๑,๔๐๐ สอนอ่านเขียนแบบง่ายๆ ได้ใจผู้ปกครอง


นักเรียนร้อยละ ๘๐ เขียนได้ดีมาก ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ลายมือสวย เนื่องจากเขาอ่านคล่องและรักที่จะเขียน ตลอดจนครูให้อ่านคำที่เขากำหนดขึ้นมาเอง จึงเป็นตัวช่วยให้ง่ายต่อการเขียนเรื่อง

สอนอ่านเขียนแบบง่ายๆ ได้ใจผู้ปกครอง

          ผมเขียนเรื่องนี้หลายครั้งและพูดมาหลายเวที จนทำให้เรื่องนี้ของผมตกผลึก ส่งผลให้เด็กของผมทั้ง ป.๒ - ป.๓ กำลังจะไปได้สวยงาม แบบว่าท้าพิสูจน์ได้ในทุกเวลา

          อาจเป็นพราะผมจบเอกภาษาไทย หรือไม่ก็มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเนื้อหาและกิจกรรม ทำซ้ำๆจนเกิดความชำนาญ จึงเข้าใจบริบทของผู้เรียน และเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนอยู่ตลอดเวลา

          บทเรียน..จากการสอนเมื่อครั้งเป็นผู้บริหารฯ ผูกเป็นเรื่องราวได้นับครั้งไม่ถ้วน เคยช่วยสอน ป.๑ เพื่อเตรียมรับการประเมินผล(RT) เน้นการอ่านแต่ไม่มีเวลาพัฒนาการเขียนเท่าที่ควร

          ผลออกมาพบว่าเด็กอ่านได้และอ่านคล่อง ตลอดจนเขียนได้แต่เขียนช้า..ทำให้คะแนนที่ออกมาไม่สู้ดี จึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น..ความรู้ความเข้าใจสำคัญที่สุด

          ครูจึงไม่ควรพุ่งเป้าไปที่การสอบอย่างเดียว แต่ต้องคำนึง”ทักษะ”ที่ต้องพัฒนา อันจะเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ของเด็กทั้งปัจจุบันและอนาคต

          ผมเชื่อมั่นมาตลอดว่า ถ้าเด็กอ่านออกย่อมจะเขียนได้ แต่การเขียน..เป็นทักษะที่สอนยาก ครูต้องพยายามเรียนรู้ เพราะการเขียนคือการสื่อสาร ที่สามารถวัดคุณภาพผู้เรียนได้เป็นอย่างดี

          ทุกวันนี้..ผมเน้นการอ่านรู้เรื่องให้เด็กป.๓ โดยใช้วรรณกรรม..อ่านเรื่องไหนก็ถามเรื่องนั้น บูรณาการไปถึงมาตราตัวสะกด คำคล้องจอง คำควบกล้ำ และ เครื่องหมายวรรคตอน          

          ส่วนการเขียน...มีหลากหลายวิธี ที่ชอบมากก็คือการเรียนรู้นอกสถานที่ แล้วนำมาเขียนเรื่อง เด็กจะชอบมากเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น ไปค่ายลูกเสือก็เขียนมา ไปทัศนศึกษาก็มาเล่า(เขียน)ให้ครูได้รู้บ้าง

          วันนี้ให้ ป.๓ พูดออกมาคนละ ๒ คำไม่ซ้ำกัน เกี่ยวกับบรรยากาศของการไปทัศนศึกษา ผมเขียนคำบนกระดาน เด็กทุกคนจึงได้สัมผัสคำใหม่ๆอย่างมากมาย

          ผมตั้งโจทย์ให้นักเรียน..จงเขียนเรื่องเล่าจากประสบการณ์ การเดินทางไปทัศนศึกษา อย่างน้อย ๗ บรรทัด

          นักเรียนร้อยละ ๘๐ เขียนได้ดีมาก ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ลายมือสวย เนื่องจากเขาอ่านคล่องและรักที่จะเขียน ตลอดจนครูให้อ่านคำที่เขากำหนดขึ้นมาเอง จึงเป็นตัวช่วยให้ง่ายต่อการเขียนเรื่อง

          ผมคิดว่า นี่คือพื้นฐานสำคัญในการสอนเขียนเรื่องจากภาพ และต่อไปไม่มีภาพ เขาย่อมจะเขียนได้

          เขียนเสร็จก็ให้อ่าน เพื่อเสริมแรง และสร้างแรงบันดาลใจให้เขารัก..ที่จะเรียนรู้ภาษาไทย

          ณ วันนี้ ผมมองข้าม NT มีความสุขในการสอน บอกน้องๆที่เป็นผอ.รร.ว่า ถ้าเบื่อทำจดหมายข่าว เพราะผปค.ไม่ค่อยสนใจ ลองส่งเสียงและผลงานลูกหลานของเขา ไปในกลุ่มไลน์ชั้นเรียนบ้าง..ก็น่าจะดีกว่ากันเยอะ

          เบนเข็มจากงานประชาสัมพันธ์ด้วยภาพนิ่ง มาเป็นภาพและเสียงที่สดใส หันมาเอาใจลูกค้า (ผปค.)อย่างจริงจัง บางทีอาจจะทำให้เด็กเพิ่มมากขึ้นก็ได้

          ผมเคยทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งที่ไม่ใช่คนเก่ง แต่จริงจังด้านการสอน และปรับปรุงวิธีการสอนตลอดเวลา ให้มีความเร้าใจ เด็กชอบหรือไม่? เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ตอนนี้อ่านและเขียนดีขึ้นมาก ผมก็พอใจแล้ว

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๗

          

 

หมายเลขบันทึก: 717232เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2024 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2024 21:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท