@Moui
ภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ

ภาคเหนือเราก็มี Haze เหมือนกัน


Haze เป็นหมอกควันพิษที่เกิดจากการเผาไหม้

เฮส หรือ Haze นิยามจากวิกิ หมายถึง ปรากฏการณ์ซึ่งเกิดจาก หมอก, ควัน หรือ มลพิษทางอากาศอื่นๆ ที่ตัดทอนประสิทธิภาพในการมองเห็นในบรรยากาศ Haze จะต่างกับ Smog ตรงที่ Smog ใช้เรียกหมอก ที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น

เฮส มักเกิดจากไฟไหม้ป่า (มักเกิดในฤดูแล้ง), ควันจากยานพาหนะ, การเผาไหม้จากโรงงานอุตสาหกรรม, และควันไฟจากสิ่งอื่นๆ

อันที่จริง เชียงใหม่หรือจังหวัดทางภาคเหนือของไทย มีประสบการณ์โดยตรงกับไฟไหม้ป่าเสมอมา ถ้าใครเคยขับรถขึ้นไปนมันสการพระบนดอยสุเทพ ก็จะสังเกตเห็นป้ายให้ระมัดระวังไฟไหม้ป่าที่ปักเตือนไว้เป็นระยะๆ ตลอดทางขึ้นลงเขา

แม้ถ้าหากได้มีโอกาสขึ้นล่องเชียงใหม่โดยรถไฟ ถ้าเจอช่วงฤดูแล้ง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ มาเผาหญ้าเพื่อทำแนวกันไฟเป็นช่วงๆ ตามแนวเขาเช่นกัน

จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่า ไฟไหม้ป่า ที่ปกติมีการตักเตือน มีวิธีป้องกันปฏิบัติตลอดหลายสิบปีมานี้ ทำไมจึงทำงานไม่ได้ผล  แต่หากเมื่อได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ (หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น) ข่าวพาดหัว ลงวันที่ 7 มีนาึคม 2550 ก็น่าตกใจ หมอกหนาทึบควันไฟป่าคลุมภาคเหนือ น่าน-มส.เลิกเที่ยวบินสุขภาพคนเริ่มแย่แล้ว 

Haze in Chiang Mai

จากข่าว มีรายงานเพิ่มเติมว่า ควันไฟที่เกิด เกิดจากการเผาขยะตามบ้านเรือนร่วมด้วย จึงต้องมีการห้ามปรามตักเตือนโดยเฉพาะ

กรณีเชียงใหม่ จากประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลา 4 ปีเต็ม ยอมรับได้ตามตรงว่า ชาวบ้านไม่มีวิธีการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการเผาดื้อๆ หน้าบ้านหรือหลังบ้าน ก็มีการทิ้งขยะลงแม่น้ำ (น่าจะถือได้ว่าเป็นปัญหาการกำจัดขยะประสาเมืองใหญ่โดยทั่วไป) แต่เวลาผ่านไปนับสิบปี การแก้ปัญหาขยะ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งๆ ที่เมืองขยายตัวกว่าสิบกว่าปีก่อนมาก 

ส่วนกรณีปัญหาควันไฟจากไฟไหม้ป่านั้น ดิฉันอดแปลกใจไม่ได้จริงๆ เนื่องจาก ที่จำได้นั้น เชียงใหม่มีึความพร้อมในการป้องกันจากไฟไหม้ป่าเสมอๆ ถ้ามีไฟไหม้ ก็มักจะดับได้ในเร็ววัน และโดยสภาพของเมืองเชียงใหม่ หากมีควันไฟไหม้ปกคลุมอยู่นาน จะทำให้ชาวเมืองใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากโดยแท้

และจากประสบการณ์โดยตรง ที่ดิฉันได้เผชิญกับ Haze ในมาเลเซีย (อ่านได้ที่ Malaysian Haze ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3 และ ตอนที่ 4 ) เป็นช่วงเวลาที่เสียสุขภาพตลอดช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่อยู่ที่นั่น กลับมาถึงบ้าน ดิฉันถึงกลับต้องไปพบแพทย์ เพื่อนำยาแก้แพ้อากาศมารับประทาน ต้องใช้เวลารักษาตัวเป็นสัปดาห์ กว่าอาการแพ้อากาศจะหายสนิท

และมีเรื่องที่แปลกใจอีกหน่อยคือ สื่อมวลชนบ้านเราดูจะไม่ค่อยให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มันเกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนโดยตรง ต่างไปจากสื่อมวลชนมาเลเซีย เมื่อตอนที่มาเลเซียประสบเหตุ Haze จากควันไฟไหม้ป่าในอินโดนีเซีย อนึ่ง ข่าวนี้ถูกนำไปเผยแพร่ด้วยในข่าวอากาศของหนังสือพิมพ์ในมาเลเซีย สามารถอ่านได้ที่ Northern Thai city of Chiang Mai on health alert for haze ค่ะ และอยากให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมของไทย (เอ๊ะ หรือไทยยังไม่มีกระทรวงนี้คะ?) ตื่นตัวเหมือนกับ กระทรวงสิ่งแวดล้อมมาเลเซีย บ้าง ควรจะออกระเบียบและวิธีการดูแลรักษาตนเองเมื่อต้องไปเผชิญหมอกควันดังกล่าว

ท้ายนี้ มีกระทู้โพสต์โดยชาวเมือง ที่ต้องทนทุกข์กับหมอกควันค่ะ

 ใครอยู่เชียงใหม่บ้าง หมอกควันเต็มเมืองเลยวันนี้
 
"หมอกควันเต็มเมืองเลย ยังกะ Silent Hill

แสบจมูก แสบตา จังช่วงนี้ ขี่รถมอเตอร์ไซต์ ที แสบตา....

ได้ยินว่าในเจียงฮาย กับแม่ฮ่องสอน หนักกว่านี้อีก เครื่องบินลงไม่ได้

เขาว่าพวกพม่ามันเผาป่า เพื่อทำไร่อ่ะ ควันเต็มเมืองเลย

สบายดีกั๋นน้อ หมู่เฮา คนเมือง
 
จากคุณ : ลานดิน "
 

ความคิดเห็นที่ 1

วันนี้นะออกไปใหนแสบตากับแสบจมูกเหมือนกันจ๊ะ
ตอนบ่ายไปกินก๋วยเตี๋ยวในกาดยังแสบตาเรย
พวกชาวบ้านยังเผาขยะใบไม้แห้งอีกอะยิ่งทำให้ควัน
มันไม่ไปใหนเรย.....เฮ้อออ มลภาวะเป่นพิษ
ระวังจะเป๋นภูมแพ้ทางเดินหายใจ๋ตวยเน้อปี๋น้องหมู่เฮา

จากคุณ : พิงค์นคร49
 

หมายเลขบันทึก: 83553เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2007 20:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 11:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ไม่มีใครแก้ปัญหาแบบนี้ได้เลยหรือนายกเทศบาลคนใหม่ไม่มีนํ้ายาที่จะจัดการควบคุม ดูงานแล้วไม่ได้เรื่อง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท