ต่อจากบันทึกที่แล้ว หลังจากรวมหมู เอ๊ย ! หมู่กันครบทีม เราก็มุ่งหน้าไปยัง "อุทยานวัดถ้ำระฆังทอง" กัน ลักษณะของวัดร่มรื่นคล้ายกับวัดป่า เย็นสบาย และเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายชนิด แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรกันบ้าง พวกเรานั่งสวดมนต์ฟังเทศน์ ฟังธรรมกันใต้ถ้ำ ซึ่งเว้าเข้าไปโดยเพดานถ้ำสูงพอสมควร อากาศภายในเย็นซะจนลูกผู้เขียนถามว่า "ใครเปิดแอร์กันเนี่ย"
พระอาจารย์อานนท์ ถิระสังวโร ได้บรรยายเรื่อง "การทำความดี การรักษาศีล และการให้ทาน" เพราะจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา อีกทั้งจิตใจเราก็จะมีความสุข ความสบาย (จากเดิมโปรแกรมที่ตั้งไว้คือ "สติ - สมาธิ กับการปฏิบัติงาน") หลังจากนั้นพวกเราก็ร่วมกันทำบุญ ถวายสังฆทาน
และพี่ปนัดดาก็ขอใช้พื้นที่ในการ "ปิดวาจา" แล้วเราก็เริ่มกิจกรรม ดังภาพข้างล่าง
ในเวลาเพียง 30 นาที แต่ละคนมีเทคนิคไม่เหมือนกัน เป็นต้นว่า
เมื่อครบเวลา ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ พวกเราทำได้สำเร็จ และดีมากซะจนป้า ๆ ที่นั่นประทับใจและชักชวนพวกเราแวะเวียนมาเที่ยวกันอีก
สำหรับผู้เขียนระหว่างกำลัง "ปิดวาจา" นั้น จะเดินอ่านข้อความ คำสอนต่าง ๆ โดยรอบเสียดายไม่ได้พกสมุดจดไปด้วย แต่...ผู้เขียนพกกล้องถ่ายรูปและเก็บภาพคำสอนต่าง ๆ ไว้ แต่ที่ชอบมาก ๆ และอดนำมาฝากไว้ในบันทึกไม่ได้ นั่นคือ ป้าย "มงคลชีวิต"
หลังจากเสร็จกิจกรรม "ปิดวาจา" พระอาจารย์อานนท์ ก็ได้ให้ "หลวงปู่ทวด" กับพวกเรากันคนละองค์ เป็นอีกหนึ่งมงคลชีวิต แล้วเราก็เดินทางมุ่งหน้ากันต่อ..