ผมได้เขียนเรื่องการนำประเพณีมาเป็นการแสดงให้คนได้ดู โดยที่แปลกแยกออกมาจากวิถีชีวิต เมื่องานเลิก เลิกแสดง ก็หายไป จะกลับมาใหม่ปีละ 1 ครั้ง อย่างเช่นเทศกาลลอยกระทงในปัจจุบันที่จัดกันอย่างยาวนาน 5-10 วัน เพื่อดึงให้คนมาท่องเที่ยว โดยเขียนไว้ใน "ริมสายธาร ลานกระทงสาย"
เมื่อวานเย็นได้อ่านหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 ในคอลัมน์เมืองไทย ๒๕ น. โดยนายมหาเศรษฐี เขียนเรื่อง "ประเพณีมีไว้ขาย" ก็รู้สึกว่ามีความคิดคล้ายๆกัน จึงขออนุญาตนำมาเสนอในบล็อคนี้เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง
ประเพณีมีไว้ขาย
คอลัมน์
เมืองไทย๒๕น.
นายมหาเศรษฐี
คืนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
ที่เป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศว่าคือวันลอยกระทง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ใช้ประเพณีลอยกระทงเป็นสินค้าด้านการท่องเที่ยวหลักประจำปีอย่างหนึ่งเพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาชมกัน
เพราะจะว่าไปแล้ว
ถ้าตัดเอาเนื้อหาสาระออกไปแล้วพิศเพียงพิธีกรรมอย่างเดียว
เทศกาลลอยกระทงนั้นต้องถือว่ามีบรรยากาศโรแมนติกชวนฝันสำหรับคนหนุ่มสาวมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเพณีอื่น
เป็นบรรยากาศของคืนเดือนเพ็ญ
มีเทียนจุดไฟวะวิบบนกระทงลอยล่องไปตามกระแสน้ำโดยมีหนุ่มสาวเคียงคู่พนมมืออยู่บนฝั่งเป็นฉากซ้อนด้านหลัง
เลยกลายเป็นวันที่ถูกพวกนักประชดประชันตั้งชื่อให้ว่าคือวันแห่งการเสียตัวของหนุ่มสาวไปในที่สุด
แต่วันลอยกระทงปีนี้
ขอเตือนให้หนุ่มสาวทุกคนอย่าได้ลืมพกบัตรประชาชนไปด้วย
เพราะยามต้องปลีกเวลาไปเสียตัวตามโรงแรมม่านรูดอาจถูกเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายส่องหน้าพร้อมขอตรวจบัตรประชาชนมากเป็นพิเศษสักหน่อย
ด้วยท่านรัฐมนตรีวัฒนา เมืองสุข ให้นโยบายมา(ฮา)
เมื่อททท.ใช้ประเพณีที่สร้างขึ้นมาเป็นตัวสินค้าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
แผนการตลาดสารพัดก็เลยถูกกระจายออกมาเต็มไปหมด
อย่างปีนี้ให้มีประเพณีลอยกระทงเป็นพิเศษต่างจากจังหวัดอื่นหลายแห่ง
เช่น กรุงเทพมหานคร สุโขทัย เชียงใหม่ ตาก อยุธยา หาดใหญ่ ฯลฯ
และเพื่อให้มันดูยิ่งใหญ่อลังการสมกับความเป็นเทศกาล
กิจกรรมเสริมสารพันก็เลยถูกยัดเยียดเข้ามาให้เต็มตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
มีทั้งการละเล่นพื้นบ้าน การประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทง
การแสดงแสงสีเสียง ฯลฯ
ผลที่ตามมาจากการจัดงานเทศกาลลอยกระทงติดต่อกันหลายวัน
อย่างกรณีที่สุโขทัย 11-16 พฤศจิกายน, เชียงใหม่ เทศกาลยี่เป็ง 9-17
พฤศจิกายน ฯลฯ ความสำคัญของคืนเดือนเพ็ญขึ้น 12 ค่ำ
ก็เลยคลายความขลังลง กลายเป็นวันลอยกระทงมีได้หลายวัน
ใครจะลอยวันไหนก็ได้ตามแต่สะดวก
ผลจากการจัดกิจกรรมเสริมหลากหลายบรรจุเข้าไปในรายการแต่ละวัน
ก็เลยเกิดอาการมั่วในการรับรู้ขึ้นมา
จนไม่ทราบเหมือนกันว่าจุดหลักของประเพณีลอยกระทงมันคือกิจกรรมไหนกันแน่
ปีนี้
ททท.ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะแห่มาชมเทศกาลลอยกระทงทั่วไทยไว้อย่างไรไม่ทราบได้
แต่อย่าให้เหมือนตอนจัดเทศกาลรำลึกคลื่นยักษ์สึนามิถล่มไทยก็แล้วกัน
เพราะในครั้งนั้นตั้งตัวเลขในใจไว้ที่หลักแสน แต่ต่างชาติมาจริงแค่
400 เศษเอง ทั้งที่ททท.ให้บินฟรี พักฟรี
เที่ยวฟรีแล้วก็ตาม
ไม่มีความเห็น