ในสังคมโลกนับแต่อดีตกาลจนกระทั่งปัจจุบันนั้นมีความหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เห็นได้ว่าแต่เดิมมนุษย์มีเพียงแต่เพศชายและเพศหญิง แต่เนื่องด้วยสภาวะการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของโลก ตลอดจนปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในครอบครัวย่อมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงไปต่อความเป็นเพศชายและเพศหญิง และอาจมีอีกหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเพศ ในสังคมไทยเรียกกลุ่มบุคคลผู้มีความผิดปกติทางเพศเหล่านี้ว่า “กระเทย ” ซึ่งปัจจุบันองค์การอนามัยโลกถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ป่วยประเภทหนึ่งอยู่ในหมวดภาวะเอกลักษณ์ผิดเพศ (Gender Identity Disorders) โดยมีการแบ่งภาวะเอกลักษณ์ผิดเพศออกเป็น 5 โรค คือ Transsexualism , Dual – role transvestism , Gender identity disorder of childhood , Other gender identity disorders , Gender identity disorder , Unspecified.
โรค Transsexualism นั้นได้มีท่านศาสตราจารย์นายแพทย์วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ ได้ให้คำแปลว่า “หลงเพศ” จึงมีความจำเป็นในทางการแพทย์ที่จะต้องให้ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศเพื่อให้ร่างกายตรงกับสมองส่วนที่ควบคุมการกำหนดบทบาทเพศ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงต้องมีการให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาจึงต้องมีบัญญัติกฎหมายให้มีการยอมรับสถานะของผู้ผ่าตัดแปลงเพศ ในต่างประเทศหลายประเทศได้มีการออกกฎหมายยอมรับสถานะทางกฎหมายของผู้ผ่าตัดแปลงเพศ (Legal status) ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการแปลงเพศจากเพศชายเป็นเพศหญิง หรือจากเพศหญิงเป็นเพศชาย
ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีกฎหมายยอมรับสถานะของผู้ผ่าตัดแปลงเพศทำให้บุคคลดังกล่าวไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปัญหาในเรื่องของกระบวนการพิจารณาความอาญาแก่บุคคลดังกล่าว ที่เห็นได้ชัดในกรณีความผิดเกี่ยวกับเพศที่ชายผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงไม่อาจเป็นผู้เสียหายถูกชำเราได้ และในทางตรงกันข้ามกรณีหญิงผ่าตัดแปลงเพศเป็นชายก็ไม่อาจเป็นผู้ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นได้ ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและแน่นอนในทางกฎหมาย ตลอดจนปัญหาในการติดต่อหน่วยงานราชการซึ่งเกิดปัญหาขึ้นกับผู้ปฏิบัติงาน เพราะชื่อในเอกสารไม่ตรงกับสภาพแห่งร่างกายที่เป็นอยู่จริง โดยมีข้อมูลสำนักงานทะเบียนกลางได้มีหนังสือเวียนถึงสำนักงานทะเบียนทั่วประเทศห้ามรับจดทะเบียนแก้ไขเอกสารต่าง ๆ ให้ผู้ผ่าตัด
แปลงเพศ ด้วยเหตุนี้ผู้ผ่าตัดแปลงเพศในประเทศไทยจึงมีความแตกต่างจากผู้ผ่าตัดแปลงเพศในต่างประเทศที่มีกฎหมายยอมรับสถานะของผู้แปลงเพศ โดยให้ถือว่าเป็นบุคคลตามเพศใหม่ภายหลังมีการผ่าตัดแปลงเพศ ทำให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิตามเพศใหม่ได้ทุกประการ
ในสภาพของสังคมประเทศไทยนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับในเรื่องการผ่าตัดแปลงเพศ
อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายควบคุมการผ่าตัดแปลงเพศซึ่งมีการผ่าตัดแปลงเพศเป็นไปอย่างเสรี จึงเป็นการที่รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบให้การผ่าตัดแปลงเพศเป็นไปตามมาตรฐานสากล เนื่องด้วยปัจจุบันประชากรในประเทศไทยที่เป็นกลุ่มบุคคลผู้ผ่าตัดแปลงเพศก็เริ่มมีจำนวนมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในสังคมมากเท่าที่ควรและยังไม่ได้รับการปฏิบัติที่มีความเสมอภาค ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 หมวด 3 ที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ในสิทธิการมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งมาตรา 4 และมาตรา 26 ได้บัญญัติไว้ว่า คำว่า ศักดิ์ความเป็นมนุษย์ ซึ่งน่าจะหมายความว่า “ สภาพความเป็นคนไม่ว่าคนๆ นั้นจะมียศฐาบรรดาศักดิ์สูงสักเพียงใดหรือยากจนข้นแค้นเพียงใด หรือแม้แต่ทารกแรกเกิดก็ถือว่ามีสภาพความเป็นคนเหมือนกัน หรือมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน มิได้หมายความว่าคนต้องมียศฐาบรรดาศักดิ์หรือตำแหน่งหน้าที่สูงเท่านั้นจึงมีศักดิ์ศรี มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐมีสติปัญญา มนุษย์ย่อมไม่กระทำต่อมนุษย์เช่นเดียวกับที่มนุษย์กระทำต่อสัตว์ หรือสิ่งของ ดังนั้นการทำให้ผู้ใดไม่มีสิทธิและเสรีภาพที่พึงมีได้การใช้งานผิดปกติ การทำร้าย การกักขัง ทรมาน ซื้อขาย จึงถือว่าเป็นการทำลายสภาพความเป็นคนหรือทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั่นเอง ” ดังนั้นถึงเวลาที่ประเทศไทยจะได้ออกกฎหมายยอมรับสถานะของผู้ผ่าตัดแปลงเพศอันจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายระหว่างเพศที่มีความเสมอภาคกันเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
เพศใครคิดว่าไม่สำคัญ เพศที่เป็นเท่านั้น ยังไม่แสดงออกไปถึงหัวใจ .......คุณเป็นเพศไร คุณรู้ดี........สุดแต่ใจจะไขว่ขว้า.......