บทความเรื่อง Flexible learning and teaching: an opportunity for growth ในเว็บไซต์ University World News ฉบับวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เล่าการดำเนินการอย่างเป็นระบบของกลุ่มมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งในยุโรป (ภายใต้สมาคม EUA – European University Association) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการเรียนการสอนในลักษณะ Learning & Teaching Thematic Peer Groups สำหรับปี 2023 หนึ่งใน Thematic Peer Group (TPG) คือกลุ่มพัฒนาการเรียนการสอนแบบยืดหยุ่น ใน ๒ ระบบ คือระบบการศึกษาแบบเป็นทางการ ที่นักศึกษาเรียนเต็มเวลา กับระบบการศึกษาที่ไม่เป็นทางการ เช่น การเรียนแบบไม่เอาปริญญา เพื่อรับ ไมโครเครดิต หรือใบประกาศนียบัตร
อ่านแล้วผมตีความว่า ในกรณีของบทความ การเรียนการสอนแบบยืดหยุ่นมีประโยชน์ (๑) ช่วยให้ความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาข้ามประเทศในภูมิภาคเดียวกัน (ในกรณีนี้คือ อียู) ในเรื่องการศึกษาของนักศึกษา ทำได้สะดวกหรือง่าย (๒) เอื้อต่อนักศึกษา ให้เลือกรูปแบบการเรียนได้เหมาะแก่บริบทของตนเอง
ทำให้คิดว่า กลุ่มประเทศอาเซียนน่าจะมีโปรแกรมทำนองเดียวกัน หรือมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งในประเทศไทยน่าจะรวมตัวกันดำเนินการ TPG ในลักษณะคล้ายๆ กัน ซึ่งก็คือ COP – Community of Practice ข้ามประเทศนั่นเอง โดยแต่ละปีกำหนดหัวข้อที่จำเพาะ อย่างกรณี EUA ในปี 2023 มี ๓ TPG โดย Flexible Learning & Teaching เป็นหนึ่งในสาม TPG แล้วเขานำผลของการทดลองและเรียนรู้ไปเสนอในการประชุม 2024 European Learning and Teaching Forum ที่ Ruhr University Bochum เยอรมนี วันที่ ๘-๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ซึ่งผ่านไปแล้ว ผมจะค้นรายละเอียดมาเล่าในโอกาสหน้า
กลับมาที่ข้อเสนอเรื่องการเรียนและการสอนอย่างยืดหยุ่น ที่มีความซับซ้อนหลากหลายมาก และมีพลวัตสูง เขาเตือนว่าอย่าหลงคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกับ การเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนย่อยนิดเดียวของการเรียนและการสอนอย่างยืดหยุ่น
เขาถามความเห็นของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ และนักศึกษาบอกว่าต้องการความยืดหยุ่นด้าน (๑) การเลือกวิชาเรียน (๒) ความยืดหยุ่นในการจัดรูปแบบของ hybrid learning (๓) มีการเรียนทางไกล (๔) มีรูปแบบการเรียนหลากหลาย (๕) มีเทคโนโลยีที่หลากหลาย
ถามความเห็นของอาจารย์ ได้รับคำตอบแบบสงวนท่าที และไม่เห็นด้วยกับการให้ความสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอนหลาย mode, method, และ technology แต่แสดงความกังวลเรื่องงานล้นมือ และการรับมือนักศึกษาที่มีความแตกต่างหลากหลาย
ข้อเสนอแนะของ Learning & Teaching Thematic Peer Groups ได้แก่
ข้อเสนอแนะที่ ๑ การพัฒนายุทธศาสตร์ และสมรรถนะระดับสถาบัน สร้างวัฒนธรรมความยืดหยุ่นและปรับตัว ให้เวลาและทรัพยากรเพื่อร่วมกันตีความคำว่า “การเรียนรู้อย่างยืดหยุ่น”
ร่วมกับหุ้นส่วนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (engaging stakeholders) อันได้แก่นักศึกษา อาจารย์ และหุ้นส่วนภายนอก ในการกำหนดลำดับความสำคัญ และกำหนดยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม
สื่อสารกับหน่วยนโยบาย เพื่อการกำหนดกฎเกณฑ์กติกา และงบประมาณสนับสนุนการเรียนและการสอนแบบยืดหยุ่น
ข้อเสนอแนะที่ ๒ ความเป็นผู้กระทำการ (agency) ของนักศึกษา สถาบันเอื้ออำนาจให้นักศึกษาได้ตัดสินใจ (อย่างมีข้อมูลหลักฐานประกอบ) ในขั้นตอนของเส้นทางการเดินทางของการเรียนรู้ (learning journey) ของตน โดยจัดให้ในหลักสูตรมีโมดูลเรื่อง การรับผิดชอบตนเอง (autonomy) การจัดการเวลา (time management) และ การกำกับตนเอง (self-regulation)
สถาบันควรส่งเสริมให้มี “ชุมชนหรือกลุ่มเรียนรู้” (learning communities) ของนักศึกษา และเครือข่ายนักศึกษาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (peer support networks) คือนำเอา KM – Knowledge Management - การจัดการความรู้ มาช่วยให้การเรียนรู้ของนักศึกษา มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ข้อเสนอแนะที่ ๓ การออกแบบหลักสูตร เชื้อเชิญนักศึกษาเข้าร่วมออกแบบหลักสูตร เพื่อให้ความเห็นเรื่องความยืดหยุ่นจากมุมของนักศึกษา และหลักสูตรยึดแนวนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง (student-centered approach)
มีระบบเรียนเป็นโมดูล และระบบโอนย้ายหน่วยกิต เพื่อส่งเสริม personalized learning ของนักศึกษาแต่ละคน และสถาบันอุดมศึกษาร่วมกันกำหนดสมรรถนะของนักศึกษาเมื่อแรกเข้า และระบบการรับรองหน่วยกิต (credit recognition) ซึ่งกันและกัน
ข้อเสนอแนะที่ ๔ ทรัพยากร เน้นทรัพยากรสำคัญ ๒ อย่างคือ (๑) เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้ง ปัญญาประดิษฐ์ ที่มีการส่งเสริมให้ใช้อย่างมีจริยธรรม (๒) ระบบตรวจสอบคุณภาพ ของการจัดการเรียนรู้อย่งยืดหยุ่น
ข้อเสนอแนะที่ ๕ การพัฒนาอาจารย์ บูรณาการเรื่องการเรียนการสอนอย่างยืดหยุ่นอยู่ในระบบพัฒนาวิชาชีพอาจารย์ มีระบบแรงจูงใจ ระบบพี่เลี้ยง (mentorship) และระบบประเมิน
กล่าวโดยสรุปสั้นที่สุด บูรณาการเรื่องการเรียนการสอนอย่างยืดหยุ่นเข้าไว้ในระบบงาน โดยมีกลไกเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
วิจารณ์ พานิช
๒๙ ก.พ. ๖๗
ไม่มีความเห็น