“ธรรมนั่นเองย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมธรรมที่บุคคลตั้งใจประพฤติไว้อย่างดีย่อมนำสุขมาให้นี้เป็นผลดีในธรรมที่ประพฤติไว้อย่างดีแล้วดังนั้น ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ไปสู่ทุคติอย่างแน่นอน” <p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p> เราอาจเคยศึกษาความหมายของคำว่า “ธรรม” ทั้งในแนวลึกและมุมกว้าง ผู้รู้ได้ให้ความหมายไว้อย่างหลากหลายพร้อมด้วยหลักฐานทั้งทางตันติภาษาและปริบทของศัพท์ แต่หากมองง่ายๆ ในบทภาษิตนี้ คำว่า”ธรรม” ก็คือสิ่งที่ดีอันเราผู้ใฝ่ดีควรที่จะศึกษาให้ชัดประพฤติปฏิบัติให้ได้ผล</p><p> “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” นั้นหมายความว่า สิ่งดีที่เราพยายามฝึกฝน หักห้ามใจจากความชั่ว อดกลั้นต่ออารมณ์ร้ายนานาชนิด ข่มจิตข่มใจต่อความรู้สึกอันไม่พึงพอใจ ตลอดถึงการพยายามคิดดี พูดดี ทำดีจนเคยชิน ผลของธรรมที่เราสะสมไว้นั้นย่อมรักษาไม่ให้คนนั้นกลายเป็นคนใฝ่ชั่วทั้งในปัจจุบันและอนาคต เมื่อหมั่นสะสมแต่สิ่งดีงาม “ธรรมที่บุคคลตั้งใจประพฤติไว้อย่างดีย่อมนำสุขมาให้” คิดเมื่อไรก็สุขใจเมื่อนั้นเช่น “วันก่อนเราได้บริจาคสิ่งของให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เราได้บริจาคผ้าห่มให้กับเด็กชาวเขาเพื่อบำบัดความหนาวเย็นในฤดูหนาวที่ผ่านมา” คิดเมื่อไรสุขใจเมื่อนั้น ใบหน้าอิ่มเอิบพร้อมกับความสุขใจนั้นเอง ในทางตรงกันข้าม หากทำแต่สิ่งไม่ดี คิดเมื่อไรให้หมองใจเมื่อนั้นเช่น “วันก่อนโกหกแม่ว่าจะไปทำการบ้านที่บ้านเพื่อน และให้เพื่อนช่วยเป็นพยานให้ แต่เปล่าเลย ฉันกลับไปดูหนังและเดินเที่ยวเตร่ในห้าง.. ฉันไม่น่าโกหกคนที่รักฉันปานดวงใจนี้เลย คนที่เลี้ยงฉันมา คนที่คอยเอาใจใส่ฉันอยู่ตลอดเวลา” คิดเมื่อไรทุกข์ใจเมื่อนั้น ใบหน้าหมองเมื่อนั้น เห็นหน้าแม่ทีไรให้รู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ความสุขจึงเป็นผลของธรรมที่เราได้ประพฤติปฏิบัติมาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ความทุกข์ก็เป็นผลของการประพฤติไม่ดีด้วยเช่นกัน </p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p> นอกจากนั้น ผู้ประพฤติธรรมย่อมพบเจอแต่สิ่งดีๆ แม้จะพบเจอเรื่องร้ายก็สามารถทำเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีไปได้ ดังนั้นมิจำเป็นต้องกล่าวถึงว่าเมื่อตายไปแล้วจะไปที่ใด แม้มีชีวิตอยู่ก็พบแต่ทางดีมีสุข เอิบอิ่มอยู่ตลอดไป
ไม่มีความเห็น