ปรากฏการณ์ร้อยเอ็ดวิทยาลัย


 

มีการโพสต์ต่อๆ กันมา   เป็นความรู้น่าเอาเป็นตัวอย่างของการสร้างความกระตือรือร้นต่อการเรียนของนักเรียน ในรูปแบบหนึ่ง   

“ถอดรหัสปรากฏการณ์เด็ก รว. ติด 42 แพทย์ สังคมวงกว้างทั่วประเทศและสื่อมวลชนสำนักข่าวต่างๆ ต่างหยิบยกเอาข่าวเด็กโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยมาเป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ บางคนอาจจะสงสัยว่าเขาทำยังไงถึงสอบติดได้กลุ่มใหญ่ขนาดนี้ ที่มาที่ไปเป็นยังไงถึงทำได้ ร้อยเอ็ดวิทยาลัยเขาสอนเด็กยังไง บรรยากาศการศึกษาของเมืองร้อยเอ็ดเขาทำยังไง ผมขออนุญาตแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยนะครับ ลูกอยู่โรงเรียนนี้สองคนเรียน ม.ต้น และ ม. ปลาย กระบวนการจะเริ่มตั้งแต่การสอบคัดเลือกตั้งแต่ม. 1 โดยจะเป็นรอบห้องเรียน gifted 4 ห้องเรียน จาก 12 ห้องเรียน เป้าหมายหลักคือห้อง gifted 1/12 หรือ /11 ห้องละ 36 คน ระหว่างทางก็จะพัฒนาและเติมเต็มกันไปเรื่อยๆโดยการเรียนพิเศษหลายๆครูควบคู่กับเรียนที่โรงเรียน โดยเด็กโครงการจะได้เรียนถึงคาบ 9 และมีเสริมพิเศษเข้าไปอีกวันเสาร์เช้าถึงเที่ยง แต่บรรยากาศการเรียนของเด็กเมืองร้อยเอ็ดก็จะวิ่งเรียนต่อหลังเลิกเรียนเป็นปกติทุกๆวัน ที่นี่จะมีกวดวิชาแบรนด์เนมหลายๆสถาบันมาเปิด เช่น WE by the Brain, On Demand, Sup K, Applied Physics, BioBeam รวมถึงครูอาจารย์ต่างๆทั้งที่เป็นครูโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยเอง หรือติวเตอร์อิสระต่างๆ ทำให้บรรยากาศการเรียนของเมืองร้อยเอ็ดมีความคึกคักหลากหลายมาก และนอกจากนี้แล้วบรรยากาศการสอบแข่งขันทางวิชาการของกลุ่มสาระวิชาต่างๆของโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยก็จัดทุกปี รวมถึงโรงเรียนพี่น้องกันอย่างโรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ดก็จัดสนามสอบแข่งขันทางวิชาการเหมือนกัน เทอม 2 เด็กร้อยเอ็ดจะวิ่งสอบเกือบทุกวันอาทิตย์ สนามสอบจังหวัดใกล้เคียงอย่างของสารคามพิทยาคมหรือวาปีปทุม เด็กร้อยเอ็ดก็ตระเวณสอบแข่งขันไปทั่ว ดังนั้นจึงทำให้เด็กร้อยเอ็ดเกิดความตื่นตัวทางวิชาการอยู่ตลอด

ที่นี้พอเด็กผ่าน ม.ต้น จบ ม. 3 แล้วต้องสอบเข้า gifted กันใหม่ตอนเข้า ม. 4 เด็กทุกคนจะถูกล้างไพ่หมดแล้วมาสอบกันใหม่ ม.ปลายจะเปิดห้องเรียนทั้งหมด 18 ห้อง แยกเป็นสายวิทย์คณิต สายศิลป์คำนวณ สายศิลป์ภาษา สายศิลป์สังคม แต่สายวิทย์ - คณิตก็ถือว่าเป็นสายหลักของโรงเรียนนี้เหมือนเดิม เด็กห้องกิ๊ฟเดิมก็จะต้องพยายามรักษาตำแหน่งไว้ให้ได้ ห้องท็อปสุด ม. ต้นคือห้อง /12 ม. ปลายคือห้อง /18 ภาษาชาวบ้านจะเรียกห้องนี้ว่า Super Gifted ที่เป็นชื่อเล่นที่เรียกติดปากกันมาหลายปี ความจริงเขาใช้ชื่อว่า science room gifted program SRGP แต่มันจำยากก็เลยเรียกว่า super จนติดปาก เด็กห้องนี้ก็มักจะเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาสอบก็จึงสอบขึ้นซุปเปอร์ม. 4/18 ได้อีก แต่ก็มีห้องกิ๊ฟ ห้องธรรมดาหรือห้อง english program ก็เบียดแซงโค้งขึ้นมาห้องซุปเปอร์ได้เหมือนกัน รวมถึงม้ามืดจากต่างโรงเรียนก็มาบ้าง แม้กระทั่งเด็ก sup เองก็ตก sup ไปอยู่รอง sup บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นเด็กร้อยเอ็ดเองที่จองตำแหน่งเดิมไว้เป็นส่วนใหญ่ 

ทีนี้ขออนุญาตโฟกัสเฉพาะกลุ่มเด็กที่ติดแพทย์เยอะๆปีนี้ถึง 41 แพทย์มข. และ 1 แพทย์ศิริราช รวมเป็น 42 แพทย์ ในประกาศจะเห็นเลข 18 อยู่หลังชื่อเด็กเป็นส่วนใหญ่ หมายความว่าเป็นเด็กห้อง 6/18 และก็ยังมีเลข 17 อยู่หลายคนเช่นเดียวกัน รวมไปถึงอาจจะมี 16 หรือ 15 เข้ามาแทรกบ้าง แต่ปีนี้เด็กห้อง 18 คนไหนที่เลือกแพทย์ก็ติดกันหมดเกือบทุกคน เพราะว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นให้นักเรียนสอบ NETSAT ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว 2 ปี แล้วเลือกเอาครั้งที่คะแนนดีที่สุดไปยื่นโควต้า   ส่วนใหญ่จะต้องเกินค่าคะแนนต่ำสุดของปีที่แล้วเสมอ คะแนนเฉลี่ยที่ปลอดภัยจะอยู่ที่ 70% ขึ้นไป เด็กก็รู้ตัวมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วว่าคะแนนพอที่จะยื่นคณะแพทย์ติดไหม ดังนั้นแล้วกระบวนการเตรียมตัวเข้าคณะแพทย์มข. เด็กร้อยเอ็ดวิทยาลัยจึงรู้ตัวแล้วตั้งแต่อยู่ ม. 5 สอบ NETSAT ครั้งแรก ปีหนึ่งจะเปิดสอบ 2 ครั้ง ดังนั้นเด็กคนหนึ่งก็จะสอบได้ถึง 4 ครั้ง แต่ถึงแม้ว่าจะสอบได้หลายครั้งก็ตามแต่ความสามารถคนมันก็ไม่เท่ากัน ทุกคนมีสิทธิ์สอบ 4 ครั้งเหมือนกัน ระหว่างทางของการสอบแต่ละครั้งเด็กก็จะไปอ่านหนังสือทำข้อสอบเรียนกวดวิชาสารพัดสารเพ เพื่อที่จะทำคะแนนให้ได้เกินคะแนนต่ำสุดให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้นแล้วในปีนี้ ปีการศึกษา 2567 บังเอิญมีเด็กถึง 41 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากทางคณะแพทย์มข. จึงเป็นที่มาที่ไปของปรากฏการณ์ในครั้งนี้ครับ”   

 

วิจารณ์ พานิช

๒๘ เม.ย. ๖๗

 

 


 

 

หมายเลขบันทึก: 718212เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2024 15:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2024 15:18 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท