เราก็เรียนกันมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว เวลาช่างเร็วเหลือเกิน สนุกให้นศ.ได้สอนอะไร อ.เอ๋หลายอย่าง และสิ่งที่เป็นอุปสรรคของ นศ. มากที่สุดคือ "การทำให้นักศึกษาเป็นคนที่รักการอ่าน" เพราะถ้าเราไม่อ่านหนังสือจะทำให้ใจเราไม่รับสิ่งใหม่ๆ ความคิดบางทีมันอาจจะถูกบล๊อกเอาไว้ ยิ่งไม่ค่อยจะมีประสบการณ์ในชีวิตมากๆ จะต้องอ่านหนังสือให้มากเพราะเราจะได้เรียนจากคนอื่นแบบลัด เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก อ.เอ๋ เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดแถวบ้าน ต้องขี่จักรยานไปโรงเรียนเพราะที่บ้านยากจนมาก มันก็เป็นผลักดันที่ดีให้ชีวิตเหมือนกันว่าโตขึ้นจะต้องเรียนหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะมีโอกาสทำได้ เกิดมาก็ไม่ได้เป็นเด็กฉลาดอะไรมากมายเรียนก็แค่ปานกลาง แต่อยากสอบได้ที่หนึ่งเพราะพ่อจะได้ซื้อจักรยานคันใหม่ให้ นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการรักเรียนและเริ่มอ่านหนังสือเรื่อยมา จนติดเป็นนิสัยอ่านหมด ตอนเรียนมัธยมอ่านนิยายจนเช้าเลย ก็ดีนะค่ะเพราะการอ่านนิยายทำให้เราเป็นที่มีจินตนาการ ชีวิตก็อยู่กับอ่านมาเรื่อยๆ เพราะรู้ตัวว่า ตัวเองไม่ได้ฉลาดแต่ต้องอยู่รอดในสังคม ทางเดียวคือต้องการหนังสือเพื่อ "ติดอาวุธทางปัญญา" จนเดี๋ยวนี้หน้าที่การงานเยอะขึ้น ต้องอ่านหนังสือเยอะมากกว่าตอนเรียนหนังสืออีก และจะต้องอ่านแบบรอบคอบด้วยเพราะบางทีเป็นเอกสารที่สำคัญทางราชการห้ามผิดเพราะมีผลต่อกฏหมาย พอทำงานก็ต้องอ่านเอกสาร พอกลับบ้านอ่านหนังสือท่องเที่ยว สารคดี อ่านหนังสือเฟชั่น อ่านหนังสือเมกกาซีน พอเข้าห้องน้ำชอบอ่านทำนายดวง ฮ่าฮ่า ก่อนนอนหนังสือธรรมะ ตื่นมาอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วก็มาทำงาน เห็นไหมค่ะว่าชีวิตจะติดกับการอ่านมาก...... เลยอยากจะถ่ายทอดสบการณ์ให้ นศ. ได้รับทราบ บางคนบอกว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือ จริงๆ ไม่เกี่ยวหากเราบริหารจัดการเวลาในชีวิตอย่างน้อยเราน่าจะมีเวลาในการอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 10 นาที จะทำให้สมองของเราถูกกระตุ้นและมีพัฒนการอยู่เสมอ ถ้าเบื่อๆก็อ่านหนังสือการ์ตูนบ้าง หรืออ่านในสิ่งที่เราชอบและยากรู้....เมื่อใดเราหยุดอ่านหนังสือ....เมื่อนั้น...เราหยุดหายใจทางปัญญา....
ที่พูดมาทั้งหมด...อยากให้ นศ. เห็นประโยชน์จากการอ่านและ ห้ามบ่น ว่าวิชานี้อ่านหนังสือเยอะ การบ้านเพียบ....น่าจะดีใจอุตสาห์เสียเงิน เดินทางมาเรียนต้องได้อะไรที่คุ้มค่าใช่ไหมค่ะ....และก็ขอให้ นศ สนุกกับการจับคำผิดในหนังสือ เพราะจะได้ที่ละ 5 บาท พี่ปุ๋ยได้ไปหลายร้อยแล้วนะ.....นี่เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งค่ะ...เอาไว้หลอกล่อ นศ. ที่น่ารักทั้งหลาย.....ไปล่ะต้องเขียนบทความแล้วล่ะ...เขาโทรมาทวงต้นฉบับค่ะ
อ.เอ๋
สอนให้รักการอ่านก่อนอนุบาลจะดีที่สุดครับ
กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว....ถ้ารักการอ่านตั้งแต่เด็ก มาเรียนปริญญาโทก็ไม่มีปัญหาครับ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ....เพราะตอนนี้เด็กไทยค่อนข้างจะขี้เกียจอ่านหนังสือพอสมควร ชอบแบบง่ายๆ เข้าไว้นะค่ะ...