เรื่องใดที่ ต้องใช้ความคิดเพื่อวิเคราะห์ วิจารณ์ และใช้เหตุผล ใช้สมาธิในการอ่านมากๆ ผมจะใช้ ความเงียบ เป็นเครื่องส่งเสริมการอ่านชนิด " Deep Reading "
สวัสดีครับ
วันนี้ตื่นมาติดตามอ่าน บันทึกนี้ ต่อด้วยความสุขครับ เพราะนานๆครั้งจะมีโอกาสทำให้มวลหมู่ญาติ ทั้งเก่า ทั้งใหม่ ทั้งแก่ ทั้งไม่แก่ ทั้งไม่รู้จักแก่(หมายถึงดูดีตลอด) .. ต่างเข้ามาร่วมวง บอกกล่าวความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนแบ่งปันกัน
เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง คล้ายกันบ้าง เป็นความงามที่เห็นแล้วมีความสุขจริงๆครับ จึงขอขอบคุณอย่างจริงใจต่อทุกความเห็นต่อท้าย บันทึกดังกล่าว อีกครั้ง และขอตอกย้ำเพิ่มเติมสิ่งที่เป็นความคิด ความเชื่อของผมอีกเล็กน้อยว่า ..
- ผมรักเสียงเพลงมาก ทั้งฟัง ทั้งร้อง ขนาดเพลงในรถ ถ้านั่งคนเดียวยังชอบฟังเพลงที่ร้องเอง และบันทึกไว้กว่า 30 เพลงเลยครับ
- ดนตรีที่คัดสรรอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องลีลาของเพลง ระดับความดัง และการ "เข้มเข้า - จางออก" ที่เหมาะสม (อันนี้บัญญัติเอง ห้ามเผยแพร่ = ที่ฝรั่งเขาเรียก Fade in - Fade out) จะช่วยเสริมสร้างอารมณ์ ความรู้สึกในเรื่องราวที่นำเสนอได้ดีมาก มีตัวอย่างมากมายจากภาพยนตร์ทั้งสารคดี และบันเทิงครับ
- ใน Blog เราไม่อาจบังคับให้คนอ่าน ช้า เร็วได้ ความคิดที่จะให้มีดนตรีเป็นเครื่องเสริมสร้างอารมณ์และเปลี่ยนไปตามเนื้อเรื่อง จึงทำไม่ได้ ผู้อ่านอาจรู้สึกชอบ ผ่อนคลาย สบายใจตอนเริ่มต้น แต่เมื่อใจเริ่มใช้ความคิด Focus ไปยังประเด็นหลักๆของเรื่อง ดนตรีที่เราเคยรู้สึกว่าดีนั้นกลับกลายเป็นสิ่งรบกวน(Noise) อาจสร้างความรำคาญจนต้องรีบปิดเสียงก็ได้
- ถ้าผมมีเวลาและคิดจะทำในเรื่องเพลงใน Blog คงจะใช้หลักดังนี้ครับ
- เลือกเพลงที่มีความหมายสะท้อนความความเป็นตัวเรา หรือความคิดอ่านของเรา ใส่ไว้ให้ฟังตอนคนเข้ามายัง Blog ของเรา และจะทำให้ Fade out ออกไปในเวลาไม่ถึงนาที
- เปลี่ยนเพลงบ้างตามโอกาส เพราะความเป็นตัวเรามีหลายมุม เช่นมี Stock ไว้ 5 เพลง ก็สลับสับเปลี่ยนกันไป อาจเดือนละครั้งเป็นต้น
- ใส่เพลง ในบันทึกที่ควรมีเพลงประกอบ แต่จะค้ดเลือกให้ไปกันได้กับเรื่องนั้นๆ ให้กลมกลืนกัน ไม่ใช่รบกวนการอ่าน
- เรื่องใดที่ ต้องใช้ความคิดเพื่อวิเคราะห์ วิจารณ์ และใช้เหตุผล ใช้สมาธิในการอ่านมากๆ ผมจะใช้ ความเงียบ เป็นเครื่องส่งเสริมการอ่านชนิด " Deep Reading "
- .... ยินดีมากหากใครจะมาช่วยต่ออีกครับ