เรื่องเก่าเล่าต่อ (การนิเทศของทีมนักวิจัยครั้งที่ 2)


ทุกคนตื่นเต้นเมื่อคณะนิเทศนำโดยท่าน ดร.สุวัฒน์ เงินฉ่ำ ได้เดินทางมาถึง

      เล่าเรื่องค้างไว้เสียนานพอสมควร  วันนี้เลยขอแว็บมาเล่าต่อเพราะกลัวจะลืม

      หลังจากที่ได้เริ่มก้าวแรกของการจัดการความรู้ตามรูปแบบ ในวันที่สองก็ได้ช่วยกันทำตารางอิสรภาพ ในขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลาในการถกเถียงกันเรื่องหนึ่งดาว สองดาว จนถึงห้าดาว จากนั้นก็มีการรประเมินตนเองตามตาราง  กรอกคะแนนลงในโปรแกรมออกมาเป็นธารปัญญาและบันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปรากฎว่ามีหลายคนแปลกใจว่าทำไมตนเองจึงอยู่ ณ ตำแหน่งนั้นๆ เพราะเวลาประเมินนั้นแต่ละคนก็มีวิธีคิดและประเมินตนเองที่ต่างกันเช่นระยะห่างระหว่างปัจจุบันกับอนาคต บางคนคิดว่าต้องทีละขั้นเป็นต้น  ผลออกมาเป็นอย่างไรไม่สำคัญ แต่ทุกคนเข้าใจกระบวนการเล่าเรื่อง สังเคราะห์ขุมความรู้ สกัดแก่นความรู้ ทำตารางอิสรภาพ ประเมินตนเอง ธารปัญญา และบันไดแห่งการเรียนรู้ ในระดับหนึ่ง  ซึ่งก็น่าจะง่ายต่อการทำในครั้งต่อไป และคงจะเป็นไปตามความจริงมากขึ้น และได้น้ำได้เนื้อมากขึ้น

     เช้าวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มาถึงทุกคนตื่นเต้นเมื่อคณะนิเทศนำโดยท่าน ดร.สุวัฒน์ เงินฉ่ำ ได้เดินทางมาถึง  วันนั้นทางโรงเรียนได้จัดทำกิจกรรมการกวนข้าวยากู้ (ข้าวเหนียวกวนด้วยน้ำอ้อย มะพร้าว งา ถั่ว) โดยมีวิทยากรท้องถิ่นเป็นผู้นำทำ เนื่องจากอยู่ในช่วงของเทศการเดือน 3 (ตามปฏิทินเป็นเดือน 4 ) เพราะปีนี้เป็นปีอธิกมาสจึงเลื่อนออกมาหนึ่งเดือน  ทางคณะนิเทศได้เห็นนักเรียนแต่งตัวด้วยชุดพื้นบ้าน (ชุดไต) และได้ชิมข้าวยากู้ ก็คงประทับใจทุกท่าน

      สำหรับการนิเทศติดตาม ทางคณะก็ได้สอบถามวิธีดำเนินการจัดการความรู้ของโรงเรียนว่าได้ทำอะไรบ้าง  หลังจากที่ทางโรงเรียนได้นำเสนอวิธีการและผลการจัดการความรู้ (กิจกรรมเรื่องเล่าเร้าพลัง) ไปแล้ว คณะนิเทศก็ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีการจัดการความรู้อย่างละเอียด ทำให้คณะครูได้เข้าใจเหตุผล วิธีการ จัดการความรู้ เป็นอย่างมาก  และทางคณะนิเทศยังได้แนะนำให้จัดการความรู้เรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยก่อนที่จะไม่เหลือไว้ให้จัดการต่อไป

      หลังจากที่คณะนิเทศกลับแล้ว  ในช่วงบ่ายทางโรงเรียนก็ได้ให้นักเรียนที่ร่วมกิจกรรมทำข้าวยากู้มาทำ AAR  ว่า ได้อะไรบ้าง  รู้สึกอย่างไรบ้าง และมีข้อควรปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้างในการจัดกิจกรรมในตอนเช้า  และก็ได้รวบรวมประเด็นต่างๆ เก็บไว้เพื่อนำมาปรับใช้ในครั้งต่อไป

      สำหรับการจัดการความรู้ของโรงเรียนในตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการต่อเพราะกำลังวุ่นอยู่กับการสอบปลายปี คิดว่าเปิดเทอมใหม่ก็ต้องเดินเครื่อง KM  อย่างเต็มที่ เพราะกำหนดให้การจัดการความรู้เป็นพันธกิจสำคัญของโรงเรียนและได้ระบุไว้ในวิสัยทัศน์ของโรงเรียนด้วย

หมายเลขบันทึก: 84401เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2007 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 09:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อย่าทานข้าวยากู้มากจนลืมจดว่าผลที่ได้จาก AAR

ดร.สุวัฒน์ฝากย้ำว่าไม่ต้องใช้เครื่องมือ km ครบชุดทุกครั้งนะคะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท