้ว...สถานที่ทำงานน่าอยู่...อืม! ใช่จริงๆ ....อยากมาทำงาน  อยากมาทำงาน  และอยากมาทำงานค่ะ...แต่อย่างไรเสียวันเสาร์-อาทิตย์ก็มีความสุขกับภารกิจในชีวิตประจำวัน...เอ๊า! ...วันไหนๆ ก็มีความสุขค่ะ...

ครับ  คุณ รายาวดี วันไหน ๆ เราก็สามารถมีความสุขได้ตลอดเวลา เพียงเรามีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้เราทำในสิ่งที่มีคุณค่าและมีความสุข  ผมเรียนรู้มาว่า คนเรา  หากจัดการเวลาช่วงหลังจากตื่นนอน สัก 15 นาที ทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ

  • อ่านหนังสือที่ให้แรงบันดาลใจ หรือฟังเพลงความหมายดี ๆ
  • นั่งนิ่งสักครู่  รำลึกถึงความมีชีวิตใหม่ในเช้าวันใหม่
  • ทบทวนตัวเองในวันที่ผ่านมา และตั้งใจกับการทำงานในเช้าวันใหม่

ลองดูน่ะครับ

สำหรับผม เช้าวันใหม่ เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก ๆ ผมมักจะเขียนบทกวี และนั่งนิ่งสัมผัสบรรยากาศยามเช้าก่อนที่จะเริ่มภารกิจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท