วันที่ผ่านมาผมได้ปฏิเสธสิ่งที่ผมต้องการมากๆในช่วงนี้ ...และผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้วหากคิดเหตุผล มาจากเรื่องราวที่ผ่านมา
อย่างที่บอกว่าผมอิสระในความคิด และผมมีศักดิ์ศรีของคนทำงานเพื่ออุดมการณ์ ดังนั้นเลือดคนชายขอบที่ข้นคลั่ก คงไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ กับใคร กับอะไรที่จะบั่นทอนกำลัง
ผมเดินทางออกจากชีวิตราชการจากการตัดสินใจเพียงข้ามคืน ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ของตนเอง และกำลังเข้าสู่งานใหม่ที่ให้โอกาสแก่ชีวิตของผม จุดมุ่งหมายต่อไป คือ งานตำแหน่งใหม่ ที่ผมคาดหวังไว้
ช่วงก่อน ผมปรารถนาสิ่งนี้มาก และเฝ้ารอเสียงตอบรับอย่างใจจดจ่อ จนแล้ววันหนึ่งเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ไม่เชื่อหูตนเอง ผมได้รับคำปฏิเสธ วินาทีนั้นผมก็รู้สึกอึ้งไปมากเหมือนกัน คิด ทบทวนตัวเองก็หลายครั้ง ว่าคุณสมบัติตนเองไม่เพียงพอหรืออย่างไร แม้เพียงแต่คัดเลือกจากใบสมัครก็ไม่ติดอยู่ในสายตาขององค์กร และใบสมัครของผมถูกทิ้งลงในกล่องขยะอย่างจงใจ...หรือว่า มีอะไรมากไปกว่าการคัดเลือกที่ตรงไปตรงมาหรือเปล่า??
เหตุการณ์ครั้งนั้น ผมลดความคาดหวังลงไปมาก ผมทบทวนตัวเองทุกแง่มุม หากมองด้วยใจเป็นกลาง ผมอาจจะไม่มีความสามารถพอสำหรับหน้าที่ที่กำหนดไว้ และอีกอย่างผมคาดหวังมากเกินไป มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมีรู้สึกว่าตนเองก็หนึ่ง...หรือไม่ก็เกิดข้อผิดพลาดอะไรบางอย่าง
ดูเอาเถอะว่าการคัดเลือกเพื่อสมัครงานจากใบสมัครมากมาย Resume ผมถูกจัดในกลุ่มที่ไม่ได้รับการคัดเลือกในเบื้องต้น ...
จำเป็นต้อง AAR ตัวเองเป็นการใหญ่
และ...มันก็เป็นอย่างนั้นเอง...
แล้วเรื่องทุกอย่างก็ลืมไป
ผมยังมีความสุขกับงานของผมเรื่อยๆ งานที่ผมตั้งใจทำ งานที่ผมทุ่มเททั้งจิตวิญญาณ ข้ามผ่านเดือน...และผ่านไป ผมได้รับความภาคภูมิใจ ความสุขที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสองเดือน ...เรื่องอดีตนั้นผมลืมมันไปหมดแล้ว...
สายๆวันหนึ่ง กลางเดือน มค. ๕๐
ผมก็ได้รับโทรศัพท์ให้ไปสัมภาษณ์งาน เป็นงานเดิมที่ผมเกริ่นมาข้างต้น และได้คัดเลือกไปแล้ว มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เสียงพูดสายได้ความว่า “องค์กรสนใจคุณ” และ “มาคุยกัน” ใน วันที่...เวลา...
ผมตอบปฏิเสธในทันที โดยที่ไม่ต้องคิดให้มาก
ความกระตือรือร้น ในความอยากเหมือนคราก่อนหมดไป ผมไม่อยากทำงานในตำแหน่งที่ผมคาดหวังไว้แล้ว ถึงแม้ว่าผมอยู่ในสถานะที่ต้องทำงานใหม่ๆในช่วงนี้
ผมเลือกที่จะปฏิเสธ เมื่อมองถึงความชอบธรรมหลายๆด้าน
ท่านผู้อ่านบันทึกคงคิดว่าไม่เห็นมีอะไร
แต่ผมเสียใจครับ ผมคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นองค์กรนี้แน่ๆ ผมสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเองลงมาก ผมไม่ต้องการเริ่มต้นชีวิตกับงานชิ้นใหม่ในทัศนคติเชิงลบ และลดคุณค่าของผมลงในครั้งแรก แม้งานที่ว่าจะมีแรงจูงใจให้ผมมากแค่ไหน ...
ทุกอย่างไม่ได้สำคัญมากไปกว่า ความตั้งใจของผมเอง หากรักที่จะทำ ผมก็จะทำด้วยความรัก หากไม่ชอบในเบื้องต้น หากเลือกได้ ผมก็ไม่ทำ เลือกความเป็นอิสระให้ตนเองก่อนที่จะมีพันธนาการที่เกี่ยวรัดชีวิตผม รู้สึกหวงแหนความเป็นอิสระที่มีอยู่ในตอนนี้มาก
ทุกอย่างกำลังไปได้ดีในชีวิตผม สิ่งดีๆที่ผมได้รับจากคนรอบข้าง ทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจ และผมก็กำลังก้าวไปสู่ฝัน เป็นฝันมีพลังที่ชัดเจนในทิศทางที่มุ่งไป ด้วยใจและความมุ่งมั่นของผมเอง
คุณจตุพร ครับ
อาจารย์ หมอ สมบูรณ์ เทียนทอง
ผมเชื่อในความตั้งใจของผมครับ และผมก็ชัดเจนในทางที่ผมมุ่งไป หากมีอัชะไรที่จะลดทอนคุณค่าของผมลง ผมไม่ยอมครับ
ผมเชื่อสิ่งหนึ่งว่า คิดดี ทำดี พูดดี และสิ่งดีก็จะเป็นทุนให้ผมเดินทางต่อเรื่อยๆด้วยเสบียงกรังที่เพียงพอ สุขสบาย
ผมขอบคุณอาจารย์ในกำลังใจครับ
อีกไม่เกินสี่ปี วางแผนกับตนเองว่าจะลาออกจากงานราชการ...(ระยะเวลาเหลือใช้ทุนประมาณสี่ปีจากทั้งหมดเจ็ดปีคะ)...เพื่อปลดแอกทางพันธนาการและทำสิ่งที่ดี ที่อิสระ...และทำได้...และเกิดสิ่งที่ดีต่อชีวิตและผู้คนมากกว่าที่ยังอยู่ในระบบ....
ดูแลแม่...
ทำงานตามที่มีคนร้องขออาสาสมัคร...เท่าที่ตนมีความรู้ความสามารถ
ใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่...เพชรบูรณ์-หล่มสัก...
เรียนรู้"ชีวิต"...ที่เป็นอยู่ก่อนตาย
เดินทาง...
และอีกมากมาย
......
แต่นี้ก็อีกสี่ปีที่ยังเป็นความฝัน...แต่ความจริงที่เป็นความจริง ณ ตอนนี้ คือ เต็มที่กับชีวิตกับงานที่เราไม่ได้เลือกแต่เราก็หาความสุขจากงานนี้ได้...และความจริงที่เป็นความจริง คือ มีคนกล้าหาญที่กล้าเดินออกมา...ทำตามฝันและความคิด"อิสระ"....
ชื่นชมเสมอค่ะ
กะปุ๋ม
พี่หนิงเข้าใจค่ะคุณเอก
...ความตั้งใจของผมเอง หากรักที่จะทำ ผมก็จะทำด้วยความรัก หากไม่ชอบในเบื้องต้น หากเลือกได้ ผมก็ไม่ทำ....
เมืองปายไกลไหมครับ จะหอบกำลังใจไปฝาก
เมื่อเลือกแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปมีอยู่อย่างเดียว คือเดินหน้าในสิ่งที่ตนเลือก ทำชีวิตวันนี้ให้มีคุณค่าที่สุด เป็นกำลังให้คุณเอกค่ะ
แด่เพื่อนผู้กล้า
หนทางข้างหน้าจะขรุขระแค่ไหน
ขอแต่เพียงเพื่อนมีกำลังใจ
ฝ่าฟันอุปสรรคใดที่มี
....
ต่อยอด หนทางแห่งความฝัน
ฟาดฟันอุปสรรคเพื่อจุดหมาย
ก่อร่าง สร้างฝัน ด้วยใจกาย
เพื่อจุดหมาย เพื่อพี่น้อง เพื่อผองชน
......
คนกันเองทั้งนั้น...เป็นกำลังใจนะครับ
สวัสดีครับพี่เอก
ด้วยความนับถือ Kmsabai***
อ่านทุกตัวอักษรและคิดว่าเก็บสิ่งที่คุณเอกต้องการสื่อได้ค่ะ
ชื่นชมกับความตั้งใจจริง ความเคารพนับถือตัวเองและความเข้มแข็งที่คุณเอกมีค่ะ เชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้แหละคือ"เกราะและกำลัง"ที่จะนำพาคุณเอกไปสู่สิ่งที่มุ่งหวังตั้งใจได้เสมอไม่ว่าจะเป็นอะไร
เป็นกำลังใจให้เสมอด้วยความชื่นชมค่ะ
ศรัทธาในตัวตน แต่ไม่ใช่การทะนงตน จนมองข้ามหัวคนอื่น
เก่งนะคะ ขอชื่นชม ที่ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเอง และค้นหาหัวใจตนเองเจอ ว่าต้องการอะไร
รักษามันไว้นะคะ ให้เหมือนเกลือ รักษาความเค็ม (เกี่ยวกันมั้ยเนี้ยะ)
และแวะมาเชิญชวนให้ติดตาม อ่านบล็อก น้องใหม่ กัลยา พึ่งไปชักชวนมาเอง
เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ถ่ายทอดออกมาจากประสบการณ์การทำงานกับชุมชนจริงๆ เห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็เลยมาชักชวน เพื่อร่วมเป็นกำลังใจนักพัฒนาค่ะ
http://gotoknow.org/blog/dongluang-1/72637
คิดว่าแนวคิดในสไตล์ นี้ คงจะถูกคอ คุณจตุพร ไม่มากก็น้อย เพราะในมุมมองส่วนตัว คิดว่า ท่านนี้ (อ.ไพศาล) น่าจะมีรูปแบบการทำงานคล้ายคลึงกัน(ตัดสินจากการอ่านบันทึกนะคะ)
ครูเอก ครับ
กรรมคือผลของการกระทำ ถ้ามั่นใจว่าทำดี สิ่งดีๆก็จะเข้ามาในชีวิต ผมคิดว่านี่คือสัจจธรรม และ กำลังใจก็จะไม่เหือดหายครับ
มาให้กำลังใจค่ะ เชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง เพราะว่านั่นคือหนทางที่เลือกแล้วนะค่ะ สู้ๆค่ะ
ความรู้สึกของเอก ตอนนี้เพิ่งเป็นปฐมบทของเส้นทางอิสระนะครับ
เหมือนคนไม่เคยขับรถยนต์ กำลังหัดขับ ย่อมเป๋ซ้ายเป๋ขวาบ้าง บางที่ก็มีไปเฉี่ยวชน ใจคนหัดขับก็หวิวๆ กังวลไปจิปาถะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ชนอะไรมากมายซักหน่อย
ก็มันไม่คุ้นนี่หว่า....
พอขับรถเริ่มคล่อง คนกับรถเริ่มหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คราวนี้ก็ลุยไหนลุยกัน อาสาขับให้คนอื่นไปหมด ตอนนั้นสนุกล่ะครับ
ผมรู้สึกเหมือนเอกนะครับ ว่าขับรถด้วยตัวเอง มันส์กว่า ให้ใครก็ไม่รู้มาขับให้
ชีวิตก็เหมือนกันครับ
การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ได้หมายความว่า เราจะมีความสุขในการดำเนินชีวิตตลอดไป
เด็ก ๆ เรามักจะได้ยินความถามที่ผู้ใหญ่ถามว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร" "ถ้ายังงั้นเราต้องขยันเรียน และขยันทำอะไรอีกมากมาย"
ไม่เห็นมีใครมาถามเราว่า "เราอยากเป็นยังไงในตอนท้ายของชีวิต"
บางครั้งมันทำให้เราสับสนกับความต้องการ และสิ่งที่ควรทำเพื่อความสุขของชีวิตที่แท้จริงไป
Live and Learn
ขอบคุณสำหรับทุกข้อคิดเห็นครับ...เป็นเพียงจดหมายเหตุชีวิต ที่ผมเขียนขึ้นมาครับ
บางครั้งดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวค่อนข้างมาก แต่คือชีวิตของผมที่พยายามประกาศตัวตนออกมา
ผมคิดว่าชีวิตหนึ่งเป็นของเรา เราออกแบบชีวิต ลิขิตด้วยมือของผมเอง
เป็นการเรียนรู้ และการเรียนรู้ของผมขอเป็นจุดคิดเล็กๆให้คนอีกหลายคน
ผมขอขอบคุณทุกกำลังใจ ปิยะมิตรดีๆ ทำให้ผมมีกำลังใจเดินทางต่อเสมอ
ขอบคุณ
อาจารย์ paew
ท่านทั้งหมดมาให้กำลังใจครับ ผมเข้าใจว่า หากจะพูด จะเขียน คงเหมือนท่านอื่นๆ เลยฝากลิขิตไว้ว่า เหมือนท่านอื่น ก็รู้สึกซาบซึ้งครับ
ขอเป็นตัวของตัวเอง และอิสระที่ผมหวงแหนครับ แต่ในการทำงานผมขอทุ่มเททำในสิ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคมให้มากที่สุด ที่ผมสามารถทำได้
ขอบคุณอาจารย์ หิ่งห้อย
มีความสุขมากครับ ตามที่อาจารย์ได้บอกมา ส่วนหนึ่งอาจารย์ก็ช่วยให้ผม มีความสุขครับ ปีนี้เป็นปีที่มีความหมายสำหรับผมครับ เป็นเหมือนกงล้อแห่งโชคชะตาของผมที่ต้องพานพบ
และก็ได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ วันนี้ผมประทับใจและซาบซึ้งใจกับบ้นทึกอาจารย์หมอวิจารณ์ที่ได้ให้กำลังใจผมครับ
ที่ http://gotoknow.org/blog/thaikm/72688
ขอบคุณอาจารย์ครับ
ดีใจค่ะ ที่คุณเอก ก้าวผ่าน ช่วงนั้นมาได้
เชื่อมั่น ศรัทธา ในตัวคุณเอกเสมอค่ะ
สิ่งที่ได้กลั่นกรองแล้ว ตัดสินใจแล้วคิดว่าเหมาะสมกันตนเองแล้วมีความสุข ก็ยินดีด้วยค่ะ เชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณเอกนะคะ
ตัวเราเองเป็นคนมีหน้าที่หมุนวงล้อแห่งโชคชะตาค่ะหนุ่มดอย ฮิฮิ หุหุ ฮ่าฮ่า
^_____^
.....................................................................
ชะตาชีวิตถูกลิขิตด้วยตัวพี่เอง นี่แหละคือสิ่งที่หลายคนถวิลหา การก้าวไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ใจเรากำหนด สุดท้ายความสุขก็จะอยู่ที่ตัวเราเองครับ
พี่ รัตติยา เขียวแป้น
ด้วยกำลังใจส่วนหนึ่ง จากปิยมิตร ทำให้ผมก้าวผ่านในหลายๆเรื่องได้อย่างภาคภูมิ
ผมคิดว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้อดทนและทำความดีต่อเนื่อง ความดีสวยงามเสมอครับ
IS คุณแนนนี่
กำลังจะบอกผมว่า เราเองเป็นผู้กุมชะตาชีวิตตัวเอง ผมก็ว่าใช่ครับ นอกจากลิขิตฟ้า ลิขิตมาบางส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วเราลุยเอง
ขอบคุณครับ
น้องชาย สิทธิเดช กนกแก้ว
มาด้วยบทกวีที่สวยงามให้ชื่นใจแทบทุกครั้ง ...ขอบคุณกำลังใจดีๆนะครับ
อาจารย์Handy
ขอบคุณอาจารย์ที่มาเยี่ยมและมอบกำลังใจ
ทำให้ผมเชื่อมั่นมากขึ้น อบอุ่นมากขึ้น และผมก็เชื่อว่า "สุขจากการให้นั้นยิ่งใหญ่ จงก้าวเดินต่อไป ด้วยความมั่นใจว่า บนเส้นทางนี้ ความเหงาจะมี น้อยลงทุกวัน"
อาจารย์ ดร.ขจิต ฝอยทอง
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม และขอให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไปเช่นกันครับผม
น้องเก่ง ปริวัตร เขื่อนแก้ว
ผมถวิลหา "อิสระ" ในตนตัวมานานแล้วครับ ทำตามใจที่ต้องการและไม่เดือดร้อนใคร ช่วยสังคมได้ตลอดเวลา ตามกำลังที่มีอยู่
ทำดีเป็นพื้นฐาน ผมคิดว่า ทางข้างหน้าสบายอยู่แล้วครับ
***ไม่ค่อยเห็นบันทึกของน้องเก่งเลยครับ ช่วงหลัง
จากเพลง รอยทางแห่งความฝัน
คุณกัลปังหา
เพลงนี้มีความหมายดีมากครับ...
คิดว่าเนื้อหาคงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ผ่านมาและโดยเฉพาะผมด้วย
ผมขอขอบคุณมากครับ
ในชีวิตคนเรา ย่อมมีทางเลือก หลากหลายเส้นทาง
ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่ต้องมี การเลือกเกิดขึ้น
โอกาส .... มีเข้ามาในชีวิต.... ให้เราเป็นคนเลือก
ตัวเราเองเท่านั้น ที่จะตัดสินใจเลือกว่า อันไหนล่ะ คือ โอกาสดีของเรานะคะ
ก็เป็นกำลังใจให้กันนะคะ
ว่า สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราตัดสินใจ สิ่งที่เราเป็น ณ ปัจจุบันนี้ล่ะ ดีที่สุดสำหรับตนในขณะนั้น
ยังไง อุดมการณ์ที่ดีของเรา หากเรายังยึดมั่นอยู่ในความดี เชื่อแน่ว่าสักวันหนึ่ง สิ่งที่เราใฝ่ฝันนั่นจะมีอยู่จริง..
เพราะเราเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางของตนเอง...และตนเองเป็นคนเลือก อย่างที่บอกว่าผมมีเวลาน้อยลง ที่เหลืออยู่ผมก็อยากทำให้ดีที่สุด
เมื่อไม่ใช่ ก็ไม่เลือก
ผมก็เชื่อมั่นใน "ความดี" เสมอครับ
ให้กำลังใจคุณปทุมารียา (ชื่อเพราะมาก)