Skype .. Skypecasts .. พลังใหม่ในการจัดการความรู้ !


สามารถจัดประชุมพูดคุยพร้อมๆกันได้ถึง 100 Participants เป็นระบบ Tele-conference ของฟรีที่น่าจะรีบหาทางนำมาใช้ประโยชน์
    สิ่งแรกที่ต้องกล่าวเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานคือต้องขอบคุณ "น้องบ่าว" ยอดชาย นาย ขจิต ฝอยทอง  ที่ เป็นชนวนก่อเหตุอันเป็นกุศลนี้  เริ่มจากเธอไปอ่าน บันทึกนี้ ของผม และได้เขียนต่อท้ายไว้ว่า ..

 
นาย ขจิต ฝอยทอง เมื่อ อ. 27 ก.พ. 2550 @ 02:19 (176463)
  • ชวนใหคิดเหลือเกินพี่บ่าว
  • พอดีคุยกับคุณสมพรที่เยอรมันโดยใช้ Skype
  • เสียงชัดมากแถมฟรีด้วยครับ
  • ฯลฯ

         ผมก็สนใจโดยไม่เคยรู้มาก่อนว่า Skype นี่เป็นยังไง ต่างอะไรกับ MSN
         ด้วยความอยากรู้ก็เลย Search หาจนพอจะรู้ว่าคืออะไร และรีบ Download โปรแกรมจาก ที่นี่ มาติดตั้งทันที ทั้งใน Notebook และ Pc. ที่บ้าน แรงบันดาลใจยิ่งมากขึ้นเมื่อเจอข้อความที่ว่า .. 
        Skype is a little piece of software that lets you talk over the Internet to anyone, anywhere in the world for free.
        
    แถมผมยังได้รู้ต่อไปอีกว่า ..  เราสามารถจัดประชุมพูดคุยพร้อมๆกันได้ถึง 100 Participants เป็นระบบ Tele-conference ของฟรีที่น่าจะรีบหาทางนำมาใช้ประโยชน์โดยไม่ชักช้า  โดยเฉพาะมาเป็นอีก Tool หนึ่งของการศึกษาและการจัดการความรู้
         มีผู้กล่าวยืนยันให้เห็นถึงพลังของเจ้า skype  ไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น ..

    I knew it was over when I downloaded Skype,” Michael Powell, chairman, Federal Communications Commission, explained. “When the inventors of KaZaA are distributing for free a little program that you can use to talk to anybody else, and the quality is fantastic, and it’s free – it’s over. The world will change now inevitably.

    Fortune Magazine, February 16, 2004

         เห็น February 16, 2004 แล้วใจหายวาบครับ  มันบ่งบอกว่าเรานี่เชยเอาการ  ผ่านไปแล้ว 3 ปีถึงได้มารู้จัก  แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองว่า  มันไม่ได้สายเกินไป  อยู่ที่ว่าจะคิดนำมา ใช้ในทางที่เป็นกุศล ได้อย่างไร หรือไม่ มากกว่า

         ผมรีบลองเข้าไปใช้ แบบลองผิดลองถูก  ทักทายผู้คนจากทุกสารทิศทั่วโลก เช่นจาก Morocco  Algeria  UK. Canada  Australia  China  Japan  The Philipines  Singapore  Brazil Indonesia  Korea  Hungary  USA .. และอีกหลายประเทศครับ .. ที่บอกมานั้นเอาเท่าที่จำได้ นึกได้ก่อน 
    การเรียนรู้เกิดขึ้นมากมายในหลายประเด็น และเป็นแบบ Immediate Feedback ไม่อึดอัดรำคาญใจ  ไม่ต้องรอ และที่สำคัญ ไม่ต้องพิมพ์ด้วยครับ  ที่จริงจะพิมพ์ด้วยก็ได้ สื่อกันได้ทั้งสองอย่าง  ผมได้เครือข่ายหลายคนแล้วครับ  คุยกันจนเริ่มนับญาติได้ เช่น นักเรียนอายุ 17 ปี จาก Morocco  ครูมัธยมจาก Japan  วิศวกรคอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์จาก China ฯลฯ  นี่ไม่นับคนบ้านเรา คนเก่ง คนดี ที่ไปอยู่ต่างแดน คือน้องชาย นาย เม้ง สมพร ช่วยอารีย์  ที่คุยกันครั้งแรก  แลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กันและกัน นานนับชั่วโมง จาก ลาดพร้าว ถึง Heidelberg เมื่อคืนนี้
     อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพลังของระบบเช่น Skype และ Blog ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ให้เกิดการใช้ร่วมกัน  เสริมกัน เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน และการจัดการความรู้ให้กับคนไทย และสังคมไทย   ผมคิดแล้วตื่นเต้น จนไม่รู้สึกง่วงทั้งๆที่นอนมาน้อยมาก ลองช่วยกันคิดต่อและขยายผลนะครับ  เชื่อว่าผลที่ตามมาจะทำให้เรายิ้มกว้างกันได้เป็นแน่ 
     หัวเรือใหญ่ถ้ายังไม่มีใคร คิดถึงคนชื่อ นาย ขจิต ฝอยทอง  คนแพร่เชื้อ Skype ให้ผมก็ได้ครับ "น้องบ่าว" คนนี้ไฟยังแรงเสมอ.

คำสำคัญ (Tags): #goodnews#km#skype#technology#test
หมายเลขบันทึก: 81723เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2007 10:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2012 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

แล้วจะรีบไปเก็บเกี่ยว

Skype  ทันทีที่เวลาเอื้ออำนวยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ค่ะ  สุขสันต์วันเสาร์ค่ะ
  • มาบอกว่าได้ข่าวดีจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแล้ว
  • รออ่านพรุ่งนี้นะครับ
  • คาดว่าจะใช้ Skype คุยกันในวันที่ 6-7-8 เมษายนด้วยครับผม
  • ขอบคุณพี่บ่าวมาก
  • ได้ Skype ของบางท่านเพิ่มด้วย
  • โอโห พี่ใช้คุยกับทั่วโลกเลย ผมคุยแค่ เยอรมันและ New Zealand
  • ขอบคุณครับ
  • ขอไปตามพี่โอ๋มาอ่านดีกว่า

สวัสดีครับ

     ว่างๆ ลองคุยด้วยกันหลายๆ คนก็ดีครับ โดยมี moderator ซักคนในการยิงลูกกระจายว่าให้ใครพูดบ้างอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าคุยกันหลายคนต้องมีคนเป็นคนนำประชุมแล้วโยนลูกครับเพราะไม่เห็นหน้ากันครับ แล้วคนอื่นก็พูดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง ป้องกันการพูดซ้อนทับกันครับ แล้วก็ทำได้สบายๆ ครับ พอเห็นโปรแกรม Skype ผมนึกถึงเป็นการเอาข้อดีของ ICQ มารวมกับพวก Voip (Voice over IP) เลยครับ เพราะอย่าง msn เสียงคุณภาพสู้ skype ไม่ได้

ผมก็ใช้ www.voipdiscount.com อยู่ครับ แต่ต้องซื้อเครดิตครับ เพราะต้องโทรเข้าเบอร์มือถือ เสียงชัดบ้างไม่ชัดบ้างขึ้นกับสัญญาณทางเนตและมือถือ แต่บางทีก็ชัดมาก สำหรับ voip นั้นผมใช้ได้สี่เดือน ในการลงทะเบียนประมาณ ห้าร้อยบาท ก็คุ้มสุดๆ โดยมีเงื่อนไขว่า จะโทรฟรีเมื่อเจ็ดวันย้อนหลังโทรไปแล้วไม่เกินสามร้อยนาที(ห้าชั่วโมง) หากบริหารดีๆ ก็โทรฟรีตลอดได้ครับ หากเกินมาก็ไม่เป็นไรครับคือระบบจะตัดเงินจากเครติดที่ซื้อไว้ 10 euro ในนั้นโดยคิดนาทีละเซ็นต์

มีอะไรที่เป็นประโยชน์อีกเยอะในโลกใช้นี้แต่ต้องใช้ให้เหมาะกับงานครับ

ขอบคุณพี่บ่าวทั้งสองคนมากๆนะครับ ที่ได้ร่วมแลกประเด็นด้วยกันครับ

เม้ง

รู้สึกว่าดีนะคะ แต่กลัวค่ะ...เป็นความรู้สึกแรกๆที่มี เพราะจริงๆคุณพ่อก็ใช้และแนะนำให้รู้จักมาตั้งแต่กลับมาเมืองไทยใหม่ๆค่ะ

รู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนอยากอยู่กับตัวเอง และมีเวลาเป็นส่วนตัวน้อยมากแถมไม่มีพื้นที่ส่วนตัวในการใช้คอมฯ หากใช้ skype ปั๊บ คงจะเดือดร้อนคนรอบๆตัวไปด้วยแน่ค่ะ (ขืนมาเที่ยวคุยกับใครดึกๆดื่นๆ)

ขอเป็นผู้สนับสนุนอยู่วงนอก หากมีโอกาสและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเมื่อไหร่จะร่วมแจมค่ะ เกรงใจคุณขจิตจัง อุตส่าห์ตามไปเสนอแล้วไม่ได้รับการตอบสนองสักที ฝากความในใจถึงไว้ตรงนี้แล้วกันนะคะ ขอบคุณคุณ Handy ด้วยค่ะ หวังว่าพี่ชาย...คงเข้าใจ (อยู่แล้ว...)

อืม  ผมก็ใช้ skype เหมือนกัน ใช้มาราวปีกว่าแล้ว เวลาไป ตปท และโทรกลับที่บ้าน เเสียงชัดแจ๋ว พอบวก web cam ยิ่งดีใหญ่เลย มันดีกว่า msn ตรงทะลุทะลวง firewall ได้หมด ชัดกว่า ง่ายกว่า

แต่พอใช้เป็นแบบ chat ทั่วๆ ไป ก็รู้สึกเหมือน อ.โอ๋ ครับ บางทีตอนน้ันยังไม่อยู่ใน mood จะคุย หรือว่ามันชินกับการรู้จักกันผ่านการพิมพ์หรือยังไงก็ไม่รู้สิครับ พอมาคุยกันตรงๆ มันก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบหนึ่งนะ ไม่เหมือนกันทีเดียว

ไม่ค้านและไม่สนับสนุนครับ เพียงแต่อยากจะบอกว่า ไม่ชินกับการใช้แบบทั่วๆ ไป

ขอบคุณทุกท่านครับ 
     ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนามเป็นรายบุคคลเพราะรีบมาก และมีภารกิจด่วนรออยู่  จากบันทึกต่อท้ายที่ท่านให้ไว้ ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น  และเห็นใจในข้อจำกัดที่บางท่านมี  ข้อสรุปจึงอยู่ที่การพิจารณานำมาใช้ประโยชน์ให้ได้มาก และตามความเหมาะสมกับเงื่อนไขที่แต่ละคนมี ซึ่งไม่อาจกำหนดอะไรเป็นมาตรฐานได้  เพราะธรรมชาติชองการงานและการใช้ชีวิตของแต่ละคนล้วน แตกต่าง และหลากหลายครับ
    ที่ผมพอจะเห็นเป็นแนวทางในขณะนี้ก็คือ อาศัย Blog เป็นแหล่งหลักในการ ลปรร. มีบันทึกเป็นคลังข้อมูล ข่าวสาร ที่เราจะเข้าไปอ่าน  สกัดความรู้มาใช้ประโยชน์เมื่อไรก็ได้  ส่วนระบบเช่น Skype ก็คงใช้เสริมได้ในลักษณะต่างๆ และมีข้อควรคิดดังนี้

  • ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารสดๆ ระหว่างบุคคลตามจังหวะและโอกาสที่เหมาะ และจำเป็น
  • ใช้ทำ Teleconference เพื่อจัดการแลกเปลี่ยนความรู้แบบ สดๆ ในบางโอกาสเพื่อจุดประสงค์ที่ชัดเจน และต้องการข้อยุติ จากการระดมความคิดแบบเร่งด่วน หรือตามความจำเป็นอื่นๆ
  • การใช้เวลามานั่งสนทนาแบบไร้เป้าหมายกับผู้คนในโลกกกว้าง  เป็นสิ่งที่อาจทำให้เสียเวลาและโอกาสในการได้ทำสิ่งดีๆ และมีคุณค่ามากกว่า ไปได้ง่ายๆ  จึงต้องมีวินัยและไม่ปล่อยให้มันเลื่อนลอยไป จนไม่มีการควบคุม
  • มาบอกพี่โอ๋ว่า
  • ผมเคารพในความเป็นส่วนตัวของพี่โอ๋ครับ
  • ขอบคุณมากครับผม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท