ตอนบ่ายเมื่อวาน ฉันไปส่งโครงการที่ร่วมงานกับ หน่วยพัฒนาการเด็ก รพ.สุรินทร์ กับคุณหมอลี่ และพอดีมีโอกาสดีที่ได้เข้าฟัง การบรรยายของ คุณหมอพรสวรรค์ วสันต์ ผู้บุกเบิก งานพัฒนาเด็กดาวน์
คุณหมอท่านนี้ ท่านเป็นอาจารย์จริงๆ ทั้งการอธิบาย การบรรยายจากประสบการณ์ตรง และจากงานศึกษาวิจัย ฉันเป็นผู้ไม่รู้เรื่อง ก็รู้เองไปอย่างน่าสนใจ
ท่านบอกว่า เมื่อมีลูก เป็นเด็กดาวน์ ก็ไม่ต้องไปโทษใคร เกิดได้ในคุณแม่ทั้งสาว/สูงวัย ทั้งพ่อแม่มีความรู้ ไม่มีความรู้ ธรรมชาติกำหนดมาให้เอง
เด็กดาวน์ คือการที่ โคโมโซมของพ่อ และแม่มาจับคู่กัน แต่เด็กดาวน์เกินมา 1 แท่ง โดยเฉพาะคู่ที่ 21 เด็กดาวน์จะมีพัฒนาการที่เรียนรู้ช้า แต่เรียนรู้ได้
ท่านบอกว่า ขึ้นอยู่กับ พ่อแม่ มีทัศนะคติที่ยอมรับ สังคมให้โอกาส การเอื้ออาทรจากทุกฝ่าย จะทำให้เด็กเรียนรู้ช้าได้เรียนรู้อยู่กับสังคมอย่างมีความสุข
ฉันสนใจ ที่ท่านอาจารย์พรสวรรค์ ว่า การทำงานกับเด็กดาวน์ เราก็จะพบว่า เด็กเรียนรู้ได้อย่างมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์ที่ค้นพบ ถือว่าเป็นรางวัลของคนทำงานที่เฝ้าดูพัฒนาการของเขาแต่เล็กจนโต
ปี 2538 มีการเรียกร้องให้เด็กดาวน์ได้เข้าเรียนปนกันเด็กปรกติ และเคยมีที่ท่านอาจารย์เจอว่า เด็กดาวน์ของท่าน เรียนดีกว่าเด็กปรกติ เช่นได้เลขที่ 27 จาก เด็ก 30 คน เป็นต้น
เด็กดาวน์บางคน พ่อแม่ ส่งเสริมให้วาดรูป และได้แสดงงาน ผลงานของเด็กขายได้ มีคนชมชอบ
ท่านอาจารย์ว่า Don’t be surprise ที่เด็กดาวน์ทำได้ ที่ต่างประเทศท่านอาจารย์เล่าว่า เขาให้คุณค่ากับเด็กดาวน์ที่เติบโตมาและมีงานทำที่เหมาะกับเขา บางคนทำงานขยันกว่าคนปรกติ เรียกว่า ไม่เคยมาสาย ไม่เคยลาหยุด ทำงานตามหน้าที่ได้ดีมาก เที่ยงตรง มีสมาธิ อดีตเด็กดาวน์หล่านี้ ล้วนมีพ่อ แม่อยู่เบื้องหลัง เป็นผู้ทีภูมิใจ ในความสามารถตามที่ลูกเป็นและยิ่งใหญ่ในความรู้สึกพ่อแม่เสมอ
จบการบรรยาย ฉันเข้าไปกล่าวขอบคุณหมอ ที่มาเล่าเรื่องการทำงานที่ประทับใจมาก ฉันรู้สึกเลยว่า ตลอดชีวิตคุณหมอได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ ขึ้นอย่างมากมาย แต่ท่านก็บอกว่า
" จริงๆนะเราทำไปๆ
เราก็ค้นพบสิ่งที่เกินความคาดหมาย....”
แบบนี้ผมสรุปได้ว่ามีความสุขจากการทำงาน ย่อมดีกว่าความสุขเพราะงานเสร็จใช่ไหมครับคุณดอกแก้ว?
ผมเชื่อเหมือนกันครับว่าการเลี้ยงดูมีผล บางครั้งมากกว่าคุณสมบัติของเด็กตอนเกิดครับ
คะ คุณ นม.
.............................................
อันนี้จริงแท้เลยคะ ครั้งก่อนที่เด็กรักป่า มีโอกาสจัดค่ายศิลปะให้เด็กกลุ่มนี้ รู้สึกได้จริงๆ
คุณแว้บ สวัสดีคะ
ประเด็นนี้ก็น่าสนใจคะ การเลี้ยงดู มีผลมากกว่าคุณสมบัติตอนแรกเกิด
ท่าน อาจารย์หมอ เล่าให้ฟังเมื่อวานว่า มีคุณหมอสูติ
ท่านหนึ่งท่านก็มีลูก เป็นเด็กดาวน์ ท่านไม่ตรวจ ไม่เจาะ ไม่อยากรู้อะไรล่วงหน้า
สิ่งใดจะเกิด ก็เกิด และเป็นความรักจากพ่อ แม่ ทั้งสิ้น
และลูกของท่านก็ มีพัฒนาการที่ดีเป็นลำดับ
อาจารย์หมอ เล่า อย่างมีความสุขมากคะ ว่า ทีมหมอ หรือคนที่รู้จัก ชื่นชม ลูกคุณหมอท่านนี้มากว่า วาดรูป จนได้รับการแสดงงาน ที่ สยามซิตี้
เราฟังเราก็ชื่นชมคะ
สวัสดีค่ะ
"หลานชายฉันเป็นดาวน์ซินโดรม" (เลียนแบบชื่อหนังสือแปลญี่ปุ่น "ลูกชายฉันเป็นดาวน์ซินโดรม")
หลานคนนี้ทำให้ป้ามีอารมณ์ดีขึ้นอย่างผิดสังเกตของเพื่อนร่วมงาน (แสดงว่า ตัวเองอารมณ์ไม่ดีอยู่บ่อยๆ) เขาชอบดนตรี และชอบจังหวะมาก พอได้ยินเสียงเพลงปุ๊บ ตัวจะโยกปั๊บ ขนาดทำกิจกรรมบำบัดอยู่ คุณครูเปิดเพลงไปด้วย เขายังโยกได้เลย ทำเอาใครๆ ขำกลิ้ง ส่วนจังหวะนั้น มาสังเกตตอนเล่นตีกลอง (ของเล่น) เขาดู แล้วทำตาม ทำยังไม่ได้ดี เขาคงรู้ว่าจังหวะไม่ใช่อย่างที่ได้ยิน เขาจับมือป้าให้ไปทำใหม่ แล้วตัวเองก็นั่งโยก พอป้าตีเสร็จ เขาก็ลองทำอีก
ปีใหม่ที่ผ่านมา เขาให้ของขวัญด้วยการเดินติดต่อกัน 8-9 ก้าว จากที่เขยิบทีละนิดทีละหน่อย
จริงอย่างที่เขียนนะคะว่า เด็กเรียนรู้ได้อย่างมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์ที่ค้นพบ ถือว่าเป็นรางวัลของคนทำงาน
น้องออต มาแล้วเหรอ ไปถล่มเล้าข้าวมาแล้ว งวดหน้า เจอกันหน่อยนะคะ
ส่วนใหญ่เราก็เป็นนักปฎิบัติกันอยู่แล้ว ทำไป หาความรู้ไป อย่างน้องออตนี่ เที่ยวไปชมงานศิลปะพื้นบ้าน มารวบรวม มาถ่ายทอด
ไปดูผ้ามาแล้ว แต่เวลาน้อยน่ะ
ใช่ วิทย์ ....แบบเพลงของเอี้ยวใช่มะ...ให้รักนำทาง
คนเราถ้าลองตั้งใจมั่นใจ ยอมรับ ก็เดินไปเรื่อยๆ เดินให้สนุก มันก็สนุกนะ
ขออนุญาติ เรียกป้านะคะ....เรื่องเล่า มีคุณค่ามากคะ เห็นภาพความสุขเลยคะ เด็กๆโยกตัวพาเรา ผู้ใหญ่ หาจังหวะเพลง เยี่ยมจริงๆเลยคะ
อยากฟัง ป้าต๊อก เล่าเรื่องหลานอีกคะ
หวัดดีคุณแผ่นดิน
สองวันนี้ มี นักศึกษาปี 4 นิเทศน์ศาสตร์ มมส. มาเด็กรักปาทำวิจัยที่เด็กรักป่า ด้วยคะ รายงานกองกิจฯ