เมื่อวานผมไปเที่ยว ม.เกษตรฯกำแพงแสน โดยจ่ายค่าเดินทางดังต่อไปนี้
อาหารที่ข้างอาคารเรียนรวม กับข้าว ๒ อย่าง ราคา ๑๕ บาท ขณะที่ มรภ.แห่งนี้ กับข้าว ๒ อย่าง ๒๐ บาท ผมคิดในใจเล่นๆว่า แสดงว่า ม.เกษตรฯกำแพงแสนจนกว่าเรา แล้วหัวเราะในใจ อันที่จริง ค่าที่ที่ มรภ.น่าจะแพงมิใช่ย่อยต่างหากกระมัง ผมดูป้ายค่าขนมหวาน ๖ บาท ขณะที่ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา ที่แห่งนี้เปลี่ยนคนขายขนมหวานไม่ซ้ำหน้ากัน ขายได้ไม่นานก็เปลี่ยนไป เจ้าหนึ่งขายถ้วยละ ๕ บาท ไม่นานก็จากไป ต่อมา ๗ บาท แล้วจากไป ล่าสุด ๑๐ บาทแล้วก็จากไปอีก ทุกวันนี้ที่ มรภ.จึงไม่มีแม่ค้าขายขนมหวาน
ผมดูนักศึกษาที่ ม.เกษตร กำแพงแสน ก็อดที่จะเล่าให้เพื่อนๆในวงอาหารตอนค่ำไม่ได้ เพราะผมเห็นเขาแต่งตัวโดยเฉพาะนักศึกษาหญิงกระโปรงกลีบบานเลยเข่า เสื้อก็ไม่ได้รัด (หรือว่าผมเข้าใจผิดก็ไม่รู้/หรืออาจเป็นว่าผมดูในวันที่นักศึกษาน้อยก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน) ทำให้วงสนทนามีบรรยากาศการคุยได้อรรถรสดีเหมือนกัน บางคนบอกว่า พยายามมากกับการแต่งกายของนักศึกษา อาจารย์หญิงท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า ไม่รู้มันจะฮิตกันไปถึงไหน ไอ้เสื้อรัดแล้วข้างในก็ใส่ยกทรงสีดำ ตลอดถึงการนุ่งสั้นเอามากๆ บางคนก็บอกว่า นักศึกษาเรามันก็อย่างนี้แหละ มันวุ่นอยู่แต่การแต่งตัว ส่วนการเรียนมันไม่ได้เรื่อง.....หลากหลายความคิดเห็น
ผมเห็นจักรยานและจักรยานยนต์เยอะมากที่ ม.เกษตรกำแพงแสน ทำให้ผมรู้สึกว่า อืมมดีเหมือนกัน เมื่อเปรียบเทียบกับ มรภ.จะไม่ค่อยเห็นรถจักรยานยนต์หรือจักรยาน มีอยู่ เพียงแต่ไม่มากขนาดนั้น บางคนอาจไม่อยากจะมีแม้แต่จักรยาน เพราะถูกขโมยอยู่บ่อย ก็ให้แปลกใจเหมือนกันว่า ที่ม.เกษตรกำแพงแสนนั้น ไม่มีขโมยหรืออย่างไร โดยเอาปริบทของผมเองเป็นตัวประเมิน ม.เกษตร
น่าอยู่ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะร่วมเงาของต้นไม้
ในฐานะศิษย์เก่ากำแพงแสน ได้อ่านได้เห็นภาพปัจจุบันของ "บ้านเก่า" ก็ดีใจค่ะ
ชอบมุมมองง่ายๆตรงไปตรงมาของอาจารย์เอกนะคะ นึกถึง รูปวาดด้วยพู่กันจีน (ซึ่งเราชอบ) ตวัดไม่กี่เส้น ได้ภาพ ได้อารมณ์ค่ะ