พักหลังดูเหมือนว่าผมจะโดนแซวจากพี่น้องผองเพื่อนชาว G2K ว่ากำลังอยู่ในช่วง INLOVE หรือแม้แต่ “นายโรแมนซ์” เพราะดูจากบันทึกช่วงหลังนี้หลายบันทึกโน้มเอียงไปในเรื่องความรักอยู่บ่อยครั้ง ความดุดัน ข้นแข็งของบันทึกดูจะหดหายและเบาบางลงไปไม่ใช่น้อย ...
แรก ๆ ก็ไม่หวั่นไหวกับคำท้วงทัก หรือแม้แต่คำทักเล่นของบรรดากัลยาณมิตรทั้งหลายนัก แต่ถี่ครั้งเข้าก็อดที่จะหันมาสำรวจตรวจค้นภาวะตัวเองไม่ได้ว่า บัดนี้ เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองหรือเปล่า ? หรือซุ่มซ่ามทานยาผิดร้านผิดหมอเสียแล้ว หรือ ?
จนบัดนี้ก็ไม่กล้าหยั่งรู้ว่าตนเองแท้ที่จริงเป็นคนโรแมนติคหรือเปล่า เรื่องพรรค์นี้คงต้องถามคนรอบข้างกระมัง ! แต่รู้ว่าเบื้องลึกนั้นผมมีความอ่อนไหวราวกับหญิงสาว แต่บางคราวก็ดูขรึมเคร่งเหมือนภูผา และเย็นชาราวกับทะเลน้ำแข็ง
แต่ขอให้เชื่อผมอยู่อย่างหนึ่งเถอะ เราต่างอ่อนไหว ละเอียดอ่อน และโรแมนติค กันทุกคนนั่นแหละ เพราะนี่คือคุณสมบัติที่ธรรมชาติเสกสร้างไว้ในตัวตนของมนุษย์โลก...
ตอนแรกก็แปลกใจไม่น้อยว่าเหตุใดตัวเองจึงเขียนบันทึกในแนวรัก ๆ ติดต่อกัน ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่นำมาเขียนก็เป็นเรื่องความรักของคนอื่นทั้งนั้นเลย ทั้งที่พบเห็นโดยห่าง ๆ และทั้งที่เดินทางเข้ามาให้เราได้ร่วมรับรู้ รับฟัง และร่วมแก้ปัญหาในแบบชนิด “ร่วมด้วยช่วยกัน”
ผมใช้เวลาไม่นานนัก, ก็บรรลุซึ่งที่มาที่ไปอันเป็นแรงจูงใจในการนำเรื่องเหล่านี้มาบันทึกเล่าอย่างไม่เขินอาย ไม่มีอะไรมากนอกจากในห้วงเวลาที่ผ่านมาเกือบทั้งเดือน ชีวิตผมดูหน่วงหนักและเหน็ดเหนื่อยกับงานใหม่ที่ตนต้องบริหารจัดการ และยิ่งช่วงไม่นานนี้ก็ยังต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่กับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยฯ ยาวนานร่วม 2 สัปดาห์ ! และช่วงนี้ผมจึงรู้สึกราวกับว่าชีวิตกำลังถูกถมทับด้วยตะกอนดินหินทรายจากภูผาสูงที่ทยอยพังครืนลงมาสุมทับผมอยู่เป็นระยะ ๆ
กอปรกับเป็นห้วงเวลาที่ผมต้อง “ห่างบ้านต่างถิ่น” ... ต่างฟูก ต่างหมอน ต่างอาหาร และที่สำคัญคือห่างจากสรรพเสียงของคนในบ้านที่ผมรักและคุ้นเคย โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อย “แผ่นดิน” และ “แดนไท” ผมรัก คิดถึงและเป็นห่วงคนทั้งสองเป็นที่สุด
ซ้ำร้ายในวันที่ผมพร้อมเพื่อนชีวิตต้องเดินทางไปราชการนั้น ทั้งสองก็พลอยเป็นไข้พร้อม ๆ กัน แต่ก็ยินยอมที่จะอยู่กับย่าอย่างไม่งอแง กระนั้นทั้งสองคนก็ต้องขาดเรียนเพราะอาการป่วยนานร่วมสัปดาห์
นั่นแหละครับ คือ ห้วงเวลาอันหน่วงหนักและอ่อนล้าสำหรับผม แต่ต้องแข็งขืนสู้กับภาวะอ่อนล้านั้นอย่างไม่ลดละ และท่ามกลางห้วงอันอ่อนล้านั้น ผมก็รู้ดีเช่นกันว่าการทำงาน คือ การเยียวยาความเข้มแข็งให้พลิกฟื้นกลับมาอยู่ในตัวตนของผม !
ทันทีที่พาตัวเองกลับถึงมหาสารคามและกลับมาซุกตัวนอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเก่าในบ้าน วิ่งเล่นและพลีร่างกายเป็นเครื่องเล่นของเจ้าตัวน้อยทั้งสอง ก็ยิ่งช่วยให้ความหน่วงหนักทั้งหลายถูกขับส่งออกจากตัวเราอย่างทันทีทันใด และทันใจเป็นที่สุด
ช่วงนี้จึงก่อเกิดภาวะที่รื่นรมย์ ไม่อยากเขียนเรื่องแนวคิดหนัก ๆ เข้ม ๆ ... ยังผลให้เขียนเรื่องรักสบาย ๆ เป็นการให้รางวัลกับชีวิตของเราเองอย่างไม่รู้ตัว
อันที่จริงเมื่อคราวต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค หรือแม้แต่เป็นห้วงที่ชีวิตกำลังอ่อนล้าโรยแรง แน่นอน, ผมย่อมปรารถนากำลังใจจากคนรอบข้างเสมอ แต่ผมก็จะไม่ลืมที่จะเริ่มต้นให้กำลังใจกับตัวเองเป็นอันดับแรก ...และบอกกับตนเองเสมอว่า “พรุ่งนี้วันใหม่ยังมี” หรือไม่ก็ “พรุ่งนี้วันใหม่กำลังมา”
นี่ก็เช่นกัน, คือ บทกวีที่ผมเขียนขึ้นเพียงเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตนเองให้ห้วงแห่งความหน่วงหนักของชีวิต
ให้ผมได้เขียนเรื่องรัก ๆ โรแมนติคอีกสักวันนะครับ... เพื่อเป็นรางวัลชีวิตให้กับตัวเอง เป็นการตอกย้ำว่า ชีวิตจำเป็นอย่างยิ่งกับการต้องเรียนรู้ที่จะปลอบใจตัวเอง ยืนหยัดด้วยตัวเอง พร้อม ๆ กับการเรียนรู้ที่จะเป็นที่พึ่งพิงของคนอื่น
ลองอ่านดูอีกสักบันทึกนะครับ... ส่วนเรื่องที่ว่าผมเป็นคนโรแมนติคหรือไม่นั้น... ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ ผมไม่ใช่นักรักที่เจนถนนรักเป็นแน่ ถ้าเจนจัดกับการพรากรักนั้น...นับไม่ถ้วน ....
พักหน่อยเถอะนะคนดี
พรุ่งนี้ยังคงมีหวัง
วันนี้ที่เธอเผลอพลั้ง
อย่าเกี่ยวเก็บจำ ฝังใจ
วันนี้อาจเศร้าสับสน
ทุกข์ทนเสียจนหม่นไหม้
อย่าจริงเสียจนเสียใจ
พักก่อนให้หายร้าวราน
พักหน่อยเถอะนะคนดี
ฟังสายนทีแว่วหวาน
ท่องทุ่งดอกไม้ตระการ
ล่องธารชมผา นาดร
ท้องฟ้ายังมี สีฟ้า
แผ่นดินมารดาอุ่นอ่อน
สายลมบรรเลงเพลงพร
ดับร้อนเคี่ยวฝัน ปันแรง
พักหน่อยเถอะนะคนดี
ชีวิตยังมีวันใหม่
ขอเพียงวาดหวังตั้งใจ
พรุ่งนี้ไม่สายเกินรอ
(พรุ่งนี้วันใหม่กำลังมา..)
สำหรับบันทึกที่กัลยาณมิตรทักแซวว่า ดุดัน เคร่งขรึมนั้น เอาไว้ให้ชีวิตได้เสพรางวัลชีวิตให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อน, แล้วค่อยว่ากันนะครับ
แยกชีวิตออกเป็นส่วนๆเลยครับ ปะปนกันไปอย่างเป็นธรรมชาตินั้นดีที่สุด หากเรื่องหนึ่งเรื่องมีทั้ง ดุดัน อ่อนไหว และมีอารมณ์แทรกสอดอยู่ในนั้น ผมว่าคุณแผ่นดินทำได้ และทำได้ไม่ยาก บันทึกที่ผ่านๆมาก็เป็นเช่นนั้น
ผมรับรู้ถึงความเป็นคน เป็นตัวตน ที่ชัดเจนของคุณแผ่นดินจากบันทึก ทำให้กล้าพอที่จะเขียนตรงๆ เขียนเพื่อสื่อสารระหว่างกันถึงกันโดยไม่ลังเล
บันทึกที่โลกแล่นในโลกเสมือนแห่งนี้ เป็นชีวิตครับ ยิ่งหากได้เขียนชีวิตผ่านบันทึกที่เป็นตัวของตัวเอง ผมว่า จะบันทึกได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ...และโต้ตอบกับมวลมิตรอย่างสุขใจ
ฝากความระลึกถึง "แผ่นดิน" กับ "แดนไท" ผมหลับตานึกถึงเด็กชายสองคนที่น่ารัก แสนซนเหลือประมาณ
ชีวิตของเจ้าของบันทึก...มีความสุข และมีสีสรร น่าอิจฉาครับ
ให้กำลังใจครับผม
เห็นด้วยกับคุณเอก..และเชื่อเช่นนั้นค่ะ..."หลอมรวมชีวิตเป็นหนึ่งเดียว"....ที่เราทุกข์กันทุกวันนี้เพราะเราพยายามแยกส่วน...อย่างรู้ไม่เท่าทัน...ว่าชีวิตนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว คือ ดวงจิต...แห่งตนเรา...
...
เคล็กลับอย่างหนึ่งที่กะปุ๋มใช้เสมอ..คือ ให้โอกาสตนเอง...ไม่พลาดที่จะเข้าไปสวมกอดเด็กน้อย..น้อย..เพราะดวงจิตเขานั้นบริสุทธิ์ยิ่งนัก...เสมือนเป็นยาที่วิเศษที่สามารถเยียวยา...ดวงจิตที่เหนื่อยล้าของผู้ใหญ่ได้ดีนักเชียว...
แวะมากำลังจะเข้านอนค่ะ...นาฬิกาชีวิตให้เวลานี้คือเวลาที่ต้องนอน..ด้วยความถนอม "ชีวิต"...ที่เราอาศัยร่างกายนี้อยู่ค่ะ...
(^_________^)
กะปุ๋ม
น่าจะลองเอาไปทำเพลงนะครับ
ขอแก้ไข
แยกชีวิตออกเป็นส่วนๆเลยครับ ปะปนกันไปอย่างเป็นธรรมชาตินั้นดีที่สุด
เป็น
ให้หลอมรวมกันอย่าแยกชีวิตออกเป็นส่วนๆเลยครับ ปะปนกันไปอย่างเป็นธรรมชาตินั้นดีที่สุด
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
มาเยี่ยม...เจอเรื่องรัก
ผมนึกจำมาเล่า...จากโต๊ะนักเรียน...
I LOVE YOU LOVE จริง ๆ NO กลิ้งกลอก
I NO หลอก ให้YOU ขวัญสลาย
I LOVE YOU จนกว่า I จะตาย
ถึง I ตาย ก็ไม่วาย I LOVE YOU ฮา ๆ เอิก ๆ
(แจ๊ค) กัมปนาท
|
จันเพ็ญ
|
ชอบบันทึกนี้ตรงที่ได้เห็นคุณแผ่นดินรอบด้านนะคะ คิดว่าโลก GotoKnow อยากให้เราใส่ทุกมิติของตัวเราลงไปนะคะ เรื่องหนักเรื่องเบาก็ตัวเราทั้งสิ้น
สำหรับตัวเองแล้ว การทำงานคือความสุข การได้พบ ได้พูดคุย ได้"เข้าถึง"ลูกคือการพักใจที่ดีที่สุดค่ะ ให้เวลากับเขาในวัยที่เขาต้องการเราเอาไว้เถิดค่ะ พอถึงวันที่เขาเป็นตัวเองเต็มที่แล้ว เราจะได้ไม่ต้องย้อนคิดเสียดายเมื่อสายไป
ขอบคุณสำหรับบทกวีที่อ่อนหวานค่ะ เพราะจริงๆ
เรียน คุณแผ่นดิน
ขออนุญาตเรียกนายโรแมนซ์ ตามคุณเมตตานะคะ
อบอุ่น แต่มั่นคงดังภูผา
สบตาพาใจให้หวั่นไหว
สาวเหนือ อีสาน หรือแดนใด
สุขใจ เมื่อได้อ่าน บันทึกคุณแผ่นดิน
ขอบพระคุณครับที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจ, และขออภัยที่ผมมาตอบบันทึกย้อนหลัง เนื่องจากเพิ่งมีโอกาสได้กลับมาอ่านอีกครั้ง
นน |
กุหลาบแดงแทนรักที่ปักอก
กุหลาบตกคือรักที่หล่นหาย
กุหลาบช้ำคือรักถูกทำลาย
กุหลาบตายคือรักที่จบลง
****ขอบคุณเน้อ*****
************อิอิ**
***********โชคดีนะ
สวัสดีค่ะพี่พนัส
ตามมาอ่านบทความ
แห่งรัก อิอิอิ
ขอให้มีความสุขไปนานๆนะคะ
^_^