พระราโชวาทพระราชทาน แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เวลา ๐๘.๒๑ น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตร
แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕
ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ในการนี้ สภามหาวิทยาลัยฯ
มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
สาขาวิชาศึกษาศาสตร์
แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการศึกษา
โดยพระราชทานโครงการพระราชดำริต่าง ๆ
เพื่อช่วยเหลือเยาวชนให้มีโอกาสทางการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โอกาสนี้
พระราชทานพระราโชวาทใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า
"ในปัจจุบัน กล่าวกันมากว่า
การเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
จนอาจมีความสามารถที่จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในกิจการงานต่าง ๆ
หากคนเราไม่เรียนรู้และปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงนี้
ก็คงยากที่จะดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานให้บรรลุถึงความสำเร็จและความเจริญได้
ข้าพเจ้าจึงใคร่จะกล่าวถึง
วิธีการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนตลอดชีวิต
เพื่อให้ทุกท่านได้พิจารณา
ประการแรก
กระทำตนให้พร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา
โดยระลึกไว้เสมอว่า
ความรู้ความสามารถนั้น เป็นสิ่งที่พัฒนาได้
ด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และการฝึกหัดปฏิบัติ
ประการที่สอง
เข้าไปคบหาสมาคมกับคนดี มีความรู้ความสามารถ
จะได้ถ่ายทอดความรู้และความดีซึ่งกันและกัน
ช่วยชักนำกันให้เกิดความอุตสาหะพากเพียรในการเรียนรู้ และการพัฒนาตนเอง
ประการที่สาม
ลงมือปฏิบัติ
ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้มากกว่าการท่องจำ แต่เพียงอย่างเดียว
และเป็นการพัฒนากระบวนการคิด
ตลอดจนการนำความรู้มาปรับใช้และต่อยอด
อันจะทำให้เกิดความมั่นใจและความเชี่ยวชาญชำนาญ
ซึ่งน้อมนำให้เกิดความใฝ่รู้ใฝ่เรียนได้เป็นอย่างดี
ประการที่สี่
เลือกการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง
โดยกำหนดวิธีการ ช่วงเวลา เป้าหมาย ลำดับในการเรียนรู้
และเรื่องที่จะเรียนรู้ให้พอเหมาะพอดีกับ
ศักยภาพ
ความถนัด
ความสนใจและปัจจัยแวดล้อมของตน
ประการสุดท้าย
เมื่อสำเร็จการศึกษาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
อาจจะไม่มีผู้ใดมาคอยบอกกล่าว หรือกระตุ้นเตือนให้ศึกษาหาความรู้
มีเพียงตนเองเท่านั้น ที่จะกระตุ้นและผลักดันตนเอง
ให้มีความตั้งใจอันมั่นคงที่จะเรียนรู้ต่อไปไม่สิ้นสุด
จึงขอให้บัณฑิตทุกคน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองดังที่กล่าว
เพื่อความสำเร็จ และความเจริญมั่นคงในชีวิตและกิจการงานสืบไป"
นำมาจาก เพจ : เรารักกรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ Our Beloved HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn
พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้
จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ
ทั้งทางด้านอนาล๊อก และด้านดิจิทัล
ผู้บันทึก
๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ไม่มีความเห็น