ครั้งแรกกับ iPod


iPod เครื่องเล่นเพลงที่ให้ได้มากกว่าการฟังเพลง และทำให้การฟังเพลงมีรสชาติมากยิ่งขึ้น
     ก่อนที่ผมจะมาใช้ iPod ผมใช้มือถือยี่ห้อหนึ่งในการฟังเพลง ซึ่งด้วยข้อจำกัดของการ์ดหน่วยความจำที่ขณะนั้นมีราคาแพงมาก เลยทำให้ฟังได้แค่ประมาณ 40 เพลง ซึ่งถ้าหากผมเดินทางไกลๆ ได้ไม่ถึงครึ่งทาง ผมก็ฟังเพลงหมดแล้ว จนผมได้ไปดูหนังเรื่องหนึ่ง ที่พระเอกเป็นสายลับเด็ก แล้วก็ใช้เจ้า iPod เป็นเครื่องเล่นเพลง ผมเจอมันในหนังแค่แว้ปเดียว ก็ถูกชะตาเจ้าเครื่องที่ว่านี้แล้ว ตอนแรกคิดว่ามีแค่ในหนัง แต่พอในไปลองหาในเน็ตดู ปรากฏว่าเจ้าเครื่องนี้มีจริงๆ แต่ราคามันสูงมากๆ ทำให้ในตอนนั้นผมทำได้แค่ ฝัน และหาข้อมูลของมัน เพื่อดูว่า เมื่อไหร่ ผมจะได้มีโอกาสใช้มัน ผ่านไปนานมาก จน iPod ออกมาไม่รู้กี่รุ่น ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อ เนื่องจากราคายังสูง จนวันนึง แอปเปิลได้เปิดตัว iPod รุ่นที่ทำเอาผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ หลงไหลในตัวเครื่องเล่นเพลงตัวนี้มาก นั่นคือ iPod นาโน ที่ทำได้บาง และความจุก็กำลังดี และด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก ผมเลยตัดสินใจซื้อมันมา... ^^ หลังจากเอาไปใช้งาน ผมว่า ผมคิดไม่ผิด ไว้วันหลัง ผมจะมาคุยต่อนะคร้าบ
คำสำคัญ (Tags): #ipod
หมายเลขบันทึก: 77255เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2007 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 12:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ดีค่ะกำลังจะชื้อให้หลานอยู่พอดี แต่ติที่แพงจัง(ในความรู้สึกของผู้จ่ายเงิน) อยากจะเปรียบเทียบกับหลายๆยี่ห้อ เป็นข้อมูลที่น่าสนใจค่ะ

 

หวัดดีครับ ผมก็สนใจไอพอดมานานมาก แต่ซื้อไม่ลงเพราะราคา เคยเอาของเพื่อนคนหนึ่งมาฟังก็ชอบใจเสียงที่เพราะดี  แต่เวลาที่ไปทีร้านขาย ถามผู้ขายว่าลงเพลงเป็น audio file เลยได้ไหม เขากลับตอบไม่ได้ เพราะผมคิดว่าถ้าเราซื้อแพง แล้วใส่ audio file น่าจะเพราะกว่ามาเล่น mp3 ก็เลยไม่ซื้อ  ต่อมามีคนบอกว่าเครื่องเป็นรอยง่าย  และในราคาที่ถูกกว่าจะมีหลายยี้ห้อที่ทำงานได้มากกว่า   ระหว่างนั้นก็ซื้อเครื่องที่ถูกๆมา 4 เครื่องแล้ว ฟังเครื่องไหนก็เพราะดี ทำให้ความต้องการไอพอดลดลงไปเรื่อย ประกอบกับคิดว่าเขาให้อุปกรณ์ไม่ครบ เช่นจะอัดไฟก็ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ หรือต้องซื้อ wall charger เพิ่ม ก็คิดว่าเขาเอาเปรียบลูกค้าไปหน่อย   เลยยังไม่ได้ซื้อแพงเสียที  เพราะคิดว่าคุณค่าแท้ (ของการฟังเพลง) คำตอบอาจจะไม่ได้อยู่ที่ไอพอดอย่างเดียวครับ

ในนี้มีทั้งความรู้สึกและคำถาม ถ้าจะกรุณาเฉลยให้บ้างก็ดีครับ

มีน้องในที่ทำงานมาเล่าถึงเจ้า iPod ให้ฟังเนื่องจากสามีของน้องหนูทำงานเกี่ยวกับระบบไอทีผมก็รู้สึกตื่นเต้นกับเทคโนโลยีของเครื่องนี้แต่อย่างว่าราคาค่อนข้างแพงเลยระงับใจตัวเองถึงการถามหาคุณค่าแท้คุณค่าเทียมในรูปแบบความคิดเห็นอาจารย์นายแพทย์สาโรจน์ ผมเลยใคร่ขอความรู้เพิ่มเติมกับเจ้า iPod เพิ่มเติมครับ รบกวนแนะนำด้วยนะครับ ขอแสดงความขอบคุณมาในที่นี้ด้วย

เอิ๊กส์ๆ ดีใจมากมายที่วันนี้ได้มาอ่านblogของสุดหล่อเอกคอมในวันนี้ อิอิ รู้สึกว่ายาจะหลงไหลกะพวกนี้มาตั้งแต่เรารู้จักกันแล้วนะ คราวนี้คงจะถูกใจอย่างมากละสิ ไม่เหมือนกับมือถืออันก่อนที่บ่นใส่หูให้ฟังมาตลอด ถ้ามีโอกาสจะขอความรู้เกี่ยวกับiPod นะ จะไมความรู้สึกแบบซาการียามั่ง เขียนบ่อยๆนะ เค้าจะเข้ามาอ่านอีก เป็นกำลังใจให้นะ Chicken ที่รัก
ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น ตอนนี้ผมเพิ่งกลับมาจากทำงาน ไว้คืนนี้ผมจะเขียนต่อถึง iPod นะครับ และสำหรับหนูอิมสุดสวย ตอนนี้ทำอะไร อยู่ที่ไหน ติดต่อมาบ้างนะ คิดถึงเพื่อนๆ เอกคอมทุกๆ คนเลย ^^

สวัสดีครับ มาต่อกันละกัน เท่าที่ได้อ่านดูก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ iPod ครับก็ปกติ เพราะ iPod ก็ไม่ได้ดีไปซะทุกอย่าง ข้อเสียมันก็มี แถมบางอย่างมันสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้เลย งั้นเริ่มจากต้องอธิบายก่อนว่า ปัจจุบันเครื่องเล่นเพลงมีมากมายหลายแบบ หลายยี่ห้อ สำหรับคนที่ซื้อมาจากร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายถูกต้อง และเป็นของจริง เช่น Creative Samsung iRever ฯลฯ ของพวกนี้คุณภาพเค้าก็ดีอยู่แล้วครับ แต่มันจะมีของในตลาดมืดอ่ะครับ ที่ทำออกมาเลียนแบบ อันนี้น่ากลัว ราคาก็ถูกกว่า แต่เอามาใช้ได้ประมาณ 3 เดือนก็เจ้งแล้วครับ ผมโดนมาแล้ว เรื่องต่อมา ที่ทำให้ผมเลือก iPod ก็เพราะว่า ผมชอบผลิตภัณฑ์ของ Mac เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ดูได้ใน http://www.apple.com) ผมว่าดีไซน์มันสวยดี ก่อนซื้อผมก็ได้ทำการศึกษาข้อมูลมาอย่างดีครับ ว่ามันใช้งานยังไง ถ่ายโอนเพลงยังไง ใช้เพลงในรูปแบบใดได้บ้าง นอกจากฟังเพลง มันทำอะไรได้อีกบ้าง ผมจะสรุปข้อดีของ iPod เป็นข้อๆ ดังนี้นะครับ
     - การใช้งานผ่าน click wheel ของ iPod ทำได้ง่ายมาก และถูกต้องตามหลักสรีระของข้อมือมนุษย์ คือหมุนเป็นวงกลม ทำให้เวลาหาเพลง ทำได้รวดเร็ว และง่ายดาย (คิดถึง iPod ที่สามารถจุเพลงได้เป็นพันๆ เพลง ถ้าเกิดต้องกดหาทีละเพลง คงจะเจ็บนิ้วน่าดูชม)
     -การถ่ายโอนเพลงไปยัง iPod สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วยโปรแกรมฟังเพลงสุดฉลาดอย่าง iTunes (http://www.apple.com/itunes/) โดยผมได้เลยว่า iPod กับ iTunes เป็นสามี-ภรรยากัน เพราะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ iTunes สามารถจัดการเพลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ การใส่รายละเอียดเพลง เช่น นักร้อง อัลบั้ม หน้าปกซีดี ประเภท เนื้อร้อง นอกจากนี้ ข้อมูลต่างๆ ที่เราใส่ใน iTunes จะไปอยู่ใน iPod ทุกอย่าง และยังสามารถสร้างรายการเพลงสำหรับเลือกเพลงที่เราชอบมาไว้ด้วยกันได้อีกด้วย นอกจากเราจะเลือกเพลงเองได้แล้ว เรายังสามารถตั้งให้ iTunes หาเพลงด้วยตัวมันเองได้อีกด้วย เรียกว่า Smart Playlist ซึ่งไม่มีในโปรแกรมอื่น เช่น ให้มันทำการเลือกเฉพาะเพลงที่เล่นบ่อยที่สุด เพลงที่เราให้ดาว 4 ดาวขึ้นไป (ขณะฟังเพลงกับ iPod สามารถให้ดาวเพลงได้ด้วย และเมื่อเราเชื่อม iPod กับ iTunes เพลงก็จะถูกอัพเดทให้มีดาวอัตโนมัติด้วย) แค่นี้ก็อำนวยความสะดวกกับเราเป็นอย่างมากแล้วครับ และที่สำคัญ ความเร็วในการโอนเพลงจากคอมมาสู่ iPod ทำได้เร็วมาก เร็วกว่าการ copy แล้วไป paste ไว้ในเครื่องเล่นอื่นๆ อีก 
     -พูดถึงการโอนเพลงลง iPod ต้องใช้ iTunes เท่านั้น ฟังดูไม่อิสระ ใช่ครับ แต่ว่า หากเรา copy เพลงจากคอมประมาณ 2000 เพลง ไปยังเครื่องเล่น โดยที่ไม่ได้มีการแยกประเภท นักร้อง อัลบั้ม คิดถึงเวลาฟังสิครับ ว่าเราคงจะมั่วน่าดู คงต้องฟังแบบสุ่มๆ ไป ทำให้การฟังเพลงบนเครื่องไม่เหมือนกับบนคอม อีกอย่างเรื่องของ audio file นั้น ผมจะบอกว่า iPod สามารถฟังได้ โดยใช้ความสามารถของ iTunes ทำให้ได้คุณภาพดีเหมือนซีดีเลยครับ
     -สุดท้ายสำหรับคืนนี้ สิ่งที่ทำให้ iPod เหนือกว่าชาวบ้านก็คือ เราสามารถสร้าง Playlist ขณะฟังเพลงบน iPod ได้อีกด้วย เรียกว่า On-the-Go Playlist ทำให้เราเลือกเพลงเฉพาะเพลงที่เราต้องการฟัง ไว้ฟังได้ขณะไม่ได้ใช้คอมได้

     นี่แค่เล็กๆ น้อยๆ นะครับ ไว้วันหลังผมมาคุยอีก สำหรับใครสนใจก็สามารถไปหาข้อมูลได้ตามเว็ปต่างๆ ดังนี้ครับ http://www.siampod.com , http://www.thaiipod.net , http://www.ipod2play.com , และ http://www.apple.com/ipod แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ครับผม

ตอนที่ผมหาเครื่องเล่นMP3 สักเครื่องนึงก็วุ่นวายกับการไปอ่าน Review ของต่างประเทศมาเยอะมากๆ เพราะอยากจะได้เครื่องเล่นที่ประหยัดไฟ ใช้ได้นาน ๆ เพราะต้องออกเดินทางบ่อย และที่สำคัญที่สุด ก็แน่นอนต้องเป็นเรื่องของคุณภาพเสียง และ interface ของโปรแกรม ที่ใช้งานต้องง่ายและตอบสนองความต้องการเราได้ดี แต่โชคดีที่เพื่อนของผมเอง มีIpod ไว้ในครอบครองหลายรุ่น จึงสามารถที่จะทดสอบคุณภาพด้วยตัวเองได้จากการยืม เลยตัดสินใจที่จะถอย IRIVER T10 + Creative EP880, Creative EP630 (ซะงั้น อิอิ) ถ้าใครยังไม่เคยรู้จัก Brand นี้ก็อยากให้ไปอ่านรีวิว หรือถ้ามีเพื่อนที่รู้จักลองยืมฟังดู แล้วจะติดใจนะครับ

เรืื่องราคาถ้าเทียบแบบ กิ๊กต่อกิ๊ก กับยี่ห้ออื่นไอพอดถูกกว่าเยอะครับ (อย่าเทียบฟังก์ชั่นล่ะ...ฮา) ส่วนที่ว่าทำไมไอพอดมันถึงดูเหมือนแพงก็เพราะเรื่องฟังก์ชั่นนี่ล่ะที่ไม่ค่อยจะมีเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้า แต่อย่างที่ด้านบนบอกไปคือมันง่ายในการใช้งานมาก ๆ แถมมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกซื้อเยอะมาก

ส่วนบางคนอาจยังสงสัยอยู่ว่าทำไมต้องทำอะไรผ่าน iTunes เพียงอย่างเดียวแถมเอาไปต่อกับเครื่องคอมเครื่องอื่นก็ดึงเพลงออกไปไม่ได้ ไม่เหมือนกับทั่วไปที่นำเพลงเข้า-ออกได้ง่ายกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แอปเปิ้ลต้องทำเพราะเป็นการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงครับ
ขอท้าชนคนที่คิดว่าแน่จริงเรื่องmp3

คือแล้วแต่คนชอบแล้วกัน เพราะว่าบางคนก็แค่ตามกระแส เป็นแฟชัน อย่างไอริเวอร์ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นใครว่าเป็นของดีจนเกินหน้าเกินตา แต่พอเจ๊งแล้วบิลเกตไปเทคโอเวอร์มา แล้วเอาไปพูดว่าเป็นสินค้าคุณภาพบนเวทีการประชุม เท่านแหละแหม ไครก็ว่าดีขึ้นมาเชียว อย่างไอพอดเหมือนกัน เวลาเพื่อนผมจะไปซื่อmp3ก็จะแนะนำว่าipodซิ เสียงดี แต่ผมถามว่าเคยฟังยัง ก็จะตอบยังเค้าบอกมาว่าเสียงดี ก็นานาจิตตังครับเรืองแบบนี้เป็นอุปาทานหมู่ครับ ใครที่คิดว่าเจ๋งเรื่องmp3จนถึงขนาดแนะนำให้คนอื่นไปซื้อผมอยากจะบอกว่าเชื่อบ้างพอเป็นทำเนาครับ เพราะว่าก็ไม่ใช่หูระดับเทพมาจากไหน ก็แค่คนเคยซื้อบางยี่ห้อเพราะชอบดีไซด์ความที่ว่าซื้อมาแพงก็เลยคิดเอาเองว่าเสียงดี พวกนี้ก็มีแยอะครับ คุณเคยฟังไอริฟเวอร์หรือยัง เคยฟังครีเอทีฟหรือยัง เคยฟังโซนี ซัมซุงหรือยังก่อนไปตัดสิน โดยเฉพาะการไปเทียบความจุ แล้วบอกว่าอันไหนคุ้มไม่คุ้ม แหมคุณเดี๋ยวนี้เค้าเอาปริมาณกันแล้วไม่เอาคุณภาพเลย บอกอย่างนี้เดี๋ยวจะเคืองกันหลายคน มันจะอะไรนักหนาอยู่ที่หูเราเป็นสำคัญ เอาหละใครซื้ออันไหนก็ต้องบอกของตัวดีทั้งนั้นแหละ เข้าประเด็นเลยดีกว่า และมีคำถามจะถามเจ้าของblogด้วย1.ถ้าคุณอยากฟังได้นานๆ คุณคิดว่าไอพอดเล่นได้นานสุดแล้วเหรอ ไอพอดเล่นได้นาน24ชม.แต่มียี่ห้ออื่นที่ฟังได้นาน50ชม.นั่นก็คือSONY WALKMAN 2.คุณคิดว่าเวลาโหลดเพลงผ่านไอจูนแล้วมันก็ยังเป็นไฟล์เดิมอยู่ แล้วเสียงมันจะดีกว่าเดิมได้อย่างไรเพราะขนาดไฟล์ก็เท่าเดิม มันดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีอะไร คุณมาพูดว่ามันดีขึ้นเฉยๆใครก็พูดได้ เดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าคุณก็แค่อยากอวดว่าคุณมีของแพง ถ้าไม่รู้จะเฉลยให้เดี๋ยวจะหาว่าอวดเก่ง มันก็แค่ทำเพื่อล็อคไม่ให้โหลดต่อได้อีก แต่ที่เสียงจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเสียงด้วย บวกกับเทคโนโลยีที่มีให้ด้วย ก็บอกแล้วว่านานาจิตตังแต่บางเรื่องมีหลักฐานที่มาที่ไป ความชอบมันก็อีกเรื่อง จบแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวจะมีคนหมันไส้แยอะแค่นี้ก็คงมีคนอยากตอบโต้แยะละมั้ง อยากว่าคนมันชอบใครก็ว่าไม่ได้

กลับมาอีกครั้งกับขอท้าชนคนที่คิดว่าแน่เรื่องmp3

ใครที่อยากลองของหรืออยากลองภูมิเรื่องmp3ถามมาใด้เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท