เกือบครบ 2 ขวบปี แล้ว GotoKnow ก็มีพัฒนาการมาพอสมควร เกิดพื้นที่โลกส่วนตัวที่โปร่งใส ใครๆ ก็มองเห็นโลกของเราได้ เกิดบันทึกหลากหลายลีลา หลากหลายวัตถุประสงค์ หลายจิตหลายใจ
ก่อนจะครบ 2 ขวบบริบูรณ์ จึงตั้งใจอยากจะมอบความรู้สึกต่อ GotoKnow แก่ผู้พัฒนาระบบ ในฐานะ user คนหนึ่ง ในมุมมองที่ว่า มอง GotoKnow ผ่านบันทึกของผมเองเท่านั้น ก่อนที่จะถึงวันฉลอง 2 ปี GotoKnow ในเดือนพฤษภาคมปีนี้
ผมมองว่า....
GotoKnow เป็นสมุดไดอารี่ส่วนตัว เล่มที่ผมโปรดเล่มหนึ่ง เพราะว่าเป็นไดอารี่เล่มที่แปลกกว่าเล่มเก่าๆที่ผมเคยมี แปลกตรงที่ว่า ผมสามารถค้นหาบันทึกบางบันทึกได้ง่ายขึ้น ผมสามารถเปลี่ยนแปลงหน้าปก หน้ากากได้เหมือนโทรศัพท์มือถือ สะดวกที่จะเคลื่อนย้ายบันทึก ซึ่งโดยปกติหากอยู่ในสมุดจริงๆ ผมคงทำไม่ได้ ผมสามารถแยกหมวดบันทึกได้ง่ายเพียงแค่ใส่ tag เอาไว้ และไดอารี่เล่มนี้น่าจะคงทนไม่เปื่อยยุ่ยเร็วนะ (แอบหวัง)
GotoKnow สามารถสร้างสมุดไดอารี่ให้ผมได้มากกว่าหนึ่งเล่ม หากผมต้องการ ตอนนี้ผมมี 2 เล่ม เล่มแรกเอาไว้บันทึกเรื่องงาน เรื่องการจัดการความรู้ ส่วนเล่มที่สอง ค่อนข้างเป็นเรื่องราวโลกส่วนตัวมากๆ เรื่องครอบครัว เรื่องราวใกล้ตัว เผื่อว่าซักวันหนึ่ง เมื่อลูกสาวผมโตพอที่อ่านหนังสือได้ เขาก็จะได้มีเรื่องของพ่อเอาไว้อ่านได้บ้าง แต่ทั้งสองเล่ม ก็เปิดกว้างให้คนอื่น มาอ่าน มาแสดงความนึกคิดได้ และไม่จำเป็นต้องเห็นอย่างที่ผมเห็น
GotoKnow เป็นเครื่องมือที่บวกการสื่อสาร 2 โลก ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเมื่อก่อนผมไม่คิดมาก่อนว่าจะมีแบบนี้ โลกใบแรกคือ การสื่อสารกับตัวเอง เวลาที่เรียบเรียงเขียนอะไรขึ้นมานั้น มันเหมือนกับการพูดอยู่กับตัวเอง เป็นสะท้อนภาพที่เห็น กลิ่นที่โชยมา รสชาติที่ได้ลิ้ม คำพูดที่ได้ยิน จิตที่คอยสั่งการ ให้ออกมาเป็นตัวอักษร แม้จะไม่ได้อรรถรสเหมือนจริงเสียทีเดียวก็ตาม โลกใบที่สอง คือ การสื่อสาร(ท่ามกลาง)มวลชน อันนี้คงไม่ต้องอธิบาย ก็คงจะมองเห็นภาพ เส้นขอบโลกของทั้ง 2 โลกจึงได้มาบรรจบกันอย่างไม่น่าเชื่อ
GotoKnow เป็นสมุดไดอารี่ที่มาพร้อมชั้นวาง เพื่อความเป็นระเบียบสำหรับตัวเอง จะได้สะดวกในการใช้ประโยชน์จากมันแบบรวดเร็ว ชั้นวางที่ค่อยๆพัฒนามีมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงชั้นเดียว คละเคล้าปนเป จนบางทีก็ค้นหายากเหมือนกัน จนถึงวันนี้เปลี่ยนเป็นมี 3 ชั้น ชั้นแรกสำหรับ คนทำงาน ชั้นที่สอง สำหรับ นักวิจัย ชั้นที่สาม สำหรับนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ที่ต้องการใช้ blog เป็นเครื่องมือสำหรับการเรียน - การสอน
GotoKnow สมุดไดอารี่เป็นมากกว่าสมุดบันทึก ใช้ทำได้หลายอย่าง ถ้าจะใช้เป็นค้อนตอกตะปูก็ได้งาน หรือถ้าใช้ไม่ระวังให้ดี อาจจะไปโดนคนอื่นเข้า กลายเป็นอาวุธที่ไม่ใช่อาวุธได้เหมือนกัน ประมาณว่า "ปากกา....พาไป" เลยต้องมีไดอารี่เล่มที่แปลกเล่มนี้ แบบ "ส่วนตัว ที่ไม่ส่วนตัว" มันเลยทำให้ผมได้เรียนรู้ "ความยุ่งเหยิงระหว่างเส้นขอบโลกของความเป็นส่วนตัว กับ ความเป็นมวลชน"
GotoKnow เป็นสมุดบันทึกในโลกยุคปี 2000 แต่สามารถเก็บเรื่องราวเก่าๆ เรื่องราวที่ไม่เคยมีใครเก็บ เรื่องราวที่เราสนใจ ได้ดีทีเดียว คงจะเป็นวิวัฒนาการของการบันทึกกระมัง จากที่บันทึกลงบนแท่งหิน ลงในใบไม้ ลงในกระดานชนวน แล้วค่อยมาเป็นกระดาษ และมาเรื่อยๆจนเป็นกระดาษไซเบอร์ อย่างนี้ที่เห็น แล้วจะเป็นอะไรอีกหน้อ!
เป็นที่หน้าแปลกใจ...มากเลยค่ะ..ว่าช่วงนี้ blogger ต่างพร้อมใจเขียนถึง...ไดอารี่เล่มนี้...ไม่ว่าจะเป็นพี่โอ๋-อโณ...หรือแม้แต่คุณธวัช รวมถึงกะปุ๋มเอง...พัฒนาการที่เติบโตนี้...เป็นหมือนโลกจำลองเล็กๆ..ของคน...คนกลุ่มหนึ่งที่มีแต่สิ่งดีงาม...ที่อยากจะมอบและแบ่งปันให้คนอื่น และสังคม
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกที่อยากจะขอบคุณ...สคส. และผู้พัฒนาระบบ...ดร.จันทรวรรณ และ ดร.ธวัชชัย...ที่ทุ่มเทการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง...และเชื่อมั่นต่อสิ่งที่ทำต่อไป..
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ค่ะ ในฐานะที่เป็นผู้อ่านคนหนึ่ง
(^_____^)
กะปุ๋ม