บันทึกประจำวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550

อยากประกาศบอกให้โลกรับรู้ความในใจของฉันวันนี้ “ ไฟในตัวตนลุกโชน ประดุจเชื้อเพลิงในกองเปลว เลยละ”

บันทึกประจำวันอาทิตย์ที่  17  กุมภาพันธ์  2550

• ปรึกษาและประสานงานทีมงาน

ประสานณรงค์  นาพัว  เจ้าหน้าที่กิจกรรมภาคสนาม / ปฏิคม    กับ  นางอารยา รักชาติ(ติ๋ม)  อาสาสมัครชุมชน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น(ส่วนนายพัชรพล กับ นายขอไข่  ยังประสานงานไม่ได้)  แต่ได้ฝากพี่ติ๋มไว้แล้ว  ถึงเรื่องการจัดค่ายกระบวนการสิทธิเด็ก ว่าคิดเห็นอย่างไร และเรื่องที่จะขอรับการสนับสนุนกับทางมูลนิธิเด็กก่อนในระยะแรก  จนได้ข้อตกลงร่วมกัน  แต่มีข้อต่างกันเพียง 2 ประเด็นคือ  จำนวนเด็กที่น้อยไป (พี่ติ๋ม)  กับ แนวกิจกรรมที่ต้องชัดเรื่องสิทธิ  (ณรงค์)  และก็เป็นไปได้ด้วยดี  และได้กำลังใจจากทีมงานว่า  ไม่อยากให้นุชคาดหวังเรื่องทุนมากเพราะกลัวนุชจะเหนื่อย  พี่ติ๋มเตือนว่าเราช่วยกันได้ถึงแม้จะช้าไปก็ตาม  อืม..... แต่นุชก็บอกไปว่า  ถ้าเรามีความรู้และสามารถวิ่งประสานงบประมาณได้  งานที่จะทำเพื่อพี่น้องไร้สัญชาติก็จะได้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น  (และก็ได้ฝากให้น้องแพร(ลูกสาวพี่ติ๋ม) วิ่งประสานไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กจ.3ห้วยป่าเลา  ในเรื่องสถานที่  น้องแพรก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม)

และปรึกษาถึงเรื่อง  การรับอาสาสมัครประจำโครงการ  เพราะวันี้มีเพื่อนที่เราเคยพบเจอในสึนามิ เอ่ยถามถึงเรื่องงาน จึงปรึกษากับ ณรงค์ท ว่าคิดว่าจะพอให้เขาเข้ามาทำงานได้หรือไม่  ...  ได้คำตอบว่า  จริงๆต้องปรึกษากับชาวบ้านด้วย  แต่อย่างไร เราก็ต้องให้เขาลองเข้ามาคุยกับทีมงานชาวบ้านของเราก่อน  ถึงจะตอบได้ 

• ประสานกับพี่เจ้ย  คุณสิงหา ทองชัยภูมิ   กลุ่มไม่ขีดไฟ

ได้ปรึกษาเรื่องแนวทางกระบวนการสิทธิเด็กคร่าวๆและก็ได้ส่งรายละเอียดโครงการฯไปให้กับพี่เขา  รวมถึงโครงงานกิจกรรมค่ายเด็กด้วย  กลุ่มไม่ขีดไฟมีผลงานสร้างสรรค์สังคมเพื่อเด็กและเยาวชนมานาน  ติดตามผลงานกลุ่มไม้ขีดไฟได้ที่  http://www.fai-dee.com/      

• เสนอขอให้มูลนิธิเด็กสนับสนุนโครงงาน

นุชเคยร่วมงานกับ  พี่แหม่ม คุณวรรวิมล  เอโกบล  มูลนิธิเด็ก  ในพื้นทีสึนามิ  ได้คำแนะนำจากพี่ๆและแม่แอ๋ว  (คุณรัชนี ธงไชย)  มากมาย  ทั้งได้รับการช่วยเหลือด้านความคิดและสิ่งต่างๆ  จึงเสนอให้ทางมูลนิธิเด็กช่วยเหลือเราอีกครั้ง  ในการขอรับการสนับสนุนจากมูลนิธิเด็ก  ในโครงงานสร้างห้องเรียนทดลองจากกระบวนการสิทธิเด็ก  ในโครงการ(คลีนิก) ฯ ด้านงบประมาณ   .... ก็เป็นความหวัง  ที่จะจักให้การดำเนินงานเพื่อพี่น้องเด็กและเยาวชนไร้สัญชาติ เป็นไปได้ด้วยดี  ....นั่นแหละ  โอมเพี้ยง...

• เขียนหนังสือเรื่องขอใช้ชื่อเสียงของบุคคลสำคัญเพื่อเป็นบุคคลอ้าวอิงในการประสานงาน 

เขียนส่งถึง รศ.ดร.มารค ตามไท , รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร , คุณสุดารัตน์ เสรีวัฒน์ ,คุณสุรพงษ์ กองจันทึก  ถึงการใช้ชื่อเสียงของท่านเป็นบุคคลอ้างอิงในการดำเนินงาน  โดยมีข้อความดังนี้ 

 ที่ ศศภ.011/2550

ศูนย์ศึกษาและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ฯ    เป็นองค์กรชุมชนขนาดเล็กได้ดำเนินการก่อตั้งมาเมื่อ พ.ศ.2543  จนถึงปัจจุบัน  ได้มีผลงานในการทำงานด้านการช่วยเหลือบุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติในพื้นที่อำเภอหัวหิน  และ  กิ่งอำเภอสามร้อยยอด  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ให้ได้รับสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมายไปแล้วกว่า  1800  คน และผ่านการทำงานร่วมกับทางภาคราชการในพื้นที่ด้วยดีมาตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน     และปัจจุบันทางศูนย์ศึกษาฯ  อยู่ระหว่างการพัฒนาการดำเนินงานโดยปีพุทธศักราช 2550 ได้ริเริ่มการพัฒนาศักยภาพ  ใน “โครงการ(คลีนิก)สมุนไพรต้านโรคไร้รัฐ  เพื่อหว่านกล้ารักษาโรคไร้สัญชาติ” ขึ้น  และเนื่องจากทางศูนย์ศึกษาฯ  ยังขาดงบประมาณในการจัดการซื้อหาเครื่องมือและทรัพยากรต่างๆ  เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้

ทางศูนย์ศึกษาฯ  เล็งเห็นว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญที่รับรู้และเข้าใจในการดำเนินของ น.ส.รุจิราพร  โชคพิพัฒน์พร  ผู้รับผิดชอบโครงการฯ  จึงจะจัดส่งหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยงาน องค์กรการกุศลที่มีความจริงใจในการช่วยเหลือสังคมต่างๆ  โดยการขอใช้ชื่อเสียงของท่านในการเป็นบุคคลอ้างอิงในการดำเนินงาน  โดยส่งพร้อมกับรายละเอียดของโครงการฯไปยังหน่วยงาน  อาทิ  มูลนิธิโตโยต้า (ขอบริจาครถกระบะยานยนต์ที่ใช้งานแล้ว)  เป็นต้น 

วันนี้ของฉัน   รู้สึกเต็ม 100 กับงานวันนี้  แต่ก็ยังขาดหลายอย่างที่คิดว่าเราวันนี้เราน่าจะทำอะไรๆได้มากกว่านี้     “ ไฟในตัวตนลุกโชน  ประดุจเชื้อเพลิงในกองเปลว  เลยละ”  แต่นิดๆเสียดายวันนี้อดดู  เจปัง เลย  ..........................