คนพันธ์ S : ลุยสวนป่า..วันที่สาม.คำตอบ..
หลังจากที่ตั้งคำถาม พื่อการเรียนรู้ให้ “คนพันธ์ S” ซึ่งเป็นผู้เรียนในครั้งนี้ ได้เรียนรู้ก่อนการทำงานก็ได้ให้ ผู้เรียนทั้งหมดแบ่งกลุ่มเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อหาคำตอบครับ...คำถามมีอยู่ 3 ข้อครับ..·
1. ทำไมต้องเรียนรู้ ·
2. เหตุการณ์ที่สำคัญในชีวิต
3 .ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้น
หลังจากให้เวลาหาคำตอบกันประมาณ 30 นาที แต่ละกลุ่มก็ได้คำตอบที่ผมสรุปรวบยอดมาได้ดังนี้ครับ
1. เรียนรู้เพื่อความอยู่รอด
2. เรียนรู้เพื่อทันกับการเปลี่ยนแปลง
3. เรียนรู้เพื่อการหาสิ่งใหม่ ความรู้ใหม่ให้กับชีวิต
4. เรียนรู้เพื่อรู้จักตนเอง และ พัฒนาตนเอง
5. เรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพิ่มโอกาสให้กับตนเอง
6. เรียนรู้เพื่อความหลุดพ้นจาก ความจำเจ ความทุกข์ ความลำบาก
7. เรียนรู้เพื่อสั่งสมประสบการณ์
8. เรียนรู้เพื่อตอบสนองความอยากรู้ ความต้องการความสุขของตนเอง
9. เรียนรู้เพื่อป้องกันการผิดซ้ำ
10. เรียนรู้เพื่อพิสูจน์ปัญหาคาใจ
บรรยากาศในการเรียนรู้ของคนพันธ์ S เช้าวันนี้ มีครบทุกรูปแบบครับ ครบอย่างไร..ก็คือเราได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อระดมหาคำตอบตามคำถามเบื้องต้น มาดูบรรยากาศของแต่ละกลุ่มกันนะครับ
กลุ่มที่ 1: กลุ่มผู้เรียน คละกันครับมีทุกรุ่น แก่ หนุ่ม ปานกลาง บรรยากาศของกลุ่มนี้สนุกสนาน ช่วยกันออกความคิดเห็น รับฟังกันมาก ใครพูดอะไรมาก็ช่วยกันเสริมต่อยอด หรือถ้ามีการไม่เห็นด้วยก็จะ ให้เหตุผลกัน กลุ่มนี้สามารถระดมความคิดเห็นและหาคำตอบได้เยอะมาก..และตลอดเวลาจะมีแต่เสียงหัวเราะครึกครื้น เป็นกันเอง.
..กลุ่มที่ 2: กลุ่มผู้เรียน ก็คละกันครบทุกวัย ทุกรุ่น แต่บรรยากาศคุยกันน้อยกว่ากลุ่มแรก บางคนก็ไม่พูดเลย บางคนก็พูดมากเกิน กลุ่มที่สองนี้ ระดมความคิดได้น้อยกว่ากลุ่มแรกครับ
กลุ่มที่ 3: มีผู้เรียน 2 วัยครับ วัยสูงอายุกับวัยแรกรุ่น เป็นน้องใหม่พึ่งเข้างานได้ไม่ถึงปี บรรยากาศกลุ่มนี้ค่อนข้างตึงเครียดครับ เนื่องจากเหตุการณ์ที่พูดถึงกันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องใหม่ พี่ๆก็พยายามถาม วิเคราะห์เหตุการณ์ แต่น้องใหม่เกิดอารมณ์ บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม คนอื่นไม่ต้องรู้ก็ได้ถึงเวลา ผมจะเล่าเอง” เท่านั้นแหละครับ บรรยากาศของกลุ่มนี้เงียบ รุ่นพี่ก็นั่งเงียบ รุ่นน้องก็เขียนคนเดียว สุดท้าย กลุ่มนี้ได้คำตอบเพียง คำถามละ 1 ข้อเท่านั้นครับ
ได้เห็นบรรยากาศทั้ง 3 กลุ่มแล้วเป็นยังไงบ้างลองคิดตามดูนะครับ สำหรับผม เห็นว่าเรื่อง บรรยากาศ เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆของการเรียนรู้ร่วมกัน หากบรรยากาศดีแล้ว การเปิดใจ ก็จะตามมา
หลังจากจบ workshop นี้ ผมและทีมคุณอำนวย เริ่มปรับกระบวนทัพ ทันที่ครับ ด้วยการสลายกลุ่ม ใหม่ (แต่ทำแบบไม่ให้รู้ตัวนะครับ) คืออย่างนี้ครับ พอหลังจากจบ workshop แล้วเราจะแบ่งกลุ่มเรียนรู้จากการทำงานกัน ก็เลยบอกกับกลุ่มผู้เรียนว่า ลองๆเปลี่ยนกลุ่มดูบ้างจะได้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งก็มีการสลับสับเปลี่ยนกันพอสมควร ผลจะเป็นอย่างไร ช่วงเย็นคงจะได้รู้กันล่ะครับ
จากเหตุณการนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อีกว่า การเป็น คุณอำนวย ต้องไวต่อเหตุการณ์ และ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เร็วและแนบเนียน และที่สำคัญคุณอำนวย ไม่ควรมุ่งหวังแต่ผลลัพธ์เฉพาะเรื่อง บางครั้งแต่ละสถานการณ์อยากได้เรื่องหนึ่ง แต่ถ้ามีประเด็นที่ด่นกว่าที่เห้นได้ชัดในขณะนั้นก็ต้องจับต้องคว้า มาสรุปหรือมาเชื่อมโยง ให้เห็นกัน ครับ
วันนี้ที่สวนป่า ยังมีบทเรียนให้เราได้เรียนอีกมากมายครับ บรรยากาศก็เริ่มคึกคักมากขึ้น ผมได้เห็น พลังของเครือข่าย KM ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน หรือพึ่งมารู้จักกันวันนี้ แต่ด้วยพลังก็สามารถกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะนี้เท่าที่เห็นก็มี อาจารย์และน้องจากเม็กดำ มาล้างบ่อปลา และปรับทัศนียภาพ ,นักศึกษาบูรณาการศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบล ก็กำลังขมักเขม้นเตรียมการในส่วนของพิธีการ. คนพันธ์ S ก็ลุยตกแต่งบริเวณบ้าน , ที่สำคัญแม่ครัวครับ ตั้งแต่เช้ายังไม่หยุดมือกันเลย เร่งทำอาหารที่แสนอร่อย ให้พวกเรารับประทานกัน นอกจากนั้นยังมีอีกหลายๆท่านครับ ที่เริ่มมุ่งหน้าสู่สวนป่ากัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน เป็นใคร พวกเราล้วนแล้วแต่มีจุดหมายเดียวกันครับคือร่วมกัน “ เป็นแรงผลักดัน KM ให้ทั่วถึงทุกหย่อมหญ้าของสังคมไทย” ครับ
ความเห็น (9)
- ท่าทางเยี่ยมเลยครับ
- เริ่มสลายกลุ่มเดิมจะได้ผลดีครับ
- ค่อยๆทำ
- มาให้กำลังใจครับผม
ตามอ่านทุกตัวอักษร.....อ่านแล้วได้พลังจังค่ะ....ขอบคุณค่ะ
งานนี้ ถ้าตามอ่านทุกบันทึกที่คุณภูคา เล่ามา เผลอ ๆ พวกเรากลายเป็นคนพันธ์ S ด้วยอีกคน จะทำไงค่ะเนี่ย
- เหมือนคุณเมตตาค่ะ อ่านแล้วได้พลังเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
- คุณแป๊ดขา แต่พี่หนิงอ่ะคนพันธุ์ XL แล้วค่ะ
อิอิ
คุณภูคา ค่ะ ขออนุญาตนะคะ
คุณหนิง ค่ะ ทำเอาดิฉัน หุบยิ้มไม่ทันเลยค่ะ เจอคนรู้ทันแบบนี้ รักกันตายเลย
- มาทักทายครับ
- เป็นอย่างไรบ้าง
