บันทึกไว้สอนตน
1 . ในทางพุทธศาสนามองว่าสรรพสิ่งเป็นอนัตตา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า คำว่าสรรพสิ่งคืออะไรกินความกว้างขนาดไหนใครรู้บ้างช่วยอธิบายทีครับผม
2 . ในทางศาสนาคริสต์มองว่า คนเราย่อมมีอัตตาอยู่จริงหาไม่แล้วจะกล่าวถึงความสุขในภพหน้าไว้ด้วยเหตุผลกลใด
3 . คัมภีร์พระไตรปิฎกถูกเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 450 ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ที่วัดอาโลกวิหาร เมืองมาตะเล ประเทศศรีลังกาเรื่องนี้มีเล่าไว้ในหนังสือมหาวงศ์
4 . การอยู่ร่วมกันในสังคม ตนควรเข้าใจคนรอบข้างร่วมสร้างทางชีวิตให้สดใสและ ปลอดภัยจากอบายมุข
5 . ใครก็ตามถ้าเป็นคนโกหกเขาจะขาดความเชื่อถือ แต่การพูดความจริงนั้นถือว่าเป็นสิ่งกล้าหาญ
6 . การที่พ่อแม่พูดความจริงจะทำให้ลูก ๆพูดความจริงตาม
7 . คนเกียจคร้านต้องแก้ด้วยการจัดหน้าที่ให้เขารับผิดชอบจากน้อยไปหามาก ค่อยฝึกไปเรื่อย ๆใจเย็น ๆ
8 . เรื่องอบายมุขเป็นสิ่งที่ติดง่าย ควรสอนตนให้รู้ถึงผลเสียและจุดจบเช่นนักพนันทั้งหลาย อย่าปล่อยเวลาให้ว่างและไม่ควรคบกับนักพนัน
9 . การที่เราทำอะไรทุกอย่างกว่าจะเป็นและกว่าจะเชี่ยวชาญ ต้องอาศัยการฝึกฝนทั้งนั้น โดยอาศัยการพัฒนามาจากปัญญา และปัญญาที่แท้เกิดจากการที่เรามีสติในทุกขณะจิตใครทำได้ขอปรบมือให้ครับ
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umi
สวัสดีค่ะ.ท่าน อ.umi
ขอบคุณค่ะสำหรับบันทึกนี้...ทุกอย่างบรรลุได้ด้วยความเพียรและความตั้งม่นในสิ่งที่ดีงาม....
"ถอดออก...ถอยออก..และมองดู...พิจารณาดู
และค่อยเดินต่อ...อย่างมั่นใจในความดีงาม"
นำมาแลกเปลี่ยนค่ะ
(^______^)
กะปุ๋ม
สวัสดีปีใหม่ครับ คุณกะปุ๋ม
มั่นใจในความดีงาม เป็นคมความคิดที่น่าสนใจยิ่ง
เป็นการไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควรนะครับ...ผมพึ่งจับเข่าคุยกับบรรดานิสิต ป. เอก สาขาวิชาวัฒนธรรมในเรื่องความเพียรพยายามความตั้งมั่นเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จสมหวังดังตั้งใจไว้ ตั้งแต่ช่วงเช้า 9 โมงเศษพึ่งเลิกมานี้
ขอบคุณครับที่มาเติมเต็มและลปรร.