BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

สมบัติบ้าในวัด : ธูป เทียน และดอกไม้


สมบัติบ้าในวัด

วันนี้ออกบิณฑบาตตอนเช้าได้ ธูปเทียนและดอกไม้มา ๓ ชุด จึงคิดว่า เขียนเรื่องนี้ดีกว่า...

พระรัตนตรัย คือ แก้วซึ่งหมายถึงสิ่งที่มีคุณค่าสูง ๓ ประการ ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ นับว่าเป็นสิ่งสูงสุดในฐานะ สรณะ คือ ที่พึ่งทางใจในทางพระพุทธศาสนา ดังนั้น จึงมีของบูชาสิ่งสูงสุดทั้งสามประการนี้...

ธูป ใช้บูชาพระพุทธเจ้า... บทสวดมนต์ที่ว่า...

ตํ โข ปน ภควนฺตํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต ก็กิตติศัพท์อันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ได้ฟุ้งไปแล้วอย่างนี้ว่า...

คำว่า ฟุ้งไปแล้ว หมายถึง คุณของพระพุทธเจ้า กล่วคือ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระกรุณาธิคุณ ได้ขจรขจายไปประดุจความหอมของกลิ่นธูปนั่นเอง...ดังนั้น ธูป จึงใช้บูชาคุณของพระพุทธเจ้า

เทียน ใช้บูชาพระธรรม... พระธรรม คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าก่อให้เกิดปัญญา มองเห็นแนวทางการกำจัดทุกข์ และชี้แนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินชีวิต ประดุจคนมองไม่เห็นเพราะความมืด เมื่อมีแสงสว่างแล้วก็ย่อมมองเห็นหนทางที่จะดำเนินไปข้างหน้า ฉะนั้น... แสงสว่างจึงเปรียบประดุจปัญญา ดังพระบาลี บางบทว่า..

ปญฺญา โลกสฺมึ ปชฺโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก

สุโข ปญฺญา ปฏิลาโภ การได้เฉพาะซึ่งปัญญาเป็นเห็นให้เกิดความสุข

นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี

ดังนั้น เทียน จึงใช้บูชาคุณของพระธรรม

ดอกไม้ ใช้บูชาพระสงฆ์ ... พระสงฆ์ คือเหล่าชนผู้ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ดอกไม้จึงบูชาพระสงฆ์ โดยอธิบายได้ ๒ นัย คือ..

สมมติสงฆ์ คือ เหล่าชนคนธรรมดา ลูกชาวบ้าน ไม่แตกต่างจากคนทั่วๆ ไป และแม้จะมีพื้นฐานเดิมแตกต่างกัน.. แต่เมื่อได้มาบวชแล้วก็ย่อมละทิ้งความเป็นอยู่แบบเดิมๆ มาอยู่ในธรรมวินัยเดียวกัน มีกรอบกระเบียบเดียวกัน ทำให้เกิดความงามตามสมณสารูปได้ ดังนั้น ดอกไม้จึงบูชาความงามของสมมติสงฆ์ในประเด็นนี้

อริยสงฆ์ คือ เหล่าชนผู้บรรลุธรรมตั้งแต่ชั้นโสดาบันขึ้นไป.. อริยสงฆ์นี้อาจเป็นสมมติสงฆ์หรือชาวบ้าน และแม้เทวดาก็ได้ เพราะมิใด้เพ่งบุคล แต่เพ่งถึงคุณธรรมของผู้บรรลุธรรม ซึ่งผู้มีคุณธรรมก็คือผู้มีจิตใจงามนั่นเอง... ดังนั้น ดอกไม้จึงบูชาความงามแห่งคุณธรรมของอริยสงฆ์ในประเด็นนี้

......

พุทธศาสนิกชนทั่วไป จึงใช้ธูปเทียนและดอกไม้เป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย สำหรับในวัดซึ่งเป็นศาสนสถานก็จะเป็นที่หลั่งไหลมาของเครื่องบูชาเหล่านี้ บางครั้งบางคราวมากเกินไป ก็อาจกลายเป็น สมบัติบ้าในวัด ได้เช่นเดียวกัน...

จะกล่าวถึง ธูป ก่อน... บางวัดธูปมีมากเกินไป และธูปเก่าๆ ก็จะเสื่อมเสียไปตามธรรมดา ซึ่งจะเสื่อมช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณภาพของธูปนั้นๆ ด้วย บางยี้ห้อซื้อมาไม่เกิน ๒ เดือน ก็จะจุดไม่ติด แต่บางยี้ห้อก็อาจเก็บได้นานถึง ๒-๓ ปี...ดังนั้น ธูปเก่าๆ ที่เสื่อมคุณภาพเหล่านี้ ถ้ามากเกินไป บางครั้งก็ต้องเผา ฝัง หรือใส่ถังขยะ ภายในวัด...

โดยส่วนตัวผู้เขียน ถ้าช่วงใดธูปมีเยอะ ก็จุดเยอะๆ นั่นคือ จุดแห่งละ ๙ ดอก โดยหมายเอา พุทธคุณ ๙ มีที่จุดไหว้พระพุทธ ๔ แห่ง ก็อาจใช้ครั้งละ หลายสิบดอก ไหว้พระเช้าเย็น ไม่นานก็ค่อยๆ เบาบางไป... แต่บางช่วงธูปมีน้อย ก็จุด ๓ ดอก เฉพาะพระพุทธรูปที่เป็นประธานก็พอ...ทำนองนี้....อนึ่ง บางครั้ง ธูปขาดแคลน ผู้เขียนก็ต้องซื้อหรือจัดหามาสำรองไว้เช่นเดียวกัน..

........

จะกล่าวถึง เทียน ต่อไป... แม้ว่าธูปกับเทียนจะเป็นสิ่งคู่กัน แต่ธูปไหว้พระมักจะใช้ธูปดอกเล็ก ไม่เหมือนกับธูปไหว้เจ้าซึ่งบางครั้งต้นโตกว่าลำตาลขนาดเท่าหนึ่งคนโอบก็มี...

แต่เทียนไหว้พระมีหลายขนาด มีตั้งแต่ขนาดเล็กกว่านิ้วก้อยไปจนถึงขนาดเท่าเสาย่อมๆ...เทียนขนาดโตๆ เหล่านี้จะเป็นเทียนประจำพรรษา ซึ่งบางปีก็มาก บางปีก็น้อย ฟังว่าบางวัดที่เทียนประจำพรรษาเยอะ ทางวัดก็ส่งคืนร้านเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นก็มี (สิ่งอื่น อาจเป็นเงินหรือของอื่นๆ )... เศษเทียนประจำพรรษาเหล่านี้ทางวัดก็ต้องกำจัดไปตามความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันบางท้องถิ่นก็มีการรับซื้อไปนำไปหล่อใหม่...

เทียนเล็กๆ ก็มีคุณภาพแตกต่างกัน เก็บได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของชนิดนั้นๆ ถ้าเสื่อมสภาพก็ต้องทิ้ง เช่นเดียวกับธูป..และความขาดแคลนหรือเหลือเฟือก็เช่นเดียวกับธูป ขึ้นอยู่กับบางวัด บางครั้งบางคราว....

.....

จะกล่าวถึง ดอกไม้ เป็นประการสุดท้าย... ตามที่ประสบมา ดอกไม้ที่นำมาบูชาพระ โดยมากมักไม่ค่อยเหลือเฟื้อ หรือกล่าวว่าค่อนข้างขาดแคลนก็ได้... อาจเป็นเพราะดอกไม้มีอายุไม่นานนักและค่อนข้างมีราคาแพงก็ได้ ...แต่ที่เหลือเฟื้อก็มีในหน้าเทศกาล เช่น เทศกาลเข้าพรรษา หรือวันมาฆบูชา วิสาขบูชา เป็นต้น...

เมื่อญาติโยมนำดอกไม้มาบูชาพระเยอะๆ แจกันไม่พอ ก็ต้องใช้ถังพลาสติก หรือบางครั้งก็กะละมังตั้งไว้หน้าพระประธาน ซึ่งบางครั้งพระ-เณรก็รู้สึกเบื่อเพราะมีมากเกินไปกลายเป็นสมบัติบ้าในวัดได้เหมือนกัน...

คนทั่วไปแม้จะชอบดอกไม้ แต่ดอกไม้ที่นำมาบูชาพระแล้วนี้ ไม่มีใครกล้านำไปใช้ส่วนตัว จึงต้องใส่ถังพลาสติกหรือกะละมังไว้หน้าพระประธานเช่นนั้น จนกว่าจะเห็นสมควรจึงค่อยๆ จัดการ...ทำนองนี้....

.....

อนึ่ง เดียวนี้ มีธูปเทียนดอกไม้วิทยาศาสตร์ นั่นคือ ธูปเทียนที่ใช้ไฟฟ้า และดอกไม้พลาสติก.. สำหรับธูปเทียน พอค่ำๆ ก็จเสียบปลั๊กเป็นอันว่าใช้ได้ หรือบางท่านก็อาจเสียบไว้ตลอดเวลา ธูปเทียนเหล่านี้ ก็เสียบ่อยเหมือนกัน ...ส่วนดอกไม้พลาสติกก็ต้องนำมาเช็ดล้างตามสมควร เมื่อร่วงหลุดไปหลายๆ ดอก ก็ต้องทิ้งไปเช่นเดียวกัน...

ธูปเทียนดอกไม้เทียมๆ เหล่านี้ ทางวัดหรือทางบ้านก็มีใช้ทั่วไป... แต่เมื่อจะมีพิธีกรรมจริงๆ เราก็จะนำธูปเทียนดอกไม้แท้ๆ มาใช้... กรณีนี้ อาจสะท้อนได้ว่าคนเราชอบของแท้มากกว่าของเทียม หรือรู้จักแยกแยะว่าอะไรควรไม่ควร เป็นต้น...

 

คำสำคัญ (Tags): #สมบัติบ้าในวัด
หมายเลขบันทึก: 84679เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2007 16:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 13:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ครับ...พระอาจารย์...

 

ได้อ่านแล้วก็พลันกลับมามีสติ...ผ่อนคลายสมบัติบ้าในสมองเสียหน่อย...รู้สึกช่วงนี้เก็บไวมากเกินไปเสียแล้ว...555

 

เส้นทางเดินของสมบัติบ้า...ภาระหน่วงเหนี่ยว...หรือบางลัทธิเรียกว่าขยะชีวิต...สมควรถูกกระตุ้นเตือนให้ปลดเปลื้องทิ้งบ้าง...โดยเฉพาะสมบัติบ้า(ขยะ)ในใจเรา...

P

นำมารีไซเคิลซิครับ สมบัติบ้าในสมอง...

อาตมาก็เช่นกัน ต้องรีไซเคิลด้วยบันทึกเหล่านี้แหละ...

ค่อยๆ ค้นมา...

อ๋อ ชิ้นนี้ใช้ได้เลย ชิ้นนี้ทาสีนิดหน่อย ชิ้นนี้ตัดนิดแล้วเอาชิ้นโน้นมาเสริมหน่อย....

จริงมั้ย ? คุณโยม..

เจริญพร

 

อ่ายเซียมซีแล้ว บอกว่าแก้บนด้วยเทียนชัย

อยากรู้ว่า เทียนชัย เป็นยังไงคับ

ไม่มีรูป
สาคร

เทียนชัย ?

ตามที่เคยได้ยินมา เวลาประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เช่นงานปลุกเสก หรือสืบชะตาต่ออายุ... เค้าจะมีเทียนสำคัญใช้จุดเริ่มพิธีและดับเมื่อจะสิ้นพิธี ...เค้าเรียกว่า จุดเทียนชัย ดับเทียนชัย...

อาตมาไม่ทราบตามที่เซียมซีบอก ต้องไปถามคนเขียนเซียมซี...

ลัทธิความเชื่อเหล่านี้ อยู่นอกเหนือคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นเพียงเปลือก แต่ก็มีความสำคัญ...

ถ้ายึดถือคำสอนจริงๆ พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง การกระทำ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการกระทำของเราเอง...

กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามการกระทำ..

สุทธิ อะสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธะเย ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิเป็นของเฉพาะตน คนหนึ่งให้คนหนึ่งบริสุทธิ เป็นไปไม่ได้...

กึ ตาระกา กะริสสันติ ดวงดาวทั้งหลายจักกระทำอะไรได้...

ถ้าคิดว่าเป็นพุทธศาสนิกชนแท้ๆ ก็ยึดถือตามนี้ คิดว่าสิ่งเหล่านั้นอยู่นอกขอบข่ายคำสอนเหล่านี้ ก็ไม่ต้องกังวล...

เจริญพร

  • กราบนมัสการพระคุณเจ้า
  • ขอกราบเรียนถามว่า "มีวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างไรกับดอกไม้ ธูป เทียน ที่ใช้บูชาพระแล้ว"
  • ขอบพระคุณค่ะ
P

ตามที่ผ่านๆ มา ดอกไม้ ธูป เทียน ที่บูชาพระแล้ว ก็ทิ้งถังขยะ ฝัง หรือเผา ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี...

แต่เค้าไม่นิยมนำไปใช้อย่างอื่นต่อ เท่านั้น

เจริญพร 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท