ไม่มีใครไม่เคยแพ้...


แรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นแวบเดียว ! แต่อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่น

           ดิฉันเขียนเรื่องนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากข่าวสารจากสื่อที่เสนออยู่ทุกวัน  เมื่อไรที่ได้อ่านข่าวเยาวชนวัยเรียน-วัยรุ่น ฆ่าตัวตายด้วยปัญหารุมเร้าที่คิดไม่ตก แล้วหดหู่ใจ ไม่ว่าจะอกหักจากความรัก ผิดหวัง เครียด จากการเรียนตกต่ำ ความกดดันจากคนรอบข้างและสังคม  ก็เลยวิเคราะห์จากประสบการณ์ตัวเอง คิดว่า ทุกคนกว่าจะผ่านวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมาได้ ต้องมีเหตุการณ์ที่เคยผิดหวัง เสียใจ หรือผิดหวังมาบ้าง แม้มีบ้างบางคนอาจโชคดี ชีวิตอาจประสบความสำเร็จทุกอย่าง

           สมัยเด็กๆ ดิฉันเป็นเด็กเรียนเก่งมาตลอด เคยเรียนได้ 3 กว่า แต่พอเข้าเรียนมหาลัยกลับได้เกรดแย่ แค่ 1.8 เอง  ได้ยินข่าวน้องนักศึกษาเครียดเรื่องเรียน แก้ปัญหาไม่ตก จนต้องคิดฆ่าตัวตาย แล้วรู้สึกสะท้อนใจ  จริงๆแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่วัดความสำเร็จในชีวิตเลย มีตัวอย่างบางคนเรียนไม่จบมหาลัย แต่ได้ทำงานที่ตนเองรัก แล้วเลี้ยงตัวเองได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว 

ดิฉันเรียนไม่ดี ตั้งแต่ ปี 1 ปี 2 ปี 3 เกรดก็ขึ้นไม่เท่าไหร่เอง  เคยร้องให้เวลาที่พ่อถามถึงเกรด.. ปี 4 ดิฉันเรียนไม่จบตามหลักสูตร เพราะลงเรียนใหม่ รีเกรดบางวิชา เลยจบช้ากว่าเพื่อนไปอีก 1 ปี แต่เกรดตอนปี 4 เทอมนึงได้ถึง 3.8  ภูมิใจมาก  อจ. ที่ปรึกษาบอกว่า เธอเพิ่งมาเรียนหนังสือเป็น เอาตอนปี 4 นี้เองนะ 

ดิฉันรู้สึกเสียใจจนทุกวันนี้ ถ้าตั้งใจเรียนตั้งแต่แรก เกรดบน Transcript .ตรี คงจะสวยกว่านี้ 

ประสบการณ์เรื่องพวกนี้ยังเกิดกับน้องชายดิฉัน  น้องชายก็เป็นเด็กเรียนเก่ง เรียกว่าเรียนเก่งที่สุดในลูก 3 คน แต่ว่าเกิดเป็นคนสุดท้อง เลยอาจจะกดดันที่พี่สาวสอบโควตาได้ มช . ทั้ง 2 คน  แต่เขาสอบไม่ได้  Entrance ก็ไม่ติดอะไรซักอย่าง  ดิฉันจำได้ว่าย่าเล่าให้ฟัง ช่วงนั้นที่พอรู้ผลสอบ  ที่บ้านเงียบมากๆ  แม่ไม่พูดอะไรกับใครเลย  ส่วนพ่อก็หายออกไปไหนไม่รู้  มีย่าคนเดียวอยู่้เป็นเพื่อนน้อง  ย่าเล่าว่าพอน้องรู้ผล  มันวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เอาน้ำราดๆๆๆทั้งตัว  เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วไม่ยอมออกมาข้างนอกเลย   ย่าต้องเข้าไปดู   ดิฉันสงสารน้องมาก โทรหาเขา ได้แต่บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ปีหน้าค่อย  Ent ใหม่ก็ได้  แต่แล้วเขาก็สมัครเข้าเรียนรามฯ ไม่ยอม Ent ใหม่ แล้วก็เรียนรามจนจบ มีเพื่อนฝูงรักใคร่เยอะแยะ ได้ทำงานสุจริต มีเงินเดือนเลี้ยงตัวเอง ไม่สร้างปัญหาให้ครอบครัว เท่านี้ก็พอแล้ว

ดิฉันเคยอกหัก..เป็นเรื่องธรรมดามากๆ แต่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่รู้จักคำว่าแพ้.. เมื่อผิดหวัง ก็ทำืำใจไม่ได้ เมื่อเคยได้แล้วไม่ได้ ก็เลยไม่รู้จะอยู่ไปทำไมดิฉันพบว่า เวลามีปัญหา หมดเรี่ยวแรง ไม่มีกำลังใจ ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นสิ่งที่สอนกันยากนะ การสร้างกำลังใจให้ตนเอง และคิดในเชิงบวก  ดิฉันว่าตนเองโชคดีที่ครอบครัวอบอุ่น  แม้ว่าบางเรื่องก็ไม่เคยเล่าให้เขาฟัง แต่เมื่อใดที่นึกถึงคนที่อยู่ที่บ้าน ก็ยังรู้สึกว่ายังมีคนที่รักเราอยู่ ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังเป็นกำลังใจให้เราเสมอ         

สมัยที่เคยทำงานที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เห็นเด็กกำพร้า ถูกทอดทิ้ง บางคนขาดพ่อ บางคนขาดแม่ บางคนไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ แย่กว่าเราเยอะ ถือว่าปัญหาของเราเล็กน้อยกว่าเขามากเลย          ดิฉันว่ากำลังใจสร้างได้.. หาได้ไม่ยาก จากคนรอบข้างที่เรารักและรักเรา  จึงอยากแบ่งปันกำลังใจ และถ้อยคำที่ทำให้หลายคนมีแรงสู้ ไม่ท้อแท้และหมดหวัง    

มีประวัติบุคคลหลายๆคน ที่มีชีวิตย่ำแย่กว่าเรา แต่เขาก็ยืนขึ้นได้  เราหากำลังใจได้จากตรงนี้ได้เช่นกัน          

มีวลีบางส่วนที่ชอบมากๆ  มาจากละคร ตี๋ตระกูลซ่งอยากเอามาฝากเป็นกำลังใจ          

 ยามรุ่งเรืองไม่ประมาท             ยามลำบากต้องอดทนยามมีอำนาจ อย่าเหลิง                      ยามมีสุข อย่าหลงระเริงต้นไม้สูงใหญ่ เกิดจากเพียงต้นกล้า    หอสูงเทียมเมฆ  เริ่มจากแค่กองดินเดินทางหมื่นลี้  ต้องเริ่มจากก้าวแรก       ความสำเร็จทุกอย่าง  ล้วนต้องใช้เวลา           

หมายเลขบันทึก: 80708เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2007 15:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท