แลกเปลี่ยนกันอย่างเป็นธรรมชาติในเวทีที่เราจัดขึ้นทุกเดือน <div style="text-align: center"></div> <div style="text-align: center">เด็กๆจีนยูนนานแม่ฮ่องสอน จตุพร : ถ่ายภาพ </div>
</span><p>การนำเสนอความสำเร็จ หรือ ความขัดข้อง(บ้าง) ในการทำงานวิจัย จึงเป็นเวทีที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ที่พร้อมให้กำลังใจการทำงานต่อเนื่อง ช่วยกันหาทางออกเมื่อมีปัญหา </p><p></p><p>งานวิจัยที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ"เด็ก" ไม่ค่อยมี และทางศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นแม่ฮ่องสอน เราคุยกันบ่อยครั้งช่วงหลัง ในการพัฒนาศักยภาพเด็ก ให้เป็นนักวิจัย ที่เราเรียกว่า "นักวิจัยรุ่นเยาว์" </p><p></p><p>งานวิจัย ”สิทธิเด็ก กับ ประวัติศาสตร์ชุมชน” ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ตอนนี้ที่แม่ฮ่องสอน มีคุณวิสุทธิ์ เหล็กสมบูรณ์ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย และพี่เลี้ยงเด็กที่ร่วมทีมไปในตัว ไปประชุมที่ไหนก็เห็นภาพของคุณวิสุทธิ์ กระเตงเด็กๆเข้าร่วมเวทีเสมอ </p><p></p><p>ในเวทีครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เด็กๆก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเวทีเล่าเรื่องราวงานวิจัยของพวกเขา”ปลุกยักษ์ที่หลับไหลในตัวเด็ก" คุณวิสูทธิ์ กล่าวประโยคนี้ในวันที่นำเสนอความก้าวหน้างานวิจัย น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง</p><p>การสร้าง "ยุววิจัย เพื่อ ให้เกิดกระบวนการเรียนรู้" ในเนื้อหางานวิจัยที่ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว กิจกรรมที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของเด็กกับชุมชน อาทิ การทำหนังสือทำมือ การถ่ายสารคดีท้องถิ่น การเปิดเวทีวิจัยที่นำเด็กๆจากหลากกลุ่มชาติพันธุ์ที่ปางมะผ้า มาเข้าร่วมพูดคุยกัน ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการแสดงตัวตน เป็นเวทีแห่งโอกาสของเด็กทั้งสิ้น </p><p>โดยจิตวิทยาเด็ก "ยักษ์" ที่หลับไหล น่าจะเป็น แรงขับจากข้างในของพวกเขา หากผู้ใหญ่มีกระบวนการปลุกที่เข้าใจ เด็กต้องการแสดงออก อยากเป็นผู้นำ หาพื้นที่ที่พวกเขาสามารถรวมกลุ่มได้อย่างเหมาะสม นี่เองเป็น Competency ของเด็กไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กที่ไหน...รอเพียงโอกาสที่ดีๆจากผู้ใหญ่ที่เข้าใจ</p><p>กระบวนการงานวิจัยเด็กที่เกิดขึ้น พี้เลี้ยงงานวิจัย ได้เล่าถึง ”การเกิดของ ๖ ส" ได้อย่างน่าฟัง</p><p>๖ ส. ที่เกิดขึ้นในงานวิจัยเด็กได้แก่</p><ul>
</ul><p> </p><p>กระบวนการทางปัญญาที่เด็กๆในบทบาทยุววิจัย ในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนกำลังเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ และงดงามในวิถี </p><p>ในส่วนตัวผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า การให้โอกาสเด็ก ของผู้ใหญ่ใจดี เป็นจุดเริ่มของ กระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างเยาวชนที่ดีให้กับชุมชน สังคม เริ่มจากจุดเล็กๆขยายผลไปสู่สังคมใหญ่ ร่วมคิด ร่วมสร้างสังคมเรียนรู้…. </p><p> </p><h6 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เราทำได้ครับ</h6><h6 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></h6><h6 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></h6><h6 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></h6>
โอ้โห คุณเอกค่ะ
โจทย์ยากมากเลยค่ะ สำหรับ 6 ส ที่ว่าเนี่ย เพราะขนาดคิดทำให้ผู้ใหญ่ พี่ยังคิดว่ายากเลยนะคะ แต่นี่ทำในเด็ก คงต้องใช้พลังมากเป็น 2 เท่า
แต่ก็ไม่แน่นะคะ ทำในเด็ก อาจจะทำได้ง่ายกว่า เพราะเด็กคงเปิดรับ และเปิดใจ มากกว่าผู้ใหญ่ จริงไหมค่ะ
เป็นกำลังใจให้เกิดงานวิจัยดี ๆ นะคะ
เล็กนั้นงาม
อิอิอิ..น้องเอกจะชมพี่เล็กก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องโยกโย้ เฉไปเฉมา ร้อก...^______^..
สำหรับพี่..พี่เห็นหนทางที่จะปรยุกต์และนำกลยุทธ์ 6 ส. ใช้กับการเริ่มต้นของ KM ของหน่วยงานได้นะคะ กำลังจะต้องบรรยายเรื่องการเริ่มใช้ KM พอดี มาปิ๊งกับ 6 ส. ของน้องเอกซะแล้ว พี่เล็กต้องขอนำไปเผยแพร่บ้างนะคะว่าได้แนวคิดมาจากน้องชายที่ทั้งน่ารักและแสนเก่ง แถมหล่อเร้าใจอีกต่างหาก .... : )
อะไรที่ยาก จะเป็นโจทย์ที่น่าท้าทายครับ
แต่ผมคิดว่าเด็กทำงานง่ายกว่าผู้ใหญ่ครับพี่ ผู้ใหญ่ทำงานด้วยยาก ซับซ้อนและซ่อนเงื่อนมากไป
ขอบคุณกำลังใจครับผม
พี่เล็ก ศุภลักษณ์ หิริวัฒนวงศ์
ชมพี่เล็กด้วยครับ...และเป็นหนึ่งในแนวคิดการพัฒนาเด็กด้วย
ผมติดตามอ่านบันทึกพี่เล็กในการทำ KM ในกลุ่มงาน ตื่นเต้น เร้าใจ และสนุกดี ได้สาระดีมากครับ
ขอบคุณพี่เล็กมากครับ สำหรับคำชมครับผม
ข้อสอง เป็นเป้าหมายที่ท้าทายครับ และผมเห็นว่าในเมื่อโอกาสการศึกษาในระบบไม่เอื้อ เราก็ใช้กระบวนการเรียนรู้นอกระบบได้ครับ
ฝากไปเยี่ยมน้องสาวด้วยครับ ให้ข้อคิดเห็น และกำลังใจด้วย ผมก็พยายามกระตุ้นมานานครับ
ครับ เห็นด้วยครับ ที่ว่า ทำดีที่สุดและเตรียมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น หากไม่ดีเท่าที่ต้องการก็ทำใหม่
ผมเห็นด้วยในการตั้งโจทย์ที่ท้าทาย และทำงานที่แปลกใหม่ เป็นประสบการณ์และฝึกการเรียนรู้ของตนเองและทีมงาน
ปล่อยให้ยักษ์ที่หลับไหล ออกมาเริงระบำ ยิ้มร่ากันครับ
ขอบคุณ คุณkead มากครับ
ทำวิจัยกับเด็ก อาจจะควบคุมได้ยากก็จริงแต่เราอาจจะได้ผลลัพท์ที่คาดไม่ถึงก็ได้...
ผมมองว่า...ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก การพัฒนาเด็กน่าจะได้ผลลัพท์ที่ดีกว่าการพัฒนาผู้ใหญ่
อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ครับ
เป็นยุทธศาสตร์ที่ทางแม่ฮ่องสอนกำลังคิดเคลื่อนตัวประเด็นนี้อยู่ครับ
อาจารย์ ธเนศ ขำเกิด
ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ ช่วงหลังงานหลากหลายประเด็นขึ้น ผมก็มีโอกาสดีที่ได้เรียนรู้กับประสบการณ์เหล่านั้น
ส่วน ๖ ส. เป็นการนำเสนอ กระบวนการดำเนินงานของทีมวิจัยครับ ...น่าสนใจมากครับ
คุณ Mr.Direct
ผมเห็นทีมวิจัย เขามีความสุขครับ และเห็นเด็กที่ร่วมทีมสนุกสนานกันดี
ผมเข้าใจ เรื่องของกระบวนการเรียนรู้ที่มีผลโดยตรงกับวัย เช่นเดียวกับคุณ นะครับ
อาจารย์ เม็กดำ 1
คำถามตรงนี้สำคัญมากครับ...ผมได้ติดตามโครงการวิจัยนี้ ผมพอจะเห็นจุดดึงดูดให้เด็กเข้ามาร่วมกิจกรรม
และมีเงื่อนไขอื่นๆอีกครับ (กำลังวิเคราะห์อยู่ด้วยครับ)
เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และความทุ่มเทอันละ แต่ความพยายามอยู่หนใดความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่นเสมอครับ
เข้ามาอ่านบันทึกแล้ว "ตัวลอย" ครับ "ตัวลอย" เป็นอาการหนึ่งของคนที่ถูกสังคมชื่นชม (ซึ่งน่าจะตรงข้ามกับ "ลอยตัว")
ยักษ์ในตัวเด็กจะตื่นได้ ผู้ใหญ่ต้องเลิกเป็นยักษ์ก่อน อันนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญมาก วันนั้นผมลืมบอกไปนะครับ
กลางเดือนหน้า ผมจะจัดค่าย "นักเขียนน้อย บนดอยสูง" ร่วมกับเด็กๆที่อำเภอปางมะผ้า นอนกลางดิน กินกลางทราย ป่าสวย น้ำใสๆ กลางคืนมาร้องเพลงรอบกองไฟ ชาวบ้านกับเด็กๆจะมาทำค่ายร่วมกัน ไม่รู้จะออกหัวออกก้อยยังไง กะจะจัดที่โป่งน้ำร้อน บ้านห้วยน้ำโป่ง ถือว่าบูรณาการหลักการทำสื่อเด็กกับงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เน้นสร้าง "สุขภาวะ" ตามแบบ 6 ส ข้างต้น
งานนี้ ส่วนกลางผู้ให้ทุนคือ แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กจะมาร่วมติดตามด้วย หากใครสนใจมาร่วมแจม ทางเราก็ยินดี แต่ก็จำกัดเฉพาะผู้สนใจและก็คงต้องมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานกันด้วยนะครับ ติดต่อมาทางอีเมล์ของผมที่ [email protected] หรือที่ [email protected] ได้นะครับ
อ้อ ขอขอบคุณคุณเอกมากนะครับที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ ความจริงผมก็เป็นคนเล็กๆธรรมดา คนเก่งจริงๆคือเด็กๆนะครับ
ขอบคุณ น้องเก่ง ปริวัตร ครับ
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าวันที่ ๕ ผมขอเชิญไปร่วม "เวทีริมระเบียง งานวิจัย" กับผมนะครับ
งานที่ท้าทาย เป็นโจทย์ที่ผมสนใจเสมอครับ ส่วนงาน RC ที่ได้มีโอกาสติดตามเยี่ยมดู งานวิจัยที่อยู่ในแม่ฮ่องสอน ประสาคนสนใจเรียนรู้ ทำให้รู้ถึงศักยภาพของกลุ่มคนทำงาน และศักยภาพพื้นที่ได้
ผมถือว่าผมมีโอกาสครับ
พี่วิสุทธิ์
ทำดี ต้องบอกต่อ ครับ
กระบวนการหลายอย่างที่ก่อตัวขึ้นอย่างเรียบง่าย และเกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เป็น KM ธรรมชาติ ผมได้สัมผัส รับรู้แล้ว น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ผมเชื่อเรื่องของ "ความจริงใจ" ครับ และรับรู้จิตใจของคนทำงานผ่านผลลัพธ์ที่ออกมาให้เห็นในแต่ละช่วง
กระนั้น...สิ่งที่ผมเห็นและสัมผัส คือ การให้โอกาสเด็กๆผ่านกระบวนการวิจัย ที่สร้างทั้ง พื้นที่ (space) และ เวลา (time)
ปลุก Competency เด็กๆที่มีพลังเต็มเปี่ยม มีผู้ใหญ่ใจดีคอยหนุน ...เป็นโอกาสของเด็ก
ขอบคุณนักๆเน้ออ้าย ....ผ่านบันทึกครับ
...........
ไม่ทราบว่าจะตรงกันหรือไม่นะครับ
ช่วงกลางเดือนหน้า (มีค.)ผม จะเดินทางไปเข้าค่าย "นักเขียน" ที่ "หลวงพระบาง" ใช้เวลาเกือบสัปดาห์ครับ หากไม่ตรงกันผมจะไปร่วมค่ายนักเขียนน้อยที่แม่ฮ่องสอนด้วยคนครับ
มีโอกาสดีๆผมจะเข้าร่วมค่ายนักเขียนน้อยด้วยครับ คิดว่านักอยากเขียน(ไม่ยอมแก่) อย่างผม คงมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมได้นะครับ
บางทีเด็กก็มีศักยภาพมากมายจนเราคาดไม่ถึง อาจเป็นเพราะผู้ใหญ่เราไม่ค่อยได้เปิดโอกาสให้เด็ก ไม่มีเวทีให้เขา
ที่เม็กดำ หมายถึง ที่ๆเดียวกับ อ.ศักดิ์พงษ์ หรือเปล่าครับ...ผมมองว่าเด็กที่นั่นโชคดีที่มีผู้ใหญ่ใจดี ที่สำคัญเข้าใจพวกเขา มีพ่อที่ใจดี (ครูบา) คอยให้คำปรึกษา มี อ.เม็กดำและคุณครูทุกท่านร่วมกันคิดกันสร้าง
เรื่องโจทย์ที่ให้เด็กก็เป็นเรื่องท้าทาย ศักยภาพที่เราเรียกว่า "ยักษ์" ในตัวเด็ก ที่สำคัญ กิจกรรมที่แทรกสอดควรจะเป็นกิจกรรมที่เด็กชอบด้วยครับ
ขอบคุณครับ...สำหรับมาเฟียกิจกรรม(ที่หลายคนเรียกขาน) ผมคงต้องขอมุมมองจากท่านมาเต็มเติมในงานผมด้วยไม่ว่าจะประเด็นพัฒนาใดๆ
คุณ แผ่นดิน |
เป็นโรงเรียนในฝันผมเลยทีเดียว
หนังสือผม เสร็จแล้วครับ ตอนค่ำนี้เอง...แต่อาจต้องถูกแก้ไขบางประเด็น เพราะเป็นประเด็น ยาเสพติดที่อ่อนไหว
ขอบคุณกำลังใจครับ..........
คุณพนัสเองก็ต้องดูแลสุขภาพมากๆนะครับ