พ่อเสม....จากวิ่งสู้บุหรี่ ครบรอบ 60 ปี......มาถึงวิ่งต้านเหล้า ครบรอบ 80 ปี ในหลวง
จากบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ระบบสุขภาพของประเทศไทย เมื่อปี 2530 ที่ ศนพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ประธานมูลนิธิแพทย์ชนบท และนพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ในขณะนั้นได้รณรงค์ให้ประชาชนและแพทย์ พยาบาล วิ่งจากทุกภาคทั่วประเทศไทย พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงนาม 6 ล้านรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้มีการคุ้มครองสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ เนื่องในวโรกาสในหลวงพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา นับเป็นประชามติที่มากที่สุดของประเทศไทย ส่งผลให้มีกฎหมายคุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งมีผลมาจนถึงทุกวันนี้
คุณพ่อเสม พริ้งพวงแก้ว คน 4 แผ่นดิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อายุ 96 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พ่ออยากให้ลูกๆทำเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เหล้านั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของมนุษย์ ก่อให้เกิดการตายทั่วโลก ทั้งอุบัติเหตุและโรคต่างๆ พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ตั้งแต่เมื่อ 2500 ปีก่อนให้ละเว้นการดื่มสุรา พ่อได้ทำแล้ว เมื่อปี 2530 ให้คนได้ละเลิกบุหรี่ พ่อขอให้ลูกทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือ ให้โลกทั้งโลกได้รับรู้ถึงพิษภัยของสุรา เลิกดื่มสุรา จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น พ่อขอสนับสนุนการวิ่งต้านเหล้าครั้งนี้เต็มที่ พ่อภูมิใจที่ลูกๆได้ทำอย่างดีที่สุด
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีนี้ซึ่งเป็นปีมหามงคล ชมรมแพทย์ชนบทพร้อมทั้งเครือข่ายต่างๆ อาทิ องค์กรงดเหล้า สมาพันธ์ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สมาคมหมออนามัย เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ สหพันธ์นักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายอื่นๆอีกกว่า 30 องค์กร ได้ร่วมกันจัดโครงการ “วิ่งต้านเหล้า ทำความดี ปีมหามงคล” เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนร่วมลงชื่อ เพื่อคุ้มครองเยาวชนจากแอลกอฮอล์ และร่วมกันลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว อันจะส่งผลให้เกิดกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์แห่งชาติต่อไป
การจะรณรงค์ให้เยาวชนไม่เป็นนักดื่มหน้าใหม่ จำเป็นต้องควบคุมการโฆษณา จำกัดสถานที่จำหน่ายและดื่ม รวมทั้งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เหมือนกับที่ดำเนินการในกฎหมายคุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่
ขณะนี้ได้มีกลุ่มธุรกิจเหล้าเบียร์พยายามวิ่งเต้นให้กฎหมายไม่ผ่าน ดังนั้นการจะผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของธุรกิจแห่งอบายมุขหลายแสนล้านบาทได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยร่วมลงชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โรงพยาบาลและสถานีอนามัยใกล้บ้านทุกแห่ง โดยจะรวบรวมให้ได้ มากที่สุด ในวันที่ 18 มีนาคม 2550 เพื่อมอบแก่ผู้นำรัฐบาล และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
ขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันทำความดีถวายในหลวงในวโรกาสครบรอบ 80 พรรษา เพื่อให้เยาวชนไทยห่างไกลอบายมุขต่อไป ในห้วงเวลาที่เรามีนายกรัฐมนตรีเป็นคนดีที่ซื้อไม่ได้ และสภานิติบัญญัติที่ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองที่รับเงินสนับสนุนจากธุรกิจผลิตสารมอมเมา นายแพทย์เกรียงศักดิ์กล่าว
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น